UBE งบไตรมาส 1 พลิกกำไร 107 ล้านบาท จ่อรุกอาหารพรีเมี่ยมรับเทรนด์สุขภาพ

UBE กวาดรายได้ไตรมาส 1/67 แตะ 1.8 พันล้านบาท หนุนพลิกมีกำไร 107 ล้านบาท อานิสงส์ยอดขาย “เอทานอล” เกรดเชื้อเพลิง และ “แป้งมันสำปะหลัง” โตแกร่ง รับแผน “UBEYOND” ลุยพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารมูลค่าสูง รับเทรนด์สุขภาพ พร้อมมุ่งสู่ Net Zero ปี 93


บริษัท อุบล ไบโอ เอทานอล จำกัด (มหาชน) หรือ UBE ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์แปรรูปจากมันสำปะหลังรายใหญ่ของประเทศไทย ได้แก่ ผลิตภัณฑ์เอทานอล แป้งมันสำปะหลังและฟลาวมันสำปะหลัง รวมถึงผลิตภัณฑ์เกษตรอินทรีย์อื่นๆ เปิดเผยว่า บริษัทฯ ประสบความสำเร็จจากการเดินตามแผนกลยุทธ์ UBEYOND ที่วางไว้อย่างเข้มข้น รัดกุม และรอบด้าน ทั้งในด้านการก้าวข้ามความท้าทายในการดำเนินธุรกิจ ที่ให้ความสำคัญกับทุกกระบวนการดำเนินงานที่เป็นเลิศ (Operational Excellence) การเดินหน้างานนวัตกรรม วิจัยและพัฒนา รวมถึงการให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจบนความยั่งยืน

โดยทำให้ผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 1/2567 บริษัทฯ มีรายได้รวมที่ 1,890.30 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 391.10 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 26.10% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีกำไรสุทธิที่ 107.60 ล้านบาท เตรียมเดินหน้าสร้างความแข็งแกร่งต่อเนื่องด้วยศูนย์นวัตกรรมอาหารแห่งอนาคตเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์มูลค่าสูง พร้อมเข้าสู่การประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร เพื่อเป้าหมายสู่การเป็นองค์กรที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอนในปี 2593 ตามเจตนารมณ์การดำเนินธุรกิจที่ยั่งยืนบนพื้นฐาน ESG ที่ใส่ใจเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมครบทุกมิติ

นางสาวสุรียส โควสุรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ UBE กล่าวว่า ผลการดำเนินงานที่สามารถทำกำไรในไตรมาสที่ 1/2567 นับเป็นผลสำเร็จจากการเดินตามแผนกลยุทธ์ “UBEYOND” ไม่ว่าจะเป็น 1) Beyond the Challenges บนแผนการดำเนินธุรกิจที่มีประสิทธิภาพ ทำให้บริษัทฯ ก้าวข้ามความท้าทาย โดยยังสามารถเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดของธุรกิจปัจจุบัน ควบคู่กับการเดินหน้าแสวงหาโอกาสทางธุรกิจใหม่

อีกทั้งบริษัทฯ ได้นำกลยุทธ์ Operational Excellence มายกระดับกระบวนการผลิต ตั้งแต่การบริหารจัดการวัตถุดิบ การปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานภายในด้วยการควบคุมต้นทุน การควบคุมความสูญเสียจากการผลิต และการใช้กลยุทธ์ Digital Transformation 2) Beyond through Innovation ซึ่งเป็นการเดินหน้าตามแผนการขับเคลื่อนนวัตกรรม งานวิจัยและพัฒนา ทั้งจากหน่วยงานวิจัยภายในและบนความร่วมมือจากพันธมิตรภายนอกทั้งภาครัฐและเอกชน และ 3) Beyond Sustainability ดำเนินธุรกิจตามแนวทาง ESG เพื่อความยั่งยืนครบทุกมิติ ตลอดวัฏจักรของผลิตภัณฑ์

