AOT รับรายได้ขาย-บริการพุ่ง ดันกำไร Q2 โต 2 เท่าตัวแตะ 5.8 พันล้านบาท
AOT รายงานกำไรไตรมาส 2/67 อยู่ที่ 5.8 พันล้านบาท โต 210% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 1.86 พันล้านบาท รับรายได้ธุรกิจสนามบินและไม่ใช่กิจการการบินพุ่ง หลังยอดผู้โดยสารขาออกเพิ่ม-ส่วนแบ่งธุรกิจเพิ่ม
บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT รายงานผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/67 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2567 ดังนี้
สำหรับ AOT มีกำไรสุทธิของงวดไตรมาส 2/67 อยู่ที่ 5,784.59 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,924.06 ล้านบาท หรือเติบโต 210.91% จากช่วงเดียกวันของปีก่อนอยู่ที่ 1,860.53 ล้านบาท ได้รับแรงหนุนจากรายได้จากการขายและให้บริการเพิ่มขึ้น 7,233.37 ล้านบาท หรือ 65.75% มาอยู่ที่ 18,234.13 ล้านบาท เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นทั้งรายได้เกี่ยวกับกิจการการบินและรายได้ที่ไม่เกี่ยวกับกิจการการบิน
โดยแบ่งเป็น 1. รายได้เกี่ยวกับกิจการการบินมีจำนวน 8,360.24 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,808.10 ล้านบาท หรือ 50.58% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าบริการผู้โดยสารขาออก 1,937.43 ล้านบาท หรือ 40.89% มาอยู่ที่ 6,675.97 ล้านบาท เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้โดยสารโดยรวมของทั้ง 6 ท่าอากาสยานร้อยละ 22.29 อีกทั้งยังมีรายได้ค่าบริการสนามบินเพิ่มขึ้นจำนวน 843.80 ล้านบาท หรือ 130.70% มาอยู่ที่ 1,489.42 ล้านบาท มาจากการเพิ่มขึ้นของจำนวนเที่ยวบินรวม 15.34%
2. รายได้ที่ไม่เกี่ยวกับกิจการการบินจำนวน 9,873.89 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4,425.27 ล้านบาท หรือ 81.22% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ส่วนแบ่งผลประโยชน์จำนวน 3,549.94 ล้านบาท หรือ 125.08% มาอยู่ที่ 6,388.16 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เพิ่มขึ้นจากธุรกิจร้านค้าปลอดอากร, ธุรกิจจากการบริหารกิจกรรมเชิงพาณิชย์, ธุรกิจโฆษณา และธุรกิจให้บริการห้องรับรองพิเศษ
ส่วนรายได้เกี่ยวกับบริการเพิ่มขึ้นจำนวน 758.38 ล้านบาท หรือ 34.77% มาอยู่ที่ 2,939.75 ล้านบาท ส่วนใหญ่เพิ่มขึ้นจากรายได้กิจการบริการภาคพื้น ค่าบริการตรวจสอบผู้โดยสารล่วงหน้า และค่าบริการตรวจบัตรผู้โดยสารขึ้นเครื่อง
นอกจากนี้ รายได้อื่นๆ ในไตรมาส 2/67 มีจำนวน 168.16 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 73.77 ล้านบาท หรือ 78.15% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ส่วนใหญ่เกิดจากการเพิ่มขึ้นของกำไรจากตราสารอนุพันธ์จำนวน 55.65 ล้านบาท เกิดจากการเปลี่ยนแปลงในมูลค่ายุติธรรมของตราสารอนุพันธ์ รวมถึงรายได้อื่นเพิ่มขึ้นจำนวน 28.79 ล้านบาท ปัจจัยหลักเกิดจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าปรับ