“สายสีเหลือง” ดีเดย์ 10 มิ.ย.67 หวนเดินรถปกติ-เพิ่มเซ็นเซอร์ป้องกันวัสดุร่วง
“รฟม.” แจ้งความคืบหน้า “สายสีเหลือง” เตรียมกลับมาเดินรถปกติและเก็บค่าโดยสารเต็มราคา 10 มิ.ย.นี้ พร้อมเพิ่มเซ็นเซอร์ป้องกันวัสดุหลุดร่วงลงมาอีก
การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) รายงานความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาการเดินรถและป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง และสายสีชมพู ระบุว่า รถไฟฟ้าสายสีเหลืองเตรียมกลับมาเดินรถปกติ 10 มิ.ย.67 และเพิ่มเซ็นเซอร์แจ้งเตือน
โดยความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาการเดินรถและป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ โครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง หลังเกิดอุบัติเหตุแผ่นเหล็ก (finger plate) และชิ้นส่วนอุปกรณ์ยึดรางนำไฟฟ้าหลุดร่วงช่วงระหว่างสถานีกลันตัน (YL12) ถึงสถานีศรีอุดม (YL16) ฝั่งมุ่งหน้าสถานีสำโรง (YL23) (south bound) เมื่อวันที่ 28 มี.ค.67 นั้น
ขณะนี้ บริษัท อีสเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด (EBM) ผู้รับสัมปทานอยู่ระหว่างดำเนินการแก้ไข โดยติดตั้งแผ่น finger plateใหม่ เปลี่ยน Bolt หรือน็อตยึดแผ่น finger plate กับคานทางวิ่ง (Guideway Beam) ที่มีปัญหา และตรวจสอบน็อตจุดอื่นๆ จำนวน 40,000 ตัว เสร็จเรียบร้อยแล้ว
นอกจากนี้ยังมีการติดตั้งระบบเซ็นเซอร์จับความร้อนเพิ่มเติม หากมีปัญหาระบบจะแจ้งเตือนเพื่อหยุดการทำงานป้องกันไม่ให้วัสดุหลุดร่วงลงมาอีก ซึ่งเดิม รฟม. รายงานว่าจะแล้วเสร็จ และเปิดให้บริการเดินรถเต็มรูปแบบตามปกติ ภายในสิ้นเดือน พ.ค.นี้ แต่เนื่องจากต้องมีการทดสอบระบบจ่ายกระแสไฟฟ้าใช้เวลาเพิ่มอีกประมาณ 10 วัน จึงคาดการณ์ว่าจะเปิดให้บริการเดินรถได้วันที่ 10 มิ.ย.67
อย่างไรก็ตาม ก่อนจะเปิดให้บริการ รฟม. และผู้รับสัมปทาน จะมีการประชาสัมพันธ์แผนการเดินรถเต็มเส้นทาง รวมถึงการจัดเก็บค่าโดยสารอัตราปกติ จากปัจจุบันที่มีการให้ส่วนลด 20% เนื่องจากอยู่ระหว่างปรับปรุงแก้ไขระบบ ซึ่งจะแจ้งให้กับผู้ใช้บริการทราบล่วงหน้าอีกครั้ง
ส่วนโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพู ส่วนต่อขยายในเมืองทองธานี เป็นกรณีเกิดอุบัติเหตุน้ำปูนหล่นใส่รถยนต์ เมื่อวันที่ 30 มี.ค.67 โดย รฟม.ชี้แจงว่า การก่อสร้างโครงสร้างทางวิ่งรถไฟฟ้าสายสีชมพู ส่วนต่อขยายในเมืองทองธานี ผู้รับเหมาได้มีการปิดพื้นที่ตามมาตรการความปลอดภัย เนื่องจากวันดังกล่าวมีการจัดงานภายในเมืองทองธานี มีประชาชนเดินทางเข้ามาจำนวนมาก ทำให้การจราจรติดขัด จึงได้มีการประสานของให้ทางโครงการเปิดพื้นที่เพื่อเร่งระบายจราจร กระทั่งเกิดอุบัติเหตุขึ้นดังกล่าว จึงได้กำชับให้เพิ่มมาตรการเข้มงวดด้านความปลอดภัย และให้ปฏิบัติตามมาตรการที่กระทรวงคมนาคม กำหนดอย่างเคร่งครัด หากเกิดเหตุซ้ำขึ้นอีกจะต้องบันทึกลงสมุดพก เพื่อตัดแต้มคะแนน และถูกลงโทษตามแต้มที่ถูกตัดไว้ด้วย