“แม้ต้นปี 2567 จะยังมีความท้าทายทั้งสภาวะเศรษฐกิจที่ยังชะลอตัว ปัญหาความแปรปรวนของสภาพอากาศที่มีผลต่อปริมาณผลผลิตที่ทำให้ต้นทุนมันสำปะหลังสูง แต่ผลการดำเนินงานที่สามารถกลับมาทำกำไรได้ในไตรมาส 1/2567 ถือเป็นบทพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจตามแผนกลยุทธ์ที่วางไว้อย่างครอบคลุมและรอบด้าน โดยเฉพาะความมุ่งมั่นที่จะยกระดับกระบวนการดำเนินการงานจากภายในให้เป็นเลิศในทุกกระบวนการ (Operational Excellence) ทำให้บริษัทฯสามารถทำผลงานออกมาได้ตามแผน และยังมีความมั่นคงทางวัตถุดิบที่สต๊อกไว้เพียงพอกับความต้องการผลิตตลอดทั้งปี” นางสาวสุรียส กล่าว

ส่วนธุรกิจแป้งมันสำปะหลัง เริ่มมีคำสั่งซื้อจากลูกค้าทยอยกลับมาเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ปริมาณการส่งออกเพิ่มขึ้น รวมถึงได้อานิสงส์จากราคาจำหน่ายแป้งมันสำปะหลังที่สูงขี้น ประกอบกับผลผลิตมันสำปะหลังจากฤดูกาล 2567/68 ที่เริ่มเข้ามาเติมในสายการผลิต ไฮไลท์ที่โดดเด่นจากนี้ของ UBE และบริษัทฯ ในเครือ ยังเดินหน้าตามแผนสู่ผู้นำผลิตภัณฑ์ทางอาหารและพลังงาน โดยในด้านธุรกิจ ยังโฟกัสที่เรื่องนวัตกรรมเทคโนโลยีชีวภาพทางด้านอาหารและพลังงาน โดยเฉพาะธุรกิจแป้งมันสำปะหลังที่จะเห็นเป็นรูปธรรมมากขึ้นจากการจัดตั้งศูนย์นวัตกรรมอาหาร เพื่อเป็นกลไกในการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารมูลค่าสูงตอบโจทย์ทุกความต้องการลูกค้า รับเทรนด์ความต้องการบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพของโลก

สำหรับธุรกิจเอทานอล ได้เริ่มศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์เอทานอลเชื้อเพลิงอากาศยานชีวภาพแบบยั่งยืน (Sustainable Aviation Fuel : SAF) ขณะที่ด้านสังคม บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญตั้งแต่ภายในคือการส่งเสริมศักยภาพของพนักงานในทุกด้าน สู่ภายนอกคือการมุ่งสร้างคุณค่าร่วมให้เกิดขึ้นกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม โดยเฉพาะเกษตรกร ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของต้นน้ำผ่านโครงการ “อีสานล่าง 2 โมเดลพลัสนวัตกรรม”

ขณะที่ด้านสิ่งแวดล้อม นอกเหนือจากนโยบายการจัดการของเสียอย่างยั่งยืน (Zero waste) ที่บริษัทฯ ดำเนินมาอย่างยาวนาน ปีนี้ บริษัทฯ ได้เข้าสู่กระบวนการประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร (Carbon Footprint of Organization: CFO) เพื่อประเมินการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงานและกิจกรรมต่างๆ ของบริษัทฯ เพื่อต่อยอดสู่การประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ (Carbon Footprint of Product: CFP) ในปีหน้า และนำไปสู่การกำหนดการบริหารจัดการและเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ตามเป้าหมายสู่การเป็นองค์กรที่เป็นกลางทางคาร์บอนในปี 2050 ต่อไป

สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 1/2567 สิ้นสุด ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567 บริษัทฯ มีรายได้รวมที่ 1,890.30 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 391.10 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 26.10% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีกำไรสุทธิที่ 107.60 ล้านบาท สาเหตุหลักจากธุรกิจเอทานอลที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งโดยสามารถสร้างยอดปริมาณการขายเอทานอลเกรดเชื้อเพลิงได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ส่วนธุรกิจแป้งมันสำปะหลังปรับตัวเพิ่มขึ้น 8.50% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการขายแป้งมันสำปะหลังออร์แกนิค และอานิสงส์จากราคาขายที่เพิ่มขึ้นของแป้งมันสำปะหลัง

Back to top button