AQUA ไตรมาส 1 โกยกำไร 79 ล้าน ย้ำผลงานปีนี้ตามเป้า รายได้แตะ 2 พันล้าน

AQUA โชว์ผลงานไตรมาส 1/67 โกยกำไรกว่า 79 ล้านบาท ฟากรายได้โตเกือบ 2 เท่าตัวจากไตรมาสก่อน โปรยข่าวดีพร้อมปิดดีลใหม่เร็วๆ นี้


นายชัยพิพัฒน์ แก้วไตรรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อควา คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AQUA เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานสำหรับไตรมาสที่ 1/67 บริษัทมีรายได้รวมเท่ากับ 253.15 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 167.61 ล้านบาท หรือคิดเป็น 195.94% จากไตรมาสก่อน หลังจากในปีที่ผ่านมาได้เข้าลงทุนกลุ่มธุรกิจขนส่ง อาทิ บริษัท เฉลิมภัทร คอร์ปอเรชั่น จำกัด (CPC) รายได้เพิ่มขึ้น 130.27 ล้านบาท และกลุ่มธุรกิจอาหาร อาทิ บริษัท โนมิมาโช จำกัด (NOMI) รายได้โต 8.71 ล้านบาท

ด้าน EBITDA เติบโตกว่า 25.90% มูลค่าเท่ากับ 90.43 ล้านบาท จากเดิม 71.83 ล้านบาท และ AQUA พลิกกำไรจากเดิมขาดทุน 8.85 ล้านบาทเป็นกำไร 79.72 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากส่วนแบ่งกำไรโต 61.50 ล้านบาท หลังจากบริษัทในกลุ่มพลังงาน อีสเทอร์น พาวเวอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (EP) ได้เริ่มทยอยรับรู้รายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้าพลังงานลมเชิงพาณิชย์ (COD) ให้แก่การไฟฟ้าเวียดนาม (EVN) ตั้งแต่วันที่ 30 ธ.ค.66

นายชัยพิพัฒน์ เผยอีกว่า ผลการดำเนินงานของ AQUA ปีนี้ได้สะท้อนการปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่อย่างหลากหลาย เพื่อแสวงหารายได้ที่เติบโตอย่างต่อเนื่องและกระจายความเสี่ยงต่อการขยายการลงทุนในกลุ่มธุรกิจ Mega Trend ของโลก อาทิ ธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานสะอาด ธุรกิจขนส่ง และธุรกิจ FinTech เพื่อบรรลุกลยุทธ์ดังกล่าว ทาง AQUA จัดการความเสี่ยงโดยมีธุรกิจ Cash Cow ที่สร้างรายได้อย่างมั่นคงในระยะยาว 7-30 ปี จากกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ อย่างบริษัท ไทย คอนซูมเมอร์ ดิสทริบิวชั่น เซ็นเตอร์ (TCDC), บริษัท แอ๊คคอมพลิช เวย์ โฮลดิ้ง จำกัด (AWH) และบริษัท มันตรา แอสเซ็ท จำกัด (MANTRA)

โดย AQUA ได้รับรู้รายได้บวกจากบริษัทย่อยที่เข้าไปลงทุนคือ CPC ในสัดส่วน 78.90% ซึ่งประกอบธุรกิจโฮลดิ้งส์ โดยลงทุนในกลุ่มขนส่งที่ให้บริการขนส่งพนักงานในนิคมอุตสาหกรรมซึ่งรายได้ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง 15.09% จากไตรมาสก่อน หลังจากกวาดรายได้ 105 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 90 ล้านบาท สะท้อนจากมาตรการสนับสนุนนิคมอุตสาหกรรมของภาครัฐ และนโยบาย/มาตรการกระตุ้นการลงทุนจากต่างชาติ

นอกจากนี้ทาง CPC ได้เพิ่มรายได้หลังจากได้สัญญาบริการด้วยรถไฟฟ้า (EV) มากขึ้นเพื่อพร้อมตอบรับนโยบาย Net Zero Emission จากทั้งบริษัททั้งไทยและต่างชาติ ซึ่งในส่วนรายได้จากธุรกิจท่องเที่ยวไทยเติบโตอย่างต่อเนื่องในไตรมาส 1/67 และตั้งเป้ารายได้กว่า 100 ล้านบาทภายในปีนี้ หลังจากรับอานิสงส์จากมาตรการยกเว้นวีซ่า (Visa Free) สำหรับชาวจีน คาซัคสถาน อินเดีย และไต้หวัน ในปีนี้

