เปิด 20 อันดับหุ้นถูก “Cover-Short” สูงสุด ณ 14 พ.ค.67

ข้อมูลสิ้นสุด 14 พ.ค.67 BTS มีปริมาณชอร์ตคงค้างเหลือมากสุด 350 ล้านหุ้น คิดเป็น 2.66% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด ขณะที่ SIRI มีมูลค่าการปิดสถานะชอร์ตด้วยการซื้อคืนสูงสุดจำนวน 14 ล้านบาท ส่วน KTB ถูก Short Sales สูงสุดจำนวน 73 ล้านบาท


ผู้สื่อข่าวรายงานอ้างอิงการเปิดเผยข้อมูลของ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เกี่ยวกับหลักทรัพย์ที่ยังคงสถานะการขายชอร์ตที่ยังไม่ได้ซื้อคืน (Outstanding Short Positions) ณ วันที่ 14 พ.ค.67 พบว่ามีหลักทรัพย์ที่ยังคงสถานะการขายชอร์ตที่ยังไม่ได้ซื้อคืน จำนวนทั้งหมด 421 หลักทรัพย์ โดยหุ้นที่คงสถานะขายชอร์ตที่ยังไม่ได้ซื้อคืนสูงสุด 5 อันดับแรก (รวมบัญชี NVDR) ประกอบด้วย

1.บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS จำนวน 350,870,889 หุ้น หรือคิดเป็น 2.66% ของหุ้นที่ชำระแล้ว

2.บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC จำนวน 347,362,820 หุ้น หรือคิดเป็น 1.09% ของหุ้นที่ชำระแล้ว

3.บริษัท แลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH จำนวน 257,993,300 หุ้น หรือคิดเป็น 2.16% ของหุ้นที่ชำระแล้ว

4.บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI จำนวน 217,437,200.00 หุ้น หรือคิดเป็น 1.26% ของหุ้นที่ชำระแล้ว

5.บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA จำนวน 101,136,900 หุ้น หรือคิดเป็น 0.68% ของหุ้นที่ชำระแล้ว

ทั้งนี้ จาก 20 อันดับในตารางดังกล่าว พบ 4 หุ้นที่ถูก Cover Short สูงเกิน 1 ล้านหุ้น ได้แก่

1.BTS จำนวน 1,040,600 หุ้น ซึ่งหากเทียบกับราคาปิดวานนี้ที่ระดับ 5.95 บาท คิดเป็นมูลค่า 6,191,570 บาท

2.LH จำนวน 1,657,800 หุ้น ซึ่งหากเทียบกับราคาปิดวานนี้ที่ระดับ 7.05 บาท คิดเป็นมูลค่า 11,687,490 บาท

3.SIRI จำนวน 8,591,400 หุ้น ซึ่งหากเทียบกับราคาปิดวานนี้ที่ระดับ 1.67 บาท คิดเป็นมูลค่า 14,347,638 บาท

4.WHA จำนวน 1,324,300 หุ้น ซึ่งหากเทียบกับราคาปิดวานนี้ที่ระดับ 5.25 บาท คิดเป็นมูลค่า 6,952,575 บาท

ขณะเดียวกันพบ 4 อันดับถูก Short Sales เพิ่มขึ้นสูงเกิน 4 ล้านหุ้น ได้แก่

1.ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TTB จำนวน 10,222,100 หุ้น ซึ่งหากเทียบกับราคาปิดวานนี้ที่ระดับ 1.74 บาท คิดเป็นมูลค่า 17,786,454 บาท

2.บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU จำนวน 7,937,700 หุ้น ซึ่งหากเทียบกับราคาปิดวานนี้ที่ระดับ 5.35 บาท คิดเป็นมูลค่า 42,466,695 บาท

3.บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE จำนวน 5,948,200 หุ้น ซึ่งหากเทียบกับราคาปิดวานนี้ที่ระดับ 8.50 บาท คิดเป็นมูลค่า 50,559,700 บาท

4.ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB จำนวน 4,278,000 หุ้น ซึ่งหากเทียบกับราคาปิดวานนี้ที่ระดับ 17.00 บาท คิดเป็นมูลค่า 72,726,000 บาท

Back to top button