SICT กวาดรายได้ Q1 ทะลุ 200 ล้านบาท รับตลาด Animal ID โตต่อเนื่อง
SICT กวาดรายได้ไตรมาส 1/67 ทะลุ 200 ล้านบาท รับผลิตภัณฑ์กลุ่มระบบลงทะเบียนสัตว์ซึ่งมีสัดส่วนรายได้มากที่สุดของบริษัทยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง
บริษัท ซิลิคอน คราฟท์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SICT ผู้ออกแบบและจำหน่ายไมโครชิพอัจฉริยะสัญชาติไทยที่ได้รับความไว้วางใจจากหลากหลายประเทศทั่วโลก รายงานผลประกอบการสำหรับไตรมาสที่ 1/2567 ด้วยรายได้จำนวน 205.2 ล้านบาท เติบโต 45% จากไตรมาสก่อนหน้า โดยผลิตภัณฑ์กลุ่มระบบลงทะเบียนสัตว์ซึ่งมีสัดส่วนรายได้มากที่สุดของบริษัทยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่รายได้รวมของบริษัทในไตรมาสที่ 1/2567 เติบโตจากกลุ่มระบบลงทะเบียนสัตว์เป็นหลัก โดยรายได้จากกลุ่มดังกล่าว เติบโตขึ้นถึง 53% จากไตรมาสก่อนหน้า จากการเติบโตของรายได้จากกลุ่มลูกค้าหลักในยุโรป อันเนื่องมาจากการขยายตัวของตลาดระบบลงทะเบียนสัตว์จากความคืบหน้าเรื่องการบังคับใช้ป้ายทะเบียนสัตว์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Identification tag) ในกลุ่มแกะและแพะเพิ่มเติมในออสเตรเลีย ทั้งนี้รายได้ในกลุ่มดังกล่าวคิดเป็นสัดส่วนหลักของรายได้รวมที่ 55%
อีกทั้งในส่วนของกลุ่ม IoT ในภาคอุตสาหกรรมมีรายได้เพิ่มขึ้น 20% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า จากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากกลุ่มลูกค้าในประเทศจีน และสัดส่วนรายได้จากผลิตภัณฑ์ใหม่ (SIC73F1 wafer cassette tracking chip) ที่เพิ่มขึ้น โดยกลุ่มนี้มีสัดส่วนเป็น 32% ของรายได้รวม กลุ่มระบบกุญแจอิเล็กทรอนิกส์ยานยนต์ ปรับตัวดีขึ้น 118% จากไตรมาสก่อนหน้า ทั้งนี้ ยังลดลง 57% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า จากการชะลอตัวของรายได้จากลูกค้าหลักในสหรัฐอเมริกา อันเนื่องมาจากระดับสินค้าคงคลังของลูกค้าที่ยังคงอยู่ในระดับสูง
โดยกลุ่มนี้มีสัดส่วนเป็น 12% ของรายได้รวมในไตรมาสที่ 1/2567 และกลุ่ม NFC และอื่นๆ ลดลง 41% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า จากรายได้กลุ่ม NFC เพื่อป้องกันการปลอมแปลงที่ลดลง โดยกลุ่มนี้คิดเป็นสัดส่วน 0.3% ของรายได้รวม
สำหรับภาพรวมของอุตสาหกรรมระบบลงทะเบียนสัตว์ มีแนวโน้มการเติบโตที่ดี โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากเรื่องการประการบังคับใช้ป้ายทะเบียนสัตว์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Identification tag) ในกลุ่มแกะและแพะเพิ่มเติมในออสเตรเลีย
ทั้งนี้ รัฐบาลในบางรัฐของประเทศออสเตรเลียได้มีการประกาศแผนการสนับสนุนการใช้งานป้ายทะเบียนสัตว์อิเล็กทรอนิกส์และการติดตั้งระบบต่างๆที่เกี่ยวข้อง ทั้งในรูปแบบเงินทุนสนุบสนุนและส่วนลดสำหรับป้ายทะเบียนสัตว์อิเล็กทรอนิกส์ให้แก่ผู้ประกอบการ อีกทั้งยังมีแนวโน้มประกาศการสนับสนุนเพิ่มเติมในรัฐอื่นๆของประเทศออสเตรเลียอีก เพื่อผลักดันไปสู่การใช้งานอย่างเต็มรูปแบบทั่วประเทศในระยะถัดไป
นอกจากนี้ ยังมีแนวโน้มของการประกาศบังคับใช้ป้ายทะเบียนสัตว์อิเล็กทรอนิกส์ในประเทศอื่นเพิ่มเติมอีก เช่น สหรัฐอเมริกา ซึ่งส่งผลให้ปริมาณความต้องการของผลิตภัณฑ์ในกลุ่มระบบลงทะเบียนสัตว์นั้นยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ด้านสินค้าคงคลังของบริษัท เริ่มมีการปรับตัวลดลงจาก ณ สิ้นปี 2566 จากการส่งมอบสินค้าให้กับลูกค้าตามแผนงานที่บริษัทได้ทำความร่วมมือกับลูกค้าไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการส่งมอบสินค้าให้กับลูกค้าหลักในกลุ่มระบบลงทะเบียนสัตว์ (Animal ID) ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าระดับสินค้าคงคลัง จะค่อยๆทยอยปรับเข้าสู่ระดับปกติ
อย่างไรก็ดี บริษัทยังมุ่งมั่นลงทุนในงานวิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยมีแผนงานในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ออกสู่ตลาด ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Industrial NFC, NFC Sensor, และ NFC for luxury brand protection ซึ่งคาดว่ากลุ่มของผลิตภัณฑ์ข้างต้น จะมีส่วนช่วยสนับสนุนการเติบโตรายได้ของบริษัทอย่างชัดเจนมากขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีนี้และในปีถัดๆ ไป