BTG ตั้งเป้าเพิ่มกำลังผลิตอาหารสัตว์ 1.1 แสนตัน/ปี รองรับดีมานด์ไทย-ตปท.

BTG กางแผนเพิ่มกำลังผลิตอาหารสัตว์ 1.1 แสนตัน/ปี รองรับดีมานด์ตลาดไทยและต่างประเทศ 5 ปีข้างหน้าเติบโต 10% พร้อมกลยุทธ์ขยายสินค้า มอบนวัตกรรมใหม่ “Perfecta” สูตรพิเศษ “Holistic Grain Free” ตอบโจทย์เทรนด์เลี้ยงสุนัขและแมว


นายสมชาญ ศุภปีติพร ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ กลุ่มธุรกิจสัตว์เลี้ยง บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) หรือ BTG เปิดเผยว่า บริษัทให้ความสำคัญการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยง เนื่องจากเป็นตลาดที่มีศักยภาพเติบโตสูงในช่วงหลายปีที่ผ่านมาและยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องในอนาคต ล่าสุดวางกลยุทธ์ขับเคลื่อนธุรกิจสัตว์เลี้ยง โดยขยายกำลังการผลิตอาหารสัตว์เลี้ยง (Capacity Expansion) ที่โรงงานลพบุรีเพิ่มขึ้นเป็น 110,000 ตันต่อปี และลงทุนในระบบด้วยเทคโนโลยีการผลิตและจัดเก็บและเบิกจ่ายสินค้าอัตโนมัติ (ASRS – Automated Storage/ Retrieval System) ผ่านการใช้โปรแกรม WMS (Warehouse Management System) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการคลังสินค้าได้อย่างแม่นยำ

อีกทั้ง ยังสามารถตรวจสอบย้อนกลับสินค้าอย่างถูกต้องและรวดเร็วทำให้อาหารมีความปลอดภัยสูงสุดเพื่อสัตว์เลี้ยงที่แสนรัก พร้อมรุกตลาดส่งออกผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ “เพอร์เฟคต้า (Perfecta)”, ด็อก เอ็นจอย (DOG n joy)” และ “แค็ท เอ็นจอย (CAT n joy)” เพื่อรองรับกับความต้องการของตลาดที่ขยายตัวทั้งในไทยและต่างประเทศ

ขณะเดียวกัน วางกลยุทธ์เพิ่มพอร์ตสินค้าระดับพรีเมียมเพื่อเพิ่มความสามารถในการทำกำไรและรายได้ พร้อมส่วนแบ่งการตลาด โดยนำความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงด้วยมาตรฐานระดับโลกของบริษัท ล่าสุดได้เปิดตัว “เพอร์เฟคต้า (Perfecta)” สูตรพิเศษ “โฮลิสติก เกรนฟรี” (Holistic Grain Free) เพื่อมอบโภชนาการครบถ้วนด้วยการดูแลสุขภาพสุนัขและแมวที่ดี

โดยมีจุดเด่น คือ ปราศจากธัญพืชและผลพลอยได้ (by-products) ช่วยลดความเสี่ยงการแพ้ที่ก่อให้เกิดอาการคัน, ขนร่วง, ผิวหนัง และอักเสบ ทั้งยังใช้เนื้อสดเบทาโกรมาตรฐาน (Human Grade) เป็นส่วนผสมหลักอันดับ 1 ซึ่งเป็นแหล่งโปรตีนคุณภาพสูงปราศจากการใช้ยาปฏิชีวนะย่อยง่ายด้วยพรีไบโอติกส์จากธรรมชาติหรือฮอร์โมนเร่งการเจริญเติบโต ซึ่งมีวางจำหน่ายครอบคลุมทั้งใน pet shop, คลินิกและแพลตฟอร์มออนไลน์

“เรามุ่งมั่นคิดค้น วิจัยและพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ได้มาซึ่งผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงที่มีคุณภาพและความปลอดภัยขั้นสูงสุด มั่นใจได้ว่ามีคุณค่าทางโภชนาการที่ดีกว่าสำหรับสุนัขและแมว โดยที่ผ่านมาเพอร์เฟคต้า (Perfecta) ผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงพรีเมี่ยมเป็นแบรนด์แรกของไทยที่เปิดตัวอาหารสัตว์เลี้ยงสูตรประกอบการรักษาโรค (Perfecta Vet Diets) และอาหารสัตว์เลี้ยงสูตรที่ช่วยปกป้องดูแลได้อย่างตรงจุดตั้งแต่เริ่มแรก (Perfecta Care) ลดโอกาสความเสี่ยงเกิดโรค ช่วยคลายความกังวลใจ รวมถึงลดภาระค่าใช้จ่ายหมวดค่ารักษาพยาบาลของสัตว์เลี้ยง นายสมชาญ กล่าว

ขณะที่การเปิดตัวเพอร์เฟคต้า สูตรพิเศษ โฮลิสติก เกรนฟรี (Perfecta Holistic Grain Free) เพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นเป็นผู้นำผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงเกรดพรีเมี่ยม ที่มีสินค้าครอบคลุมทุกความต้องการของผู้เลี้ยงสุนัขและแมวต่อไป

ทั้งนี้ บริษัทมองเทรนด์การเลี้ยงสุนัขและแมวในช่วง 5 ปี (66-70) จากแนวโน้มการขยายตัวของสังคมเมือง (Urbanization) ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางด้านประชากรทั้งครอบครัวมีขนาดเล็กลงอยู่เป็นโสดกันมากขึ้น รวมถึงประชาชนกลุ่มผู้สูงอายุ (Silver Age) ทำให้การเลี้ยงสุนัขและแมวเพื่อเติมเต็มความมีชีวิตชีวาให้กับทุก Generation มาแรงอย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญยังเลี้ยงเสมือนเป็นลูกหรือเป็นสมาชิกในครอบครัว (Pet Humanization/ Pet Parent) โดยใส่ใจในการดูแลผ่านการเลือกอาหารที่ดีมีคุณภาพสูงสุด ซึ่งสามารถช่วยปกป้องดูแลสุขภาพสัตว์เลี้ยงได้อย่างตรงจุด

รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ซึ่งจากข้อมูล Euromonitor คาดการณ์ว่า ตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงในช่วง 5 ปี (66-70) จะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยกว่า 10% ต่อปี หรือมีมูลค่า 82,000 ล้านบาท และสำหรับปี 67 มีมูลค่า 56,000 ล้านบาท

สุดท้ายนี้ ธุรกิจสัตว์เลี้ยงของบริษัทครอบคลุมผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยง ขนมขบเคี้ยว และผลิตภัณฑ์ดูแลสัตว์เลี้ยงสุนัขรวมถึงแมว ภายใต้วิชั่น “ช่วยเพิ่มคุณค่าของชีวิตสัตว์เลี้ยง ด้วยอาหารที่ดีกว่า” ด้วยมาตรฐานความปลอดภัยด้านอาหารสำหรับสัตว์เลี้ยงขั้นสูงสุด คุณภาพและความอร่อยที่เหนือกว่า ราคาที่เป็นธรรม ทำให้ทุกผลิตภัณฑ์ของเบทาโกรตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้เลี้ยงได้อย่างครอบคลุม สร้างความสุข และสุขภาพที่ดีให้กับสัตว์เลี้ยงที่คุณรัก

Back to top button