MTC มั่นใจผลงานปี 67 โตแกร่ง พอร์ตสินเชื่อขยายตัว 20% ตามเป้า
MTC เปิดงบไตรมาส 1/67 พอร์ตสินเชื่อเติบโต 17% แตะ 147,587 ล้านบาท มั่นใจผลงานปีนี้ยังโตต่อเนื่อง ตั้งเป้าพอร์ตสินเชื่อเติบโต 15-20%
นายปริทัศน์ เพชรอำไพ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC เปิดเผยว่า บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นสู่การเป็นไมโครไฟแนนซ์มาตรฐานระดับโลก เน้นจุดแข็งความยั่งยืนให้กับธุรกิจ สร้างความเท่าเทียมทางการเงินให้ครอบคลุมทั่วประเทศ พัฒนาการบริการลูกค้าให้เกิดความประทับใจในทุกมิติ โดยในไตรมาส 1/2567 บริษัทฯ มีรายได้รวม 6,631 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.80% กำไรสุทธิ 1,389 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29.80% และพอร์ตสินเชื่อเติบโต 17.40% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน แตะที่ระดับ 147,587 ล้านบาท
“ปัจจัยหนุนสำคัญที่ช่วยผลักดันรายได้และกำไรในไตรมาส 1/2567 ยังคงมาจากแรงขับเคลื่อนของสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ และการขยายสาขาเพิ่ม ทำให้ยอดปล่อยกู้ขยายตัวมากขึ้น โดยบริษัทฯ ได้เปิดสาขาเพิ่ม 251 สาขา รวมเป็น 7,788 สาขา ในสิ้นเดือนมีนาคม 2567 ซึ่งในปีนี้เรามีแผนเปิดเพิ่ม 600 สาขา เพื่อรองรับดีมานด์ลูกค้า”
สำหรับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ในไตรมาส 1/2567 ปรับตัวลดลงจากไตรมาสก่อนมาอยู่ที่ 3.03% ซึ่งมั่นใจว่าได้ผ่านจุดสูงสุดไปแล้วตั้งแต่ปี 2566 หลังจากตัดหนี้สูญ และขายเอ็นพีแอล รวมไปถึงให้ความสำคัญกับการปล่อยสินเชื่อด้วยความระมัดระวังขึ้น
รองกรรมการผู้จัดการ MTC กล่าวอีกว่า มั่นใจว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในปี 2567 จะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยตั้งเป้าพอร์ตสินเชื่อเติบโต 15-20% เพื่อกระจายการเข้าถึงแหล่งเงินทุนผ่านสาขาที่คาดว่าจะมีอยู่กว่า 8,000 แห่ง ภายในสิ้นปีนี้ และตั้งเป้าคุมสัดส่วนเอ็นพีแอลไม่เกิน 3.20% ควบคู่ไปกับการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีแผนการจัดหาเงินทุนผ่านการกู้ยืมจากสถาบันการเงินทั้งในและต่างประเทศ และการออกหุ้นกู้
ทั้งนี้ MTC ได้รับการประเมินการกำกับดูแลกิจการอยู่ในระดับ “ดีเลิศ” (5 ดาว) รวมถึงผลประเมินหุ้นยั่งยืน (ESG Rating) จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในระดับ A และผลประเมิน MSCI Index ในระดับ AA สะท้อนการเป็นผู้นำในธุรกิจสินเชื่อไมโครไฟแนนซ์ที่มีความรับผิดชอบและเป็นธรรม มุ่งสร้างเสถียรภาพทางการเงิน เสริมความแข็งแกร่งให้ระบบเศรษฐกิจ เติบโตเคียงคู่สังคมไทยอย่างยั่งยืน
ขณะเดียวกันยังมุ่งมั่นยกระดับการบริการสินเชื่อให้เป็นแหล่งเงินทุนที่มีคุณภาพในมาตรฐานระดับโลก (World-class Thai Microfinance) สอดรับความร่วมมือองค์การระหว่างประเทศหลายสถาบัน เช่น ความร่วมมือรัฐบาลญี่ปุ่น (JICA) และรัฐบาลเยอรมนี (KFW DEG) เพื่อระดมทรัพยากรทางการเงินเป็นที่พึ่งให้กับประชาชนอย่างทั่วถึง ภายใต้หลักธรรมาภิบาล เคารพในสิทธิ รักษาผลประโยชน์ และตอบสนองความคาดหวังของลูกค้าให้เกิดความประทับใจสูงสุด