เปิดงบ 4 หุ้น “หมู-ไก่” ไตรมาสแรก! CPF กำไรโตสุด 1.2 พันล้าน
สแกน 4 หุ้นกลุ่ม “หมู-ไก่” ไตรมาส 1/67 CPF พลิกมีกำไร 1.2 พันล้าน ส่วน GFPT โตกว่า 50% แตะ 465 ล้านบาท ขานรับส่งออกเติบโตแข็งแกร่ง
“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินงานงวดไตรมาส 1/67 ของบริษัทจดทะเบียนในกลุ่มอาหาร ได้แก่ บริษัท ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TFG, บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF, บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) หรือ BTG และ บริษัท จีเอฟพีที จำกัด (มหาชน) หรือ GFPT
สำหรับ TFG รายงานผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1 พลิกมีกำไรสุทธิ 173.71 ล้านบาท จากไตรมาส 4/66 ซึ่งได้รับปัจจัยสนับสนุนจากราคาและปริมาณขายของไก่และสุกรที่เพิ่มขึ้น หลังภาครัฐเดินหน้าแก้ปัญหาการนำเข้าสุกรเถื่อน รวมไปถึงราคาหมูในเวียดนามที่ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง พร้อมกับร้านค้าปลีกมีรายการสินค้าขายเพิ่มขึ้น ทำให้รายได้ต่อสาขาเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โดยผลการดำเนินงานในไตรมาส 1 ฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ และมั่นใจว่าได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว ประกอบกับต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับตัวลดลง รวมไปถึงการบริหารต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพการเลี้ยง และบริหารจัดการระบบคลัง ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ บริษัทฯยังคงเดินหน้าขยายสาขาร้านค้าปลีก “ไทยฟู้ดส์ เฟรช มาร์เก็ต” (Retail Shop) เพิ่มอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้ จะเปิดสาขาเพิ่ม 400 – 450 สาขา เพื่อเพิ่มมาร์จิ้นและสร้างความยั่งยืนด้านช่องทางการจำหน่ายให้กับบริษัท
ด้าน CPF รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 1 ปี 67 จำนวน 1,152 ล้านบาท เติบโต 142% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีปัจจัยหลักมาจากราคาเนื้อสัตว์ในภูมิภาคเอเชียที่ปรับตัวดีขึ้นจากระดับในปีที่ผ่านมา ประกอบกับประสิทธิภาพในการผลิตที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องทำให้ต้นทุนในการเลี้ยงสัตว์ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน
โดยผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 1 ปีนี้ ปรับตัวดีขึ้นถึง 142% โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจในประเทศเวียดนามและกัมพูชา จากการขยายช่องทางในการขาย และระดับราคาสุกรที่เพิ่มขึ้น นอกจากนั้น บริษัทยังมีส่วนได้ในกำไรของบริษัทร่วมและการร่วมค้าที่ดีขึ้นจากผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นของ CPALL และธุรกิจสุกรในประเทศจีน และคาดว่าในช่วงที่เหลือของปี 67 ผลการดำเนินงานของซีพีเอฟจะดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่ BTG รายงานผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1/67 ขาดทุน 124 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไร 392.80 ล้านบาท หลังได้รับผลกระทบจากราคาสุกรในประเทศที่ปรับลดลงอย่างมีนัยสําคัญ จากการลักลอบนําเขาใช้ชิ้นส่วนและและเนื้อสุกรอย่างผิดกฎหมาย
ทั้งนี้ บริษัทให้ความสำคัญการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยง เนื่องจากเป็นตลาดที่มีศักยภาพเติบโตสูงในช่วงหลายปีที่ผ่านมาและยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องในอนาคต
ล่าสุดวางกลยุทธ์ขับเคลื่อนธุรกิจสัตว์เลี้ยง โดยขยายกำลังการผลิตอาหารสัตว์เลี้ยง (Capacity Expansion) ที่โรงงานลพบุรีเพิ่มขึ้นเป็น 110,000 ตันต่อปี และลงทุนในระบบด้วยเทคโนโลยีการผลิตและจัดเก็บและเบิกจ่ายสินค้าอัตโนมัติ (ASRS Automated Storage/ Retrieval System) โดยการใช้โปรแกรม WMS (Warehouse Management System) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการคลังสินค้าได้อย่างแม่นยำ สามารถตรวจสอบย้อนกลับสินค้าอย่างถูกต้องและรวดเร็วทำให้อาหารมีความปลอดภัยสูงสุดเพื่อสัตว์เลี้ยงที่แสนรัก
ปิดท้ายด้วย GFPT มีกำไรสุทธิไตรมาส 1/67 ที่ระดับ 465.94 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 56% จากปีก่อนมีกำไร 298 ล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากต้นทุนอาหารสัตว์ที่ลดลง และกำไรจากบริษัทร่วมทุนทั้ง 2 แห่งที่เพิ่มขึ้น ขณะที่มีรายได้จากการขายรวม 4.52 พันล้านบาท ลดลงเล็กน้อย 0.41% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้จากการขายรวม 4.54 พันล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากการส่งออกเนื้อไก่แปรรูปเพิ่มขึ้น