“หุ้นเอเชีย” เปิดบวกตามดาวโจนส์ หลังยืนเหนือ 40,000 จุด
ตลาดหุ้นเอเชียเปิดบวกส่วนใหญ่ตามดาวโจนส์ หลังอยู่เหนือระดับ 40,000 จุด ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน ตลอดจนข้อมูลเงินเฟ้อและข้อมูลเศรษฐกิจอื่นๆ
ตลาดหุ้นเอเชีย เปิดภาคเช้าบวกเป็นส่วนใหญ่ในวันนี้ (20 พ.ค.67) โดยเคลื่อนไหวตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐที่ปรับตัวขึ้นเมื่อวันศุกร์ (17 พ.ค.67) หลังยืนเหนือระดับ 40,000 จุด ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน ตลอดจนข้อมูลเงินเฟ้อและข้อมูลเศรษฐกิจอื่นๆ ได้หนุนความหวังของนักลงทุนที่ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในปีนี้ นอกจากนี้เครื่องมือ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า บรรดาเทรดเดอร์คาดว่า มีโอกาส 68% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือนก.ย.
ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปรับตัวขึ้นในรอบสัปดาห์นี้ด้วย เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจสนับสนุนการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในปีนี้
ขณะที่นักลงทุนรอการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจจากประเทศต่างๆ ในเอเชีย ส่วนจีนประกาศคงอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 1 ปีและ 5 ปีตามคาดการณ์
สำหรับดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตเปิดตลาดที่ระดับ 3,156.15 จุด เพิ่มขึ้น 2.12 จุด หรือ +0.06% ขณะที่ดัชนีฮั่งเส็งเปิดตลาดที่ระดับ 19,621.43 จุด เพิ่มขึ้น 67.82 จุด หรือ +0.34% ส่วนดัชนีนิกเกอิเปิดตลาดที่ระดับ 38,761.71 จุด ลดลง 25.67 จุด หรือ -0.06%
ขณะที่ธนาคารกลางจีน (PBOC) ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ประเภท 1 ปีไว้ที่ระดับ 3.45% และคงอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 5 ปีไว้ที่ระดับ 3.95% ในวันนี้ (20 พ.ค.67) ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่
ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 1 ปีของจีนเป็นอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงในการกำหนดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะสั้น ส่วนอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 5 ปีเป็นอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงในการกำหนดอัตราดอกเบี้ยระยะยาว เช่น อัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง
โดยการประกาศคงอัตราดอกเบี้ย LPR มีขึ้นหลังจากที่ธนาคารกลางจีนมีคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะกลาง (MLF) ระยะ 1 ปีซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของจีนไว้ที่ระดับ 2.50% เมื่อวันที่ 15 พ.ค.67 ที่ผ่านมา สอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ ซึ่งเป็นการสัญญาณว่า ธนาคารกลางจีนมีความตั้งใจจะพยุงเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวโดยไม่สร้างแรงกดดันต่อสกุลเงินหยวน