SINO โชว์รายได้ไตรมาส 1 โต 58% รับดีมานด์ขนส่งเพิ่ม

นายนันท์มนัส วิทยศักดิ์พันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไซโน โลจิสติกส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SINO เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/67 (ม.ค.-มี.ค) ว่าบริษัทฯ มีรายได้จากการให้บริการ 774 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 58% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้านี้ (QoQ) ตอกย้ำศักยภาพการดำเนินธุรกิจที่แข็งแกร่งของ SINO ที่เป็นผู้ให้บริการโลจิสติกส์ระหว่างประเทศอย่างครบวงจร (Integrated Logistics Service Provider) ที่สามารถตอบสนองความต้องการลูกค้าได้เป็นอย่างดี จากขีดความสามารถการแข่งขันในการให้บริการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ (Freight Forwarder) ทั้งทางทะเล ทางอากาศ และทางบก รวมถึงการให้บริการให้เช่าคลังสินค้า การให้บริการด้านพิธีการศุลกากร และการให้บริการสนับสนุนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับโลจิสติกส์ เป็นผลให้มีปริมาณขนส่งสินค้าเพิ่มเป็น 15,881 ตู้ เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้านี้

ทั้งนี้ สัดส่วนรายได้จากการให้บริการขนส่งสินค้าทางทะเล (Sea Freight) คิดเป็น 94% ของรายได้จากการให้บริการทั้งหมด ตอกย้ำศักยภาพการดำเนินธุรกิจที่แข็งแกร่งในฐานะที่เป็นผู้ให้บริการโลจิสติกส์ระหว่างประเทศอย่างครบวงจร ที่มีปริมาณขนส่งสินค้าทางทะเลบนเส้นทางไทย-สหรัฐอเมริกาเป็นอันดับ 1 ของไทย และเป็นอันดับ 3 ของโลก

ขณะที่สัดส่วนรายได้จากการให้บริการเช่าคลังสินค้าคิดเป็น 2% รายได้จากการให้บริการสนับสนุนอื่นๆ คิดเป็น 3% และรายได้จากการให้บริการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศทางอากาศ (Air Freight) อยู่ที่ 1% ของรายได้จากการให้บริการทั้งหมด ส่วนกำไรสุทธิทำได้ 5 ล้านบาท โดยมาจากปัจจัยการเติบโตตามปริมาณการขนส่งที่เพิ่มขึ้นในช่วงที่ค่าระวางเรือปรับตัวสูงขึ้นเนื่องจากวิกฤติทะเลแดง ประกอบกับการบริหารจัดการด้านค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพ จึงสนับสนุนให้ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/67 เติบโตได้อย่างโดดเด่น

ส่วนทิศทางการดำเนินงานในไตรมาส 2/67 บริษัทฯ มั่นใจว่าจะสร้างการเติบโตต่อเนื่องจากการขยายตัวของปริมาณการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ ด้วยแผนความร่วมมือกับพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ทั้งในประเทศไทยและในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งล่าสุดได้จับมือกับพันธมิตรจัดตั้งบริษัทร่วมทุน Sino Worldwide Logistics SDN. BND ที่ประเทศมาเลเซียเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะช่วยส่งเสริมศักยภาพการดำเนินธุรกิจขับเคลื่อน SINO สู่ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ระหว่างประเทศในระดับภูมิภาคอาเซียน ด้วยเป้าหมายที่ต้องการผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการขนส่งสินค้าทางทะเลให้แก่กลุ่มประเทศในอาเซียนที่ต้องการส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐอเมริกา

ขณะเดียวกันยังร่วมมือกับพันธมิตรเพิ่มขีดความสามารถการให้บริการขนส่งสินค้าทางบกเพื่อรองรับปริมาณการค้าไทยและสปป.ลาว ซึ่งจะช่วยสนับสนุนปริมาณขนส่งสินค้าระหว่างประเทศให้เพิ่มเป็น 53,000 ตู้ได้ตามแผนงาน