“หุ้นเอเชีย” เปิดลบตามดาวโจนส์ หลังบอนด์ยีลด์พุ่ง

ตลาดหุ้นเอเชีย เปิดภาคเช้าลบส่วนใหญ่ในวันนี้ (29 พ.ค.67) ตามดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดลดลง 216.73 จุด หรือ 0.55% ปิดที่ 38,852.86 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดเพิ่มขึ้น 1.32 จุด หรือ 0.02% ปิดที่ 5,306.04 จุด และดัชนีแนสแดค ปิดเพิ่มขึ้น 99.09 จุด หรือ 0.59% ปิดที่ 17,019.88 จุด หลังถูกกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ หรือบอนด์ยีลด์ที่เพิ่มสูงขึ้น

ขณะที่ดัชนี Nasdaq Composite ของตลาดหุ้นสหรัฐพุ่งสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้งเมื่อวันอังคาร (28 พ.ค.67) โดยทะลุระดับ 17,000 เป็นครั้งแรก เนื่องจากได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้น 7% ของหุ้นอินวิเดีย (Nvidia)

โดยดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตเปิดตลาดที่ระดับ 3,108.03 จุด ลดลง 1.54 จุด หรือ -0.05% ขณะที่ดัชนีฮั่งเส็งเปิดตลาดที่ระดับ 18,659.41 จุด ลดลง 161.75 จุด หรือ -0.86% ส่วนดัชนีนิกเกอิเปิดตลาดที่ระดับ 38,880.50 จุด เพิ่มขึ้น 25.13 จุด หรือ +0.06%

ส่วนนักลงทุนจะประเมินตัวเลขเงินเฟ้อเดือนเม.ย.ของออสเตรเลีย โดยคาดว่าอัตราเงินเฟ้ออาจลดลงสู่ 3.4% จาก 3.5% ในเดือนมี.ค.

ด้านสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) มีกำหนดเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและภาคบริการประจำเดือนพ.ค.ในวันศุกร์นี้ (31 พ.ค.67) และไฉซินมีกำหนดเปิดเผยดัชนี PMI ภาคการผลิตประจำเดือนพ.ค.ของจีนในวันจันทร์ (3 มิ.ย.67)

นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐในวันศุกร์นี้ (31 พ.ค.67) เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้กำหนดเวลาในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด โดยดัชนี PCE เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ เนื่องจากสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)