NEX-EA-BYD ร่วงต่อ! เจอ “ชอร์ตเซล” ถล่มไม่หยุด
NEX-EA-BYD ราคาร่วงต่อ! ปรากฏการณ์ “ชอร์ตเซล” อย่างต่อเนื่อง ฟาก“สมโภชน์” ซีอีโอพลังงานบริสุทธิ์ ปฏิเสธซดเกาเหลา “หลิน เข่อนัว” ซีอีโอเน็กซ์ พอยท์ ระบุชัดพร้อมหนุนเต็มที่ ไร้แผนขายตัดหุ้น NEX ทิ้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (21 พ.ค. 67) หุ้นกลุ่ม EA รูดต่อไม่หยุดตาม ณ เวลา 11:03 น. นำโดย บริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NEX ราคาหุ้นอยู่ที่ 4.12 บาท ลบไป 0.34 บาท หรือ 7.62% สูงสุดที่ระดับ 4.66 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 4.12 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 494.59 ล้านบาท
บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA ราคาหุ้นอยู่ที่ 25.25 บาท ลบไป 1.00 บาท หรือ 3.81% สูงสุดที่ระดับ 26.50 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 25.00 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 399.48 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ BYD ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 2.40 บาท ลบไป 0.06 บาท หรือ 2.44% สูงสุดที่ระดับ 2.48 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 2.38 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 17.85 ล้านบาท
จากข้อมูลการขายชอร์ตเมื่อวันที่ 18 พ.ค. 67 ที่ผ่านมา พบว่า NEX มีปริมาณการขายชอร์ต 1.89 ล้านหุ้น มูลค่ารวม 9.24 ล้านบาท ขณะที่ EA มีปริมาณการขายชอร์ต 3.65 ล้านหุ้น มูลค่ารวม 96.47 ล้านบาท และ BYD มีปริมาณการขายชอร์ต 2.99 แสนหุ้น มูลค่ารวม 7.57 แสนบาท
ส่วนนับตั้งแต่ที่ช่วงผ่านมา ราคาหุ้นกลุ่ม EA ปรับตัวลดลงมาอย่างต่อเนี่อง ขณะเดียวกันเกิดปรากฏการณ์ชอร์ตเซลกับหุ้นกลุ่ม EA อย่างต่อเนื่องเช่นกัน แม้การประกาศผลประกอบการไตรมาส 1/2567 จะผ่านไปแล้ว ราคาหุ้นกลุ่มดังกล่าวยังไม่ฟื้นตัว ยังถูกกังวลจากปัจจัยพื้นฐานว่าพ้นจุดต่ำสุดแล้วจริงหรือไม่
นายสมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร EA กล่าวว่าทาง EA และ NEX ไม่ได้มีปัญหากัน และยังคงสนับสนุนกันอย่างเต็มที่ โดย NEX ถือป็นจิ๊กซอว์การเติบโตของ New S-cruve ของบริษัท โดยมองธุรกิจรถไฟฟ้ายังมีความน่าสนใจขึ้นเรื่อย ๆ และผลิตภัณฑ์ของ NEX ยังเป็นที่น่าสน ใจในอนาคต
“ช่วงที่เกิดราคาหุ้นเน็กซ์ร่วงหนัก ตัวผมยังคงอยู่ที่ต่างประเทศ และมารับทราบข่าวเรื่องนี้จากการที่คุณคณิสสร์ได้โทร.เข้ามาปรึกษาหาลือและขอแนวทางในการแก้ไขปัญหาส่วนตัว โดยมองว่าพื้นฐาน NEX ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไป มีผู้ถือหุ้นขายหุ้นในราคาที่เปลี่ยนไป ทรัพย์สินก็เหมือนเดิม เพียงแค่ผู้ถือหุ้นขายไปเท่านั้น EA ยังถือหุ้นเหมือนเดิม และเชื่อว่า NEX เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เดินหน้าไปข้างหน้าได้ โดยยืนยันว่าผมไม่ได้มีการทะเลาะอะไรกันกับผู้บริหารเน็กซ์อย่างแน่นอน” นายสมโภชน์ กล่าว
ทั้งนี้ ปัจจุบัน EA ยังคงถือหุ้น NEX อยู่เหมือนเดิม ไม่ได้ขายหุ้น การ Short Sell ไม่ได้กระทบกับตัวพื้นฐานบริษัทหรือตัวผู้บริหาร สำหรับประเด็นการเปลี่ยนผู้ถือหุ้นจากการขายบิ๊กล็อตของผู้ถือหุ้นใหญ่นั้น มองว่าไม่ได้มีผลกระทบต่อการบริหารบริษัท เนื่องจากปัจจุบัน EA ถือหุ้น NEX เกือบ 40% การเปลี่ยนผู้บริหารหรือครอบงำบริษัท NEX นั้นทำได้ไม่ง่ายอย่างที่คิดกัน
