BGRIM โชว์กำไรไตรมาส 1 แตะ 378 ล้าน “อิบิทด้า” โต 10% รับยอดขายไฟเพิ่ม
BGRIM โชว์กำไรสุทธิไตรมาส 1/67 แตะ 378 ล้านบาท “อิบิทด้า” ขยายตัว 10% จากปีก่อน ขานรับยอดขายไฟฟ้าโต ลุยเพิ่มกำลังผลิตทั้งในและต่างประเทศ
บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM รายงานผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1 สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.67 มีกำไรสุทธิ ดังนี้
ด้าน ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ ประธาน บี.กริม และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BGRIM เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 67 บริษัทมีกำไรสุทธิจากการดำเนินงาน (NNP) – ส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ 488 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 380 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิ – ส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ ที่ 379 ล้านบาท ลดลงจาก 400 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน (FX) ที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง ซึ่งเป็นรายการที่ไม่กระทบกระแสเงินสดจากการแปลงมูลค่าเงินกู้ยืมสกุลดอลลาร์สหรัฐด้วยอัตราแลกเปลี่ยน ณ วันสิ้นงวด
ทั้งนี้ บริษัทมีรายได้จากการขายและการให้บริการที่ 14,165 ล้านบาท ขณะที่กำไรจากการดำเนินงานก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) เพิ่มขึ้น 10.70% เป็น 3,624 ล้านบาท เทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลจาก 1.ปริมาณไฟฟ้าที่ขายในไตรมาส 1 ปรับเพิ่มขึ้น 12.20% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็น 3,743 กิกะวัตต์-ชั่วโมง จากปริมาณไฟฟ้าที่ขายให้แก่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เพิ่มขึ้น 17.4% จากการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ของโครงการโรงไฟฟ้า SPP 3 โครงการ ในเดือนมี.ค.66 และไตรมาสที่ 4 ปี 66 รวมกำลังการผลิตติดตั้ง 420 เมกะวัตต์, ปริมาณไฟฟ้าที่ขายให้กลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรม (IUs) ในประเทศเพิ่มขึ้น 2.20% และปริมาณไฟฟ้าขายให้แก่ลูกค้า IUs ในประเทศเวียดนามเพิ่มขึ้น 10.20% และ 2. ปริมาณไอน้ำที่ขายให้แก่ลูกค้า IUs ในประเทศเพิ่มขึ้น 20.50% เทียบกับจากช่วงเดียวกันของปีก่อน
สำหรับผลงานสำคัญที่เกิดขึ้นในไตรมาสที่ 1/67 บี.กริม เพาเวอร์ ได้เชื่อมเข้าระบบของลูกค้าอุตสาหกรรมรายใหม่ในประเทศไทย จำนวน 6 เมกะวัตต์ จากกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม และในเดือนมี.ค.67 B.Grimm Power Korea (บริษัทย่อย) ยังได้เข้าลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมนอกชายฝั่งจำนวน 2 แห่ง คิดเป็นกำลังผลิตติดตั้งรวม 740 เมกะวัตต์ ซึ่งเป็นโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมนอกชายฝั่งที่มีขนาดใหญ่ที่สุดที่พัฒนาโดยบริษัทเอกชนในสาธารณรัฐเกาหลีที่ได้รับอนุมัติการก่อสร้างโครงการในปี 67
ขณะที่เดือนเม.ย. บี.กริม เพาเวอร์ ได้เข้าซื้อหุ้น 40% ใน ThreeEightSix Holdings Ltd. เพื่อประกอบธุรกิจและพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคา กำลังการผลิตรวม 33.70 เมกะวัตต์ ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ประเทศซาอุดีอาระเบีย และประเทศบาห์เรน ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของการลงทุนที่สำคัญในภูมิภาคตะวันออกกลางในอนาคต
นอกจากนั้น บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ ฟิวเจอร์ โซลูชั่น จำกัด (บริษัทย่อย) ได้ร่วมกับบริษัท สยามซิตี้ พาวเวอร์ จำกัด (บริษัทย่อยที่บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) ถือหุ้น 100%) จัดตั้งบริษัท อินทรี บี.กริม โซล่าร์ จำกัด (IBS) โดย บี.กริม เพาเวอร์ ฟิวเจอร์ โซลูชั่น จำกัด ถือหุ้นในสัดส่วน 25% เพื่อประกอบธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ กำลังการผลิตติดตั้ง 80 เมกะวัตต์
สำหรับทิศทางในปี 67 บี. กริม เพาเวอร์ กำหนดเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน 3 โครงการ ได้แก่ 1.โครงการโรงไฟฟ้าแบบผสมผสาน อู่ตะเภา เฟสหนึ่ง 2.โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ GIFU ในประเทศญี่ปุ่น และ 3.โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม แบบติดตั้งบนบก KOPOS ในสาธารณรัฐเกาหลี และในระยะยาว ตั้งเป้าหมายสู่การเป็นผู้ผลิตพลังงานชั้นนำระดับโลกและบรรลุเป้าหมายการก้าวสู่องค์กรที่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์ (Net-Zero Carbon Emissions) ภายในปี 93 การขยายพอร์ตสู่กำลังการผลิต 10,000 เมกะวัตต์ ตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า ในปี 73