MCA กวาดรายได้ Q1 แตะ 155 ลบ. ปักธงปีนี้โต 30% รับแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ

นายภักดี เหล่างาม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มาร์เก็ต คอนเน็กชั่นส์ เอเชีย จำกัด (มหาชน) หรือ MCA เปิดเผยว่า บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าสร้างการเติบโต ผ่านการให้บริการด้านแผนกลยุทธ์ทางการตลาด และการจัดกิจกรรมส่งเสริมทางการตลาดแบบ One-stop Service Marketing Solution อย่างต่อเนื่อง สะท้อนถึงภาพรวมผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2567 ที่มีรายได้จากการขายและบริการ 155.50 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 51.41 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 49.39% โดยมีลูกค้าที่ให้บริการ 107 บริษัท 201 แบรนด์

โดยมีลูกค้าเพิ่มขึ้น 27 บริษัท 62 แบรนด์ แบ่งป็นลูกค้าเดิมที่ทำงานต่อเนื่อง 61.25% และลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น 54.21% เป็นแบรนด์ใหม่เพิ่มขึ้น 47.26% เมื่อเทียบจากปีก่อน เนื่องจากบริษัทฯ ได้มีการเซ็นสัญญาจ้างบริการต่อเนื่องตลอดทั้งปี 2567 ไว้แล้วกว่า 21 บริษัท โดยมีระยะเวลาสัญญาตั้งแต่ 1-3 ปี คิดเป็นรวมมูลค่ารวม 306.93 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้บริหารจัดการเงินที่ได้รับจาก IPO ที่เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจจำนวน 114 ล้านบาท เพื่อขยายธุรกิจให้เติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต ขณะที่กำไรสุทธิ อยู่ที่ 6.72 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.23% โดยสาเหตุที่ผลการดำเนินงานปรับตัวเพิ่มขึ้นมาจาก 5 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่

1.บริการจัดกิจกรรมทางการตลาดและดิจิทัล มีรายได้ 49.58 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.30% ภายใต้ลูกค้าที่ให้บริการ 54 บริษัท 73 แบรนด์ เพิ่มขึ้น 11 บริษัท 15 แบรนด์ เป็นผลจากบริการด้าน Booth & Roadshow, การบริการด้าน Event, การให้บริการด้าน Digital และการให้บริการด้าน Outsourcing Coordinate ซึ่งมีรายได้สูงสุดที่ 21.81 ล้านบาท เนื่องจากมีการว่าจ้างงานแบบต่อเนื่อง และเป็นสัญญาระยะยาว ประกอบกับพฤติกรรมการจัดกิจกรรมการตลาดเปลี่ยนไป โดยหันมาให้ความสำคัญกับ Digital มากขึ้น ส่งผลให้บริษัทฯ ได้เซ็นสัญญาต่อเนื่องตลอดทั้งปี 2567 แล้ว 4 บริษัท มูลค่ารวมทั้งหมด 17.48 ล้านบาท

2.บริการบรรจุและจัดส่งสินค้า มีรายได้ 2.88 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.27% มีลูกค้าที่ให้บริการ 28 บริษัท 39 แบรนด์ เพิ่มขึ้น 12 บริษัท 18 แบรนด์ โดยรายได้ที่เพิ่มขึ้นมาจากการบริการที่ครอบคลุม ทั้งในเรื่องของการบรรจุหีบห่อ, จัดส่งสินค้า, การ Set Up รวมถึงการรื้อถอนโครงสร้าง และการแท็กสินค้า ผ่านระบบ Application โดยปัจจุบันบริษัทฯ เซ็นสัญญาต่อเนื่องตลอดทั้งปี 2567 แล้ว 1 บริษัท มูลค่ารวมทั้งหมด 5.09 ล้านบาท

3.บริการพนักงานแนะนำสินค้า มีรายได้ 32.43 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.31% และมีลูกค้าที่ให้บริการ 30 บริษัท 75 แบรนด์ ซึ่งมาจากการให้บริการด้านพนักงานแนะนำสินค้า PG & BA Campaign รวมถึงการให้บริการด้าน Outsourcing PG, BA เพิ่มมากขึ้น ล่าสุดบริษัทฯ ได้เซ็นสัญญาต่อเนื่องตลอดทั้งปี 2567 แล้ว 8 บริษัท มูลค่ารวมทั้งหมด 81.52 ล้านบาท

4.บริการจัดเรียงสินค้า มีรายได้ 59.13 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 84.03% มีลูกค้าที่ให้บริการ 33 บริษัท 87 แบรนด์ จากการให้บริการด้าน Merchandiser CVS (Share Service) ในกลุ่มร้านสะดวกซื้อ (Convenience store), บริการด้าน Merchandiser & RO (Share Service) ที่ให้บริการในห้างสรรพสินค้า (Modern Trade) ร้านค้าส่ง, ร้านค้าปลีก (General Trade/Traditional Trade) และการให้บริการด้าน Merchandiser & RO (Dedicated) สอดคล้องกับภาวะตลาดที่เปลี่ยน ทำให้บริการในรูปแบบ Share Service มีความต้องการเพิ่มขึ้น ขณะที่บริการด้าน Outsourcing Merchandiser ก็มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้เซ็นสัญญาต่อเนื่องตลอดทั้งปี 2567 แล้ว 13 บริษัท มูลค่ารวมทั้งหมด 202.84 ล้านบาท

5.การจัดจำหน่ายสินค้า มีรายได้ 11.48 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.45% เนื่องจากบริษัทฯ เริ่มดำเนินงานธุรกิจผู้จัดจำหน่ายสินค้าในไตรมาส 3/2566 ผ่านช่องทาง ร้านค้าส่ง, ร้านค้าปลีก (General Trade/Traditional Trade) ครอบคลุมทั่วประเทศ ซึ่งบริษัทฯ มีลูกค้าที่ให้บริการ 6 บริษัท 17 แบรนด์ เพิ่มขึ้น 2 บริษัท 2 แบรนด์ อย่างไรก็ตามธุรกิจดังกล่าวเป็นธุรกิจใหม่เพื่อตอบโจทย์การให้บริการที่ครบวงจรความต้องการของกลุ่มเจ้าของสินค้า ที่มองหาผู้จัดจำหน่ายสินค้าที่มีความเชี่ยวชาญในการขาย และการตลาดที่ช่วยให้สินค้าเข้าถึงผู้บริโภคอย่างมีประสิทธิภาพ และมียอดขายที่เติบโตมากยิ่งขึ้น

“ภาพรวมของอุตสาหกรรมการจัดกิจกรรมส่งเสริมทางการตลาด ยังคงเติบโตและมีสีสันต่อเนื่อง เพราะตราบใดที่กลุ่มเจ้าของสินค้ายังคงให้ความสำคัญในการจัดกิจกรรมส่งเสริมทางการตลาดเพื่อกระตุ้นยอดขาย MCA ในฐานะผู้นำการจัดกิจกรรมส่งเสริมทางการตลาดแบบ One-stop Service Marketing Solution ก็ยังคงได้รับอานิสงส์ต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม สำหรับการเติบโตในปีนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้เพิ่มขึ้น 30% จากดีมานด์การเติบโตตามการฟื้นตัว ซึ่งเป็นผลจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะกระตุ้นกำลังซื้อให้กลับมาคึกคักมากขึ้น” นายภักดี กล่าวทิ้งท้าย