SAWAD ตั้งเป้าปีนี้พอร์ตสินเชื่อโต 20% รุกขยายสาขาแตะ 5,700 แห่ง คุม NPL เหลือ 3-4%
SAWAD วางเป้าปีนี้พอร์ตสินเชื่อโต 20% เน้นปล่อยแบบหลักประกัน และเพิ่มสัดส่วนนายหน้าประกัน พร้อมเดินหน้าขยายสาขาต่อเนื่องสิ้นปี 67 แตะ 5,700 สาขา คาด NPL อยู่ที่ระดับ 3-4%
นางสาวธิดา แก้วบุตตา ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์องค์กร บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAWAD เปิดเผยข้อมูลภาพรวมธุรกิจของบริษัทผ่านงาน Opportunity Day จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ในวันที่ 27 พ.ค. 2567 ว่าผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2567 บริษัทมีกำไรสุทธิ 1,261 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.08% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,200 ล้านบาท ซึ่งบริษัทมีรายได้ดอกเบี้ย 4,595 ล้านบาท รวมถึงพอร์ตสินเชื่อรวมอยู่ที่ 99,819 ล้านบาท มาจากการปล่อยสินเชื่อในธุรกิจหลักที่เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ธุรกิจหลักของบริษัทแบ่งเป็น สินเชื่อสำหรับรถทุกประเภท, สินเชื่อจำนำที่ดินและบ้าน รวมทั้งธุรกิจประกันภัย และการจัดการสินทรัพย์ และธุรกิจกลุ่มบริษัท ศรีสวัสดิ์ แคปปิตอล 1969 จำกัด (มหาชน) หรือ SCAP ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ใหม่
สำหรับสัดส่วนธุรกิจในพอร์ตสินเชื่อแบ่งเป็น สินเชื่อเช่าซื้อมอเตอร์ไซค์ใหม่สัดส่วน 31%, สินเชื่อจำนำทะเบียนรถสัดส่วน 25% ,สินเชื่อจำนำบ้านและที่ดินสัดส่วน 25%, สินเชื่อจำนำมอเตอร์ไซค์สัดส่วน 16% และสินเชื่ออื่นๆ สัดส่วน 3% ซึ่งเป็นสินเชื่อไม่มีหลักประกัน
ส่วนในปีนี้ตั้งเป้าพอร์ตสินเชื่อรวมเติบโต 20% โดยเน้นการเติบโตจากการปล่อยสินเชื่อมีหลักประกันเป็นหลัก และมองว่าสินเชื่อเช่าซื้อมอเตอร์ไซค์ถ้าเทียบกับสินเชื่อจำนำทะเบียนรถจะค่อยๆปรับสัดส่วนลดลงในปีนี้ พร้อมกับบริษัทจะมุ่งเน้นเพิ่มสัดส่วนรายได้นายหน้าขายประกันมากขึ้น โดยรายได้นายหน้าขายประกันปีก่อนอยู่ที่ 1,000 ล้านบาท ส่วนปีนี้ตั้งเป้ารายได้มากกว่า 1 พันล้านบาท และคาด NPL ปีนี้จะอยู่ที่ระดับ 3-4%
“บริษัทมั่นใจสินเชื่อปีนี้เติบโตเข้าเป้า 20% โดยจะโดดเด่นในครึ่งปีหลังเนื่องจากในช่วงไตรมาส 1 และไตรมาส 2 ของธุรกิจทุกปีความต้องการสินเชื่อไม่สูง เนื่องจากลูกค้าจะมีกระแสเงินสดที่เหลือในช่วงต้นปีที่มีการจ่ายโบนัส ขณะที่ไตรมาส 2 เป็นช่วงโลซีซั่น ดังนั้นธุรกิจจะโดดเด่นในช่วงไตรมาส 3 และไตรมา 4 ส่วนแนวโน้มการปล่อยสินเชื่อในไตรมาส 2 ยังสดใส แม้จะเงียบเหงาบ้างในช่วงสงกรานต์ แต่ช่วงเดือนพ.ค. ก็กลับมาปกติโดยเฉพาะในช่วงเปิดเทอม” นางสาวธิดา กล่าว
นางสาวธิดา กล่าวอีกว่า สำหรับปีนี้บริษัทมีแผนขยายสาขาเพิ่มเป็น 5,600-5,700 สาขา โดยจะใช้เงินลงทุนสาขาละ 200,000 บาท หลังจากสิ้นไตรมาส 1/2567 บริษัทมีสาขาให้บริการกระจายตัวทั่วประเทศไทยจำนวน 5,534 แห่ง ดังนั้นแผนขยายสาขานอกจากจะช่วยบริการสินเชื่อแล้วยังช่วยขยายพอร์ตบริษัทและให้ลูกค้าเข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายมากขึ้น
โดยสิ้นเดือนเม.ย.67 มีรถจดทะเบียนกรมการขนส่งทางบกอยู่ที่ 44.50 ล้านคัน และถือเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีทะเบียนรถและเป็นเจ้ารถ ซึ่งสามารถเข้ามาใช้บริการสินเชื่อบริษัทได้ โดยเฉพาะลูกค้าที่เข้าไม่ถึงสถาบันการเงิน ไม่มีประวัติสินเชื่อและเครดิตซึ่งสามารถมาใช้บริการได้
ขณะที่แผนการชำระหนี้เงินกู้ 1.3 หมื่นล้านบาทในปีนี้จะมีการใช้เงินจากธนาคารพาณิชย์ที่มีเครดิตเหลือ รวมถึงธนาคารพาณิชย์ใหม่ๆที่ติดต่อเพื่อขอสินเชื่อซึ่งคืบหน้าไปด้วยดี และมีแผนที่จะออกเงินกู้ใหม่มาชำระเงินกู้เก่า และบริษัทรับกระแสเงินสดเข้ามาไตรมาสละ 4,000- 5,000 ล้านบาท ก็อยากให้ผู้ถือหุ้นกู้และเจ้าหนี้รวมทั้งนักลงทุนสบายใจ