ชัดเจน! “กฤษฎา” ทิ้งเก้าอี้ รมช.คลัง ไม่พอใจ “พิชัย” แบ่งงานไม่ให้เกียรติ
เปิดจดหมาย! “กฤษฎา จีนะวิจารณะ” ยื่นหนังสือลาออกรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ไม่พอใจ "พิชัย ชุณหวชิร" แบ่งงานไม่ให้เกียรติ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ได้ยืนหนังสือลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และทุกตำแหน่งที่ได้รับแต่งตั้งหรือมอบหมายต่อ “นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี” ตั้งแต่วันที่ 8 พ.ค.67 เป็นต้นไป โดยได้ระบุในหนังสือดังนี้
กราบเรียน นายกรัฐมนตรี ตามที่ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งกระผมให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังตั้งแต่วันที่ 22 ก.ย.67 นั้น
กระผมขอเรียนว่า กระผมมีความประสงค์ขอลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และทุกตำแหน่งที่ได้รับแต่งตั้งหรือมอบหมายตั้งแต่วันที่ 8 พ.ค.67 เป็นต้นไป
โดยที่ในช่วงที่ผ่านมา กระผมได้ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังในการกำกับดูแลภารกิจของกระทรวงการคลัง และหน่วยงานต่างๆ ตามที่นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในขณะนั้นมอบหมาย อย่างเต็มกำลังความสามารถ ซึ่งสามารถผลักตันการแก้ไขปัญหาภาระหนี้สินของประชาชน การฟื้นฟูดูแลผู้ประกอบธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และมาตรการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2567 มีความคีบหน้าอย่างมีรูปธรรม
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฐานะอดีตข้าราชการของกระทรวงการคลัง ได้ดำเนินการรักษาวินัยการเงินการคลังอย่างเคร่งครัดมาโดยตลอด ซึ่งกระผมขอขอบพระคุณนายกรัฐมนตรีที่ได้ให้โอกาสและสนับสนุนในการปฏิบัติหน้าที่ที่สำคัญร่วมกับนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และคณะรัฐมนตรีตลอดช่วงระยะเวลาดังกล่าวเป็นอย่างดีอย่างไรก็ตาม เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โดยมีแนวคิดในการทำงานที่แตกต่างกัน รวมทั้งการไม่ให้เกียรติต่อกันในการปฏิบัติงานอย่างเหมาะสม กระผมจึงเห็นว่าคงไม่สามารถที่จะทำงานร่วมกันให้เกิดประโยชน์แก่เศรษฐกิจของประเทศต่อไปได้
อนึ่งเมื่อวันที่ 7 พ.ค. 67 นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ลงนามคำสั่งแบ่งงานให้กับ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ทั้ง 3 รายกำกับดูแลส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจและหน่วยงานของรัฐในกำกับของกระทรวงการคลังแล้ว โดยมีผลทันที
1.นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลังกำกับดูแลกรมรายได้ทั้ง 3 กรม คือ กรมศุลกากร กรมสรรพากร และ กรมสรรพสามิต
ส่วนรัฐวิสาหกิจและหน่วยงานของรัฐในกำกับกระทรวงการคลัง ได้แก่ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) องค์การสุรา โรงงานไพ่ และ กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.)
2.นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลังกำกับดูแลสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) และ กรมธนารักษ์
ส่วนรัฐวิสาหกิจและหน่วยงานของรัฐในกำกับกระทรวงการคลัง ได้แก่ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (เอ็กซิมแบงก์) กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) และ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.)
3.นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รมช.คลังกำกับดูแลสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ส่วนรัฐวิสาหกิจและหน่วยงานของรัฐในกำกับของกระทรวงการคลัง ได้แก่ การยาสูบแห่งประเทศไทย สถาบันคุ้มครองเงินฝาก (สคฝ.) บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) และ สำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (องค์การมหาชน) หรือ สพพ.
อย่างไรก็ตาม นายพิชัย จะกำกับกรมบัญชีกลาง สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) และ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์) ด้วยตัวเอง
โดยการมอบอำนาจดังกล่าว ไม่รวมถึงการแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจและกิจการที่กระทรวงการคลังถือหุ้น งานที่เป็นเรื่องนโยบาย เรื่องที่ต้องเสนอนายกรัฐมนตรีหรือคณะรัฐมนตรี และเรื่องที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสั่งเป็นอย่างอื่น