PTT โชว์กำไรไตรมาส 1 เฉียด 3 หมื่นล้าน รับแรงหนุนธุรกิจ “โรงกลั่น-ปิโตรเคมี”

PTT รายงานกำไรไตรมาส 1/67 ที่ระดับ 2.9 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% จากปีก่อนมีกำไร 2.8 หมื่นล้านบาท รับส่วนแบ่งรายได้ธุรกิจโรงกลั่น และธุรกิจปิโตรเคมีเติบโตอย่างโดดเด่น


บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT รายงานผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1/67 สิ้นสุด 31 มี.ค.67 มีกำไรสุทธิดังนี้

โดยในไตรมาส 1/67 ปตท. และบริษัทย่อยมีกำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย ต้นทุนทางการเงิน และภาษีเงินได้ (EBITDA) จำนวน 118,717 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14,709 ล้านบาท หรือร้อยละ 14.10 จากไตรมาส 1/66 ที่จำนวน 104,008 ล้านบาท โดยหลักจากกลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่น

สำหรับธุรกิจการกลั่นนั้นมีผลการดำเนินงานเพิ่มขึ้น โดยหลักจากกำไรสต๊อกน้ำมันที่เพิ่มขึ้น ซึ่งปตท.และบริษัทย่อยมีกำไรจากสต๊อกน้ำมันในไตรมาส 1/67 ประมาณ 3,000 ล้านบาท ขณะที่ในไตรมาส 1/66 มีผลขาดทุนประมาณ 6,000 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม กำไรขั้นต้นจากการกลั่น (Market GRM) ลดลงจาก 8.40 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรลในไตรมาส 1/66 เป็น 7.90 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรลในไตรมาส 1/67 โดยหลักจากส่วนต่างราคาน้ำมันดีเซล น้ำมันอากาศยาน และน้ำมันเบนซินกับน้ำมันดิบปรับลดลง แม้ว่า Crude Premium ปรับลดลง ขณะที่ปริมาณขายปรับลดลง

นอกจากนี้ผลการดำเนินงานของธุรกิจปิโตรเคมีปรับตัวเพิ่มขึ้นทั้งจากกลุ่มโอเลฟินส์จากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์เอทิลีนกับวัตถุดิบ รวมทั้งปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น และกลุ่มอะโรเมติกส์จากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์เบนซินกับวัตถุดิบเพิ่มขึ้น

สำหรับกลุ่มธุรกิจก๊าซธรรมชาติมีผลการดำเนินงานเพิ่มขึ้น โดยหลักจากธุรกิจ NGV มีผลขาดทุนลดลงจากต้นทุนค่าเนื้อก๊าซฯ ที่ปรับลดลงตามราคา Pool Gas ประกอบกับราคาขายเพิ่มขึ้นและปริมาณขายลดลง รวมทั้งธุรกิจโรงแยกก๊าซฯ มีผลการดำเนินงานเพิ่มขึ้นจากต้นทุนขายลดลงตามราคาก๊าซฯ ในอ่าว รวมทั้งปริมาณและราคาขายเฉลี่ยเพิ่มขึ้น

ขณะที่ ธุรกิจจัดหาและจัดจำหน่ายก๊าซฯ มีผลการดำเนินงานลดลงจากการนำค่าปรับจากปริมาณที่ผู้ผลิตส่งได้ไม่ถึงปริมาณตามสัญญา(Shortfall) แหล่งอ่าวไทยจำนวน 4,300 ล้านบาท มาคำนวณเป็นส่วนลดราคา Pool Gas อย่างไรก็ดีผลการดำเนินงานของธุรกิจก๊าซธรรมชาติในไตรมาส 1/67 ยังไม่สะท้อนผลกระทบจากนโยบาย Single Pool เนื่องจากแนวทางการคำนวณราคาก๊าซฯ ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง

ขณะที่ ผลการดำเนินงานของกลุ่มธุรกิจการค้าระหว่างประเทศปรับลดลง เนื่องจากในไตรมาส 1/67 มีผลขาดทุนจากการป้องกันความเสี่ยงเพิ่มขึ้นตามสภาวะตลาด นอกจากนี้กลุ่มธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมมีผลการดำเนินงานลดลงเช่นกันจากราคาขายเฉลี่ยที่ปรับลดลง กำไรสุทธิของ ปตท. และบริษัทย่อยนำไตรมาส 1/67 มีจำนวน 28,968 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,113 ล้านบาท หรือร้อยละ 4 จากกำไรสุทธิ จำนวน 27,855 ล้านบาท ไตรมาส 1/66 ตาม EBITDA ที่เพิ่มขึ้น แม้ว่ามีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน ขาดทุนจากตราสารอนุพันธ์และต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้น ประกอบกับในไตรมาส 1/67 มีการรับรู้รายการที่ไม่ได้เกิดขึ้นประจำ (Non-recurring Items) สุทธิภาษีตามสัดส่วนของ ปตท. เป็นกำ ไรประมาณ 4,400 ล้านบาท

โดยหลักจากกำไรจากการขายเงินลงทุนใน Alvogen Malta (Out-licensing) Holding Ltd. (AMOLH) ของบริษัท ปตท. โกลบอล แมนเนจเม้นท์ จำกัด (PTTGM) จำนวนประมาณ 4,500 ล้าบาท ขณะที่ในไตรมาส 1/66 มีผลขาดทุนประมาณ 100 ล้านบาท โดยหลักจากรายการตัดจำ หน่ายสินทรัพย์จากการสิ้นสุดสัมปทานโครงการบงกชของบริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP

Back to top button