BANPU กำไร Q1 วูบ 69% เหลือ 1.6 พันล้านบาท เซ่นราคาก๊าซ-ถ่านหินหด

บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU รายงานผลการดำเนินงานงวดไตรมาสแรก สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2567 มีกำไรสุทธิลดลง ดังนี้

สำหรับผลประกอบการในไตรมาส 1 ปี 2567 บริษัทฯมีกำไรสุทธิ 1,551.53 ล้านบาท ลดลง 68.89% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อนก่อนมีกำไรสุทธิ 4,988.02 ล้านบาท ซึ่งปัจจัยหลักจากราคาตลาดของก๊าซธรรมชาติและถ่านหินที่ปรับตัวลดลงจากปีก่อน ส่งผลให้ค่าภาคหลวงรวมทั้งขาดทุนจากอนุพันธ์ทางการเงิน ลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนเช่นกัน แต่อย่างไรก็ตามกลุ่มบริษัทยังคงดำเนินมาตรการในการบริหารจัดการต้นทุนและ ค่าใช้จ่ายอย่างรัดกุม เพื่อให้บริษัทสามารถเผชิญความท้าทายจากความผันผวนของตลาดพลังงานได้อย่างมั่นคง และมุ่งเน้นการสร้างกระแสเงินสดได้อย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้รายได้จากการขายรวม จำนวน 1,088 ล้านเหรียญสหรัฐ (เทียบเท่า 38,810 ล้าน บาท) ลดลงจำนวน 224 ล้านเหรียญสหรัฐจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยรายได้ ลดลงจากธุรกิจถ่านหิน 243 ล้านเหรียญสหรัฐและธุรกิจก๊าซ 69 ล้านเหรียญสหรัฐ ในขณะที่รายได้เพิ่มขึ้นจากธุรกิจไฟฟ้าและไอน้ำ 73 ล้านเหรียญสหรัฐและธุรกิจอื่นๆ 15 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยมีรายละเอียดดังนี้

1. รายได้จากธุรกิจถ่านหิน จำนวน 702 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 65 ของรายได้รวม โดยมีรายละเอียดดังนี้ (1.1) แหล่งผลิตในสาธารณรัฐอินโดนีเซีย 488 ล้านเหรียญสหรัฐ (1.2) แหล่งผลิตในประเทศออสเตรเลีย 197 ล้านเหรียญสหรัฐ และ (1.3) ธุรกิจซื้อขายถ่านหิน 17 ล้านเหรียญสหรัฐ

2. รายได้จากธุรกิจก๊าซในประเทศสหรัฐอเมริกา จำนวน 154 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นร้อยละ 14 ของรายได้รวม

3. รายได้จากธุรกิจไฟฟ้าและไอน้ำจำนวน 190 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็น ร้อยละ 17ของรายได้รวม เป็นรายได้จากโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วม โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในสาธารณรัฐประชาชนจีน โรงไฟฟ้าพลังงาน แสงอาทิตย์ในประเทศออสเตรเลีย โรงไฟฟ้าพลังงานลมและโรงไฟฟ้า พลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศเวียดนามและโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติใน ประเทศสหรัฐอเมริกา

4. รายได้จากธุรกิจอื่นๆ จำนวน 42 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 4 ส่วน ใหญ่เป็นรายได้จากธุรกิจซื้อขายไฟฟ้า (Energy Trading) ในประเทศญี่ปุ่น และธุรกิจผลิตและติดตั้งระบบแบตเตอรี่ในประเทศสิงคโปร