อย่างไรก็ตามมองว่า NEX ยังเป็นบริษัทที่มีศักยภาพและมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ออกมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ได้รับความเชื่อถือจากลูกค้า ซึ่งในระยะยาว EA ไม่ได้มองแค่ราคาหุ้น แต่มองในแง่การทำธุรกิจมากกว่า
ส่วนกรณีนายวุฒิเลิศ เจียรนิลกุลชัย กรรมการบริษัท ขายหุ้น EA ออกไป 272 ล้านหุ้น ก่อนหน้านี้ เป็นแค่การเปลี่ยนผู้ถือหุ้นเท่านั้น แต่ส่วนอื่น ๆ ยังเหมือนเดิม ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลง
ด้านนายคณิสสร์ ศรีวชิระประภา (หลิน เข่อนัว) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร NEX เปิดเผยว่า ประเด็นความสัมพันธ์กับ EA ยืนยันไม่ได้มีปัญหากัน ทาง EA และ NEX ยังคงต้องพึ่งพาอาศัยกัน ไม่ได้มีประเด็นใดที่เป็นนัยสำคัญ มองปัญหาราคาหุ้นร่วงเป็นแค่เพียงระยะสั้น แต่ระยะยาวธุรกิจยังมีพื้นฐานของบริษัท และสินค้ายานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ของบริษัทยังมีการเติบโตที่ดี
ทั้งนี้ จากกรณีราคาหุ้น NEX มีการปรับตัวลงมามากก่อนหน้านี้ เนื่องมาจากนักลงทุนถูกบังคับขาย (Force Sell) จากที่ short หุ้น NEX ทำให้คนอื่นที่ไม่ได้ถูก Force Sell เกิด Panic ขายออกมาด้วย ประกอบกับงบการเงินไตรมาส 1/2567 ที่ออกมาลดลงนั้น ในส่วนของยอดขายไม่ได้ลดลง แต่ลดลงจากต้นทุนในส่วนของโรงงานผลิต ซึ่งก็น่าจะเป็นการขาดทุนครั้งเดียว ซึ่งอาจเป็นปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนเกิดความกังวล จึงทำให้เกิดการขายชอร์ต (Short Sell) แต่ปัจจุบันการดำเนินธุรกิจยังเป็นไปตามพื้นฐานของอุตสาหกรรม EV
โดยกรณีดังกล่าวไม่ได้สะท้อนพื้นฐาน (Fundamental) และผลการดำเนินธุรกิจของบริษัท โดยยืนยันว่า NEX ยังแข็งแกร่งทั้งตัวบริษัทและส่วนของลูกค้า และที่ผ่านมาก่อนหน้านี้บริษัทก็ยังได้ตั้งวงเงินเกือบ 300 ล้านบาท เพื่อทยอยซื้อหุ้น NEX คืนตามแผนก่อนเกิดปัญหา Short Sell สะท้อนว่าบริษัทยังคงมีความแข็งแกร่ง
สำหรับปีนี้ NEX ยังคงเป้าหมายส่งมอบรถไฟฟ้าให้ลูกค้าจำนวน 5,556 คันตามแผน และตั้งเป้ารายได้ปีนี้ที่ระดับ 20,000 ล้านบาท รวมถึงคาดยอดส่งมอบรถครึ่งปีหลังดีกว่าครึ่งปีแรก จากยอดส่งมอบรถที่คาดว่าจะมากขึ้น รวมถึงมาตรการภาครัฐออกมากระตุ้นการส่งเสริมการใช้รถเชิงพาณิชย์ เช่น ให้หักภาษี 2 เท่าสำหรับรถยนต์ที่ผลิตในไทย โดยที่ไม่มีกำหนดเพดาน ปัจจัยนี้จะสนับสนุนให้กลุ่มบริษัทต่าง ๆ หันมาใช้รถไฟฟ้ามากขึ้น ขณะที่ด้านการลงทุน NEX มีแผนจะตั้งโรงงานผลิตอะไหล่ชิ้นส่วนของรถ EV โดยคาดว่าจะให้งบประมาณ 100-200 ล้านบาท
ขณะที่ วานนี้ (20 พ.ค. 2567) บริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) แจ้งว่าเมื่อวันที่ 17 พ.ค. 67 โดยบริษัทได้ดำเนินการซื้อหุ้นคืนรวมทั้งสิ้น 26,277,700 หุ้น คิดเป็น 1.30% ของหุ้นที่จําหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัท รวมมูลค่าหุ้นที่ซื้อคืนทั้งสิ้น 252.09 ล้านบาท ทั้งนี้เพื่อให้เป็นไปตามกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง บริษัทจะสามารถจําหน่ายหุ้นที่ซื้อคืนได้ภายหลังพ้นกำหนด 3 เดือน นับจากวันที่ซื้อหุ้นคืนเสร็จสิ้น แต่ไม่เกิน 3 ปี โดยหากครบกำหนดระยะเวลาจําหน่ายหุ้นที่ซื้อคืนแล้วบริษัท ไม่สามารถจําหน่ายหรือจําหน่ายหุ้นที่ซื้อคืนไม่หมด บริษัทจะต้องทำการลดทุน ที่ชําระแล้วโดยวิธีตัดหุ้นจดทะเบียนที่ซื้อคืนและยังไม่ได้จําหน่ายทั้งหมด
สำหรับระยะเวลาการจําหน่ายหุ้นที่ซื้อคืน บริษัทจะนําเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเพื่อพิจารณาอีกครั้ง และแจ้งให้ท่านทราบต่อไป