GULF วางงบลงทุนปี 67 แตะ 2 หมื่นลบ. จ่อประมูล “พลังงานหมุนเวียน” รอบใหม่ 3.6 พันเมกฯ
GULF ส่งซิก Q2 สดใส เดินหน้า COD โรงไฟฟ้าใหม่ เล็ง M&A พันธมิตรเพิ่ม พร้อมจ่อประมูลพลังงานหมุนเวียนรอบใหม่ 3,600 เมกะวัตต์ภายในปีนี้ วางงบลงทุนปี 67 แตะ 2 หมื่นล้านบาท รุกพลังงานหมุนเวียน-ก๊าซธรรมชาติ
นางสาวยุพาพิน วังวิวัฒน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF เปิดเผยข้อมูลภาพรวมธุรกิจของบริษัทผ่านงาน Opportunity Day จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ในวันที่ 17 พ.ค.2567 ว่าในช่วงไตรมาส 1/2567 บริษัทมีรายได้จากการดำเนินอยู่ที่ 32,280 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.6% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากรายได้จากธุรกิจพลังงานหมุนเวียน และธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภค ขณะที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 3,498.53 ล้านบาท
สำหรับภาพรวมในไตรมาส 2/2567 ตลอดจนครึ่งปีหลังของปีนี้น่าจะเติบโตได้ต่อเนื่อง และคาดว่าจะเป็นแรงหนุนให้รายได้ทั้งปี 2567 เติบโตได้ 25-30% ตามเป้าหมาย โดยจากการรับรู้รายได้โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม GPD หน่วยผลิตที่ 3 กำลังผลิตติดตั้ง 662.50 เมกะวัตต์ และโครงการโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ HKP หน่วยที่ 1 กำลังการผลิตติดตั้ง 770 เมกะวัตต์ หลังได้เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) ไปแล้วในเดือนมีนาคม รวมถึงรับรู้กำไรเพิ่มขึ้นจากการ COD โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคา (Solar Rooftop) และมีแผน COD เพิ่มอีก 100 เมกะวัตต์ในปีนี้
ขณะเดียวกันบริษัทฯเตรียม COD โครงการ GPD หน่วยที่ 4 กำลังการผลิตติดตั้ง 662.5 เมกะวัตต์ ในช่วงปลายเดือนต.ค.นี้ด้วย รวมถึงยังมีแผน COD โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บวกแบตเตอรี่ อีก 5 โครงการภายในสิ้นปีนี้ กำลังการผลิตรวม 532 เมกะวัตต์ ส่งผลให้เมกะวัตต์ในปีนี้จะเพิ่มขึ้นอีก 2,700 เมกะวัตต์ หรือเติบโตเป็น 15,120 เมกะวัตต์ภายในสิ้นปีนี้ จากปัจจุบัน 12,420 เมกะวัตต์
ด้านพลังงานหมุนเวียน เตรียมเปิดดำเนินการโซลาร์รูฟท็อป โดยลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า 25 โครงการ รวมทั้งหมด 2,538 เมกะวัตต์ ซึ่งจะเริ่มทยอยเดินหน้า COD ภายในปี 2567-2572 รวมถึงแผน COD ในปี 2567 รวมทั้งหมด 532 เมกะวัตต์ ขณะที่โซลาร์รูฟท็อปเพิ่มวันจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ทั้งหมด 73 เมกะวัตต์
“บริษัทมีการเจรจาร่วมลงทุนกับพันธมิตร หรือ M&A ในส่วนของขยะอุตสาหกรรมเป็นพลังงาน รวมทั้งหมด 119 เมกะวัตต์ และยังมีโรงงาน SRF จำนวน 3 แห่ง” นางสาวยุพาพิน กล่าว
นางสาวยุพาพิน กล่าวอีกว่า บริษัทฯเตรียมเดินหน้าเข้าประมูลโครงการพลังงานหมุนเวียนรอบใหม่ 3,662 เมกะวัตต์ภายในปีนี้ ส่วนโรงไฟฟ้าโซลาร์, โซลาร์แบต และโรงไฟฟ้าพลังงานลม ยังมีการร่วมทุนกับพาร์ทเนอร์ของเราอีก ซึ่งในการทำร่วมทุนกับโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรมอีก 12 โครงการ รวมทั้งหมดประมาณ 120 เมกะวัตต์ ซึ่งจะเปิดดำเนินการในปี 2569
ขณะที่ธุรกิจก๊าซในการจัดส่ง LNG โดยนำเข้า data อยู่ที่ 190,000 ตัน เข้าไตรมาสที่ 1 ปี 2567 โดยมีแผนจะเพิ่มกำลังการผลิตอีก 450,000 ตันภายในสิ้นปี เพื่อนำมาใช้โครงการโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงหินอ่อน และยังมีแผนการสร้าง LPG ซึ่งคาดการณ์ว่าจะเปิดดำเนินการในปี 2570
ส่วนการลงทุนในโครงการพลังงานหมุนเวียน ปัจจุบันมีกำลังการผลิต 8,500 เมกะวัตต์ของกำลังการผลิตพลังงานทดแทน โดยมีแผนจะเพิ่มมากกว่า 3,000 เมกะวัตต์เพื่อให้บรรลุการปล่อยก๊าซสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2593
สำหรับธุรกิจดิจิทัลและการลงทุน เตรียมขับเคลื่อนกำไรจากการขยายจำนวนสมาชิก และการขายแพ็คเกจที่มีมูลค่าสูงขึ้น รวมถึงควบคุมต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ
ด้าน GULF Binance ได้มีการเปิดดำเนินการไปเรียบร้อยแล้วในเดือนมกราคมที่ผ่านมา เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมโดยมีเป้าหมายเพื่อครองส่วนแบ่งการตลาด 30% ภายในปี 2567 ขณะที่จำนวนคริปโตเคอเรนซีมีอยู่ที่ 150 เหรียญ และมีผู้คนลงทะเบียนประมาณ 1 แสนคน
ขณะเดียวกัน DATA CENTER มีจำนวน 2 เฟส โดยระยะละ 25 เมกะวัตต์ รวมเป็น 50 เมกะวัตต์ และเฟส 1 อยู่ระหว่างการก่อสร้าง, พร้อมเดินหน้า COD เดือนมีนาคมปี 2568 โดยปัจจุบันมีการติดตั้งอยู่ที่ 100 เมกะวัตต์ และภายใน 5-6 ปีอาจจะอยู่ที่ระดับ 300-400 เมกะวัตต์ คาดการณ์ว่าจะเติบโตเพิ่มขึ้นสองเท่า
“โดยบริษัทวางงบประมาณลงทุนปี 2567 อยู่ที่ 20,000 ล้านบาท โดยหลักจะเป็นพลังงานหมุนเวียน และก๊าซธรรมชาติ และกางแผน 5 ปี (2567-2571) วางงบประมาณอยู่ที่ 90,000 ล้านบาท” นางสาวยุพาพิน กล่าวทิ้งท้าย