วันนี้ นายกฯ นั่งหัวโต๊ะครม.เศรษฐกิจนัดแรก ลุ้นมาตรการช่วยกลุ่มเปราะบาง SMEs
ประชุมครม.เศรษฐกิจนัดแรกวันนี้ “เศรษฐา”นั่งประธาน ลุ้นเคาะมาตรการช่วยเหลือเอสเอ็มอี กลุ่มเปราะบาง และการกระตุ้นเศรษฐกิจ...
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (27 พ.ค. 67) เป็นวันแรกที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ครั้งที่ 1 /2567 ซึ่งการประชุมนี้ถือเป็นการเรียกความเชื่อมั่นด้านเศรษฐกิจ โดยเฉพาะจะเน้นการหารือมาตรการระยะสั้น กระตุ้นเศรษฐกิจที่จะต้องการให้เห็นผลทันที เพื่อที่จะช่วยเหลือประชาชน โดยเฉพาะการช่วยเหลือกลุ่มเอสเอ็มอีและกลุ่มเปราะบาง
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างพิจารณามาตรการใหม่ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยก่อนหน้านี้ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้มีการเรียกมาหารือถึงสถานการณ์เศรษฐกิจแล้ว 2-3 ครั้ง โดยเฉพาะเรื่องตัวเลขทางเศรษฐกิจ
ซึ่งที่ผ่านมา ทางรัฐบาลก็มีการออกมาตรกระตุ้นไปหนักมาก แต่ตัวเลขเศรษฐกิจไตรมาสที่ 1 ปี 2567 ซึ่งออกมาขยายตัว 1.5% แม้สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ แต่ก็ยังต่ำสุดเมื่อเทียบกับประเทศในภูมิภาคอาเซียน
ทั้งนี้ นายเศรษฐา ได้นัดประชุมคณะรัฐมนตรี โดยมีรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงเศรษฐกิจ รวมถึงหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง จะมีการหารือร่วมกันเกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจ และการหามาตรการใหม่ เพื่อนำการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยในการประชุมครม.เศรษฐกิจครั้งนี้ เป็นการพูดคุยอย่างเป็นทางการครั้งแรก คงจะพูดคุยกันว่ามีปัญหา มีวิกฤตอะไรบ้าง และดูว่ามีภาคส่วนไหนที่จำเป็นต้องดูแล ออกกลไกมาตรการ และแบ่งว่าหน่วยงานไหนจะรับผิดชอบ โดยกระทรวงการคลัง ก็มีการทำการบ้านไว้แล้วเช่นกัน และพร้อมที่จะนำเสนอในครม.เศรษฐกิจ เชื่อว่าทุกๆ หน่วยงานก็เตรียมพร้อมเช่นกัน
สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 1 ปี 2567 ได้รับผลจากภาคการส่งออก และภาคอุตสาหกรรมที่หดตัว รวมทั้ง งบประมาณปี 2567 ที่ออกมาล่าช้า แต่สิ่งที่ช่วยพยุงเศรษฐกิจอยู่ คือ ภาคการบริการ และการท่องเที่ยว อย่างไรก็ดี เชื่อว่าตัวเลขเศรษฐกิจไตรมาสที่ 2 ปี 2567 จะดีกว่าไตรมาสที่ผ่านมา เพราะเป็นช่วงที่เทศกาลสงกรานต์ โดยรัฐบาลกระตุ้นการท่องเที่ยวอย่างเต็มกำลัง
ส่วนเรื่องของงบลงทุนภาครัฐยังหดตัวนั้น เนื่องจากงบประมาณ 2567 เพิ่งออกมาได้ 2-3 สัปดาห์ จึงยังไม่มีผลกับเศรษฐกิจ เนื่องจากต้องใช้เวลาในการจัดซื้อจัดจ้าง และผูกพันงบประมาณ แต่จากที่ฟังรายงานจากกรมบัญชีกลาง การผูกพันงบประมาณ 2567 เป็นไปได้ด้วยดี การเดินหน้าเบิกจ่ายเป็นไปตามกรอบ ทุกหน่วยงานรัฐมีการเตรียมความพร้อม โดยก่อนหน้า กรมบัญชีกลางมีมาตรการให้หน่วยงานรัฐ เตรียมการจัดซื้อจัดจ้างไว้ล่วงหน้า
ทางด้าน นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า การประชุม ครม.เศรษฐกิจในครั้งนี้ ถือเป็นการเรียกความเชื่อมั่นด้านเศรษฐกิจ โดยเฉพาะจะเน้นการหารือมาตรการระยะสั้น กระตุ้นเศรษฐกิจที่จะต้องการให้เห็นผลทันที เพื่อที่จะช่วยเหลือประชาชน โดยเฉพาะการช่วยเหลือกลุ่มเอสเอ็มอีและกลุ่มเปราะบาง ทั้งนี้ มาตรการระยะสั้น รัฐบาลวางกรอบไว้ว่าจะใช้มาตรการเดิม และมีมาตรการใหม่เสริมเข้าไป ในขณะเดียวกัน มาตรการเดิมนั้นจะต้องเร่งให้เร็วขึ้น โดยการประชุมในวันพรุ่งนี้ นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้แต่ละรัฐมนตรี และแต่ละหน่วยงาน เสนอไอเดีย เบื้องต้นเพื่อเป็นการเตรียมมาตรการระยะสั้น เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่จะทำให้ประชาชนได้รับผลประโยชน์อย่างรวดเร็ว.