รวมถึงเส้นทางการบินระหว่างไทย-จีนที่เพิ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายปี 66-67 AQUA ยังมั่นใจว่าแผน IPO จะสำเร็จได้ภายใน 5 ปีพร้อมทั้งมีแผนขยายธุรกิจในกลุ่มขนส่งนี้ด้วย หลังจากความสำเร็จที่เข้าลงทุนกับบริษัทในเครืออย่าง บริษัท ไทยพาร์เซิล จำกัด (มหาชน) หรือ TPL

ด้านกลุ่มธุรกิจอาหาร หลังจากเข้าลงทุนใน NOMI ในสัดส่วน 84.58% ณ ปัจจุบันมี 5 สาขา เตรียมมีแผนที่จะขยายสาขาอย่างต่อเนื่องไปยังพื้นที่ที่มีศักยภาพหลังจากสร้างกำไรได้ในทุกสาขา ทั้งนี้เพื่อลดต้นทุนส่วนกลาง นอกจากนี้บริษัทฯ พร้อมลุยธุรกิจอาหารในแบรนด์ใหม่ๆ และเสริมศักยภาพการโตแบบก้าวกระโดด พร้อมดันเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายใน 5 ปี

ขณะที่ธุรกิจ FinTech บริษัท AQUA เล็งเห็นถึงการซินเนอร์ยี่ระหว่าง บริษัท เพียร์ ฟอร์ ออล จำกัด (PFA) และบริษัท เพียร์ ฟอร์ ยู จำกัด (มหาชน) (PEER) เนื่องด้วย PEER มีส่วนในการส่งเสริมและผลักดันให้เกิดการให้บริการลูกค้าในด้านการตลาดได้เป็นอย่างดี และพร้อมมีระบบงานที่รองรับการให้บริการลูกค้าตามเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย บริษัทฯ จึงได้ตัดสินเข้าไปถือหุ้น PEER อย่างมั่นใจในการใช้กลยุทธ์เชิง Proactive การขยายจำนวนผู้ใช้บริการ “P2P” platform เบื้องต้นน่าจะมีการนำ CRM ของ PEER มาใช้ร่วมกัน ทั้งในเชิง Data Driven เพื่อวิเคราะห์ข้อมูล Consumer Behavior ของ NTF การเข้ามาเสริมพื้นฐานเทคโนโลยีให้แข็งแรงมากขึ้น

นายชัยพิพัฒน์ กล่าวเสริมว่า บริษัทฯกำลังศึกษาธุรกิจเพิ่มเติมเพื่อขยายโอกาส สร้างรายได้จากธุรกิจ ต่อยอดธุรกิจปัจจุบันที่มีอยู่ เพิ่มความหลากหลายไม่ว่าจะเป็นกลุ่มธุรกิจอาหาร หรือกลุ่มธุรกิจขนส่งให้กับบริษัท โดยมั่นใจว่าจะเห็นความคืบหน้าได้ภายในไตรมาสที่ 3/67 และบริษัทฯเตรียมจะจัดแถลงข่าวการเปิดตัวธุรกิจใหม่ในลำดับถัดไป เพื่อแสดงถึงการจัดวางโครงสร้างการลงทุนใหม่ที่ชัดเจน

บริษัทฯมุ่งมั่นสร้างรายได้ปี 67 ให้เติบโตไปในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างมั่นคง สร้างโอกาสในการขยายธุรกิจประเภทค้าปลีกทั้งในกลุ่มอาหาร เทคโนโลยี และพลังงาน เห็นได้จากการแผนการลงทุนในธุรกิจที่หลากหลายอย่างต่อเนื่องและการกระจายความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ ตั้งเป้าสร้างรายได้ราว 2,000 ล้านบาทต่อปี” นายชัยพิพัฒน์ กล่าว

Back to top button