KJL กวาดกำไร Q1 แตะ 34 ลบ. รุกลงทุนศูนย์ KiN คาดเปิดบริการปลายปี 68
KJL โชว์กำไรไตรมาส 1/67 แตะ 34 ล้านบาท เดินหน้าเสริมแกร่ง Synergy Growth หนุนรายได้ปี 67 ทะลุ 1,200 ล้านบาท พร้อมลงทุนในศูนย์นวัตกรรม KJL Innovation Campus เพิ่มโอกาสแข่งขัน คาดแล้วเสร็จไตรมาส 4/68
นายเกษมสันต์ สุจิวโรดม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กิจเจริญ เอ็นจิเนียริ่ง อีเลคทริค จำกัด (มหาชน) หรือ KJL เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาสที่ 1 ของปี 67 บริษัทฯมีรายได้รวม 284.50 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 44.87 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 18.72% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 239.63 ล้านบาท และเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า 9.97 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 3.63% จากไตรมาสก่อนหน้าที่มีรายได้รวม 274.53 ล้านบาท
ขณะที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 34.62 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.96 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 2.85% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 33.65 ล้านบาท และเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า 3.93 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 12.82% จากไตรมาสก่อนหน้าที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 30.69 ล้านบาท
โดยการเพิ่มขึ้นของทั้งรายได้ และกำไรสุทธิของบริษัทเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของยอดขาย โดยเฉพาะสินค้ามาตรฐานเคเจแอล ประกอบด้วยตู้สวิทซ์บอร์ด รางเดินสายไฟ กล่องพูลบ๊อกซ์ และสินค้าใหม่ปี 66 ได้แก่ รางเคเบิ้ลเทรย์งานเบา ตะแกรงทางเดิน ตู้พลาสติกกันน้ำ
รวมถึงสินค้าใหม่ปี 67 ได้แก่ บ็อกซ์พลาสติกกันน้ำ ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ารายใหญ่อย่างต่อเนื่อง ด้วยคุณภาพของสินค้า และความรวดเร็วในการจัดส่งสินค้า และที่สำคัญการจัดส่งเสริมการขายในแต่ละช่วงเวลาส่งผลให้บริษัทยังคงรักษาอัตราการใช้เครื่องจักรอยู่ที่ 70-80% ซึ่งรวมไปถึงการใช้เทคโนโลยีระบบควบคุมการผลิตแบบ Industry 4.0 โดยลงทุนเครื่องจักรอัตโนมัติ ทำให้การผลิตมีประสิทธิภาพ และสามารถควบคุมต้นทุนได้เป็นอย่างดี
อีกทั้งที่สำคัญบริษัทยังได้มีการลงทุนในอาคารศูนย์นวัตกรรม KJL Innovation Campus หรือ KiN ที่สร้างขึ้นเพื่อเพิ่มขีดความสามารถด้านการพัฒนาเทคโนโลยี และนวัตกรรมใหม่ที่ทันสมัย เข้าถึงอุตสาหกรรมใหม่โดยมีการจัดทำ Metal Design Lab และ Metal Total Solution พร้อมทั้งสร้าง Brand Experience รวมไปถึงสร้างโอกาสการได้เปรียบทางการแข่งขัน ทั้งนี้อาคารดังกล่าวคาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาส 4/68
ในขณะที่ในปี 67 บริษัทยังคงเป้าหมายรายได้รวมมากกว่า 1,200 ล้านบาท คิดเป็นการเติบโตที่ระดับ 10-15% จากในปี 66 โดยบริษัทมีแผนที่จะขยายธุรกิจในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นการเดินหน้าขยายฐานลูกค้าที่เป็นร้านอุปกรณ์ไฟฟ้าทั่วประเทศ ขยายเครือข่ายช่างไฟฟ้า ผู้รับเหมา และวิศวกรทั่วประเทศ รวมถึงสร้าง และพัฒนานวัตกรรมเพื่อเป็นโซลูชั่น และเพิ่มมูลค่า สามารถตอบโจทย์ความต้องการของตลาด เพื่อหนุนความต้องการในการใช้สินค้าของบริษัทให้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกกลุ่มสินค้า
รวมถึงการได้เซ็นสัญญากับ “ชไนเดอร์ อีเล็คทริค” (Schneider Electric) ผู้นำอุปกรณ์ และงานระบบไฟฟ้า และพลังงานสะอาดระดับโลกที่แต่งตั้งให้ KJL เป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ “Authorized General Distributor (Tier 1)” ในทุกประเภทผลิตภัณฑ์ของชไนเดอร์ อิเล็คทริค จะเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ให้กับบริษัทเพิ่มขึ้นในอนาคตในลักษณะ Synergy growth ขยายโอกาสในการพัฒนาสินค้าร่วมกัน เพื่อรองรับอุตสาหกรรมแห่งอนาคตไม่ว่าจะเป็น AI, big data, clean energy และ EV เป็นต้น
ดังนั้นจึงทำให้บริษัทมั่นใจว่าการได้รับการแต่งตั้งในครั้งนี้จะเป็นการเสริมศักยภาพให้ KJL มีความแข็งแกร่ง และสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงในอนาคต