BCH กางแผนปี 67 ทุ่มงบพันล้าน เน้นปรับปรุงรพ. ลุยเปิด “ศูนย์มะเร็งรังสีรักษา” ไตรมาส 3

BCHเปิดแผนธุรกิจปี 67 วางงบลงทุน 1 พันล้านบาท ปรับปรุงโรงพยาบาลเดิมและขยายโรงพยาบาลใหม่ 3 แห่ง พ่วงลุยเปิดศูนย์มะเร็งรังสีรักษาไตรมาส 3/67 พร้อมให้บริการทันตกรรมเชิงรุก รับนโยบายประกันสังคม


นางสาววิมลมาลย์ กฤษณะกลิน รองผู้อำนวยการฝ่ายการเงิน และนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) หรือ BCH เปิดเผยข้อมูลภาพรวมธุรกิจของบริษัทผ่านงาน Opportunity Day จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ในวันที่ 28 พ.ค. 2567 ว่าผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2567 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 318.90 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.61% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 253.87 ล้านบาท และมีรายได้รวม 2,865.40 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.30% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

โดยเป็นผลมาจากการเติบโตของผู้ป่วยนอก (OPD) และรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากโรงพยาบาลใหม่ทั้ง 3 แห่ง รวมทั้งการกลับมาเข้ารับการรักษาของผู้ป่วยในศูนย์การแพทย์เฉพาะทางทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมีรายได้จากผู้ประกันตน ที่มีการปรับค่าบริการเหมาจ่ายรายหัวตั้งแต่เดือนพ.ค. 2566 รวมทั้งการรักษาผู้ประกันตนใน 5 กลุ่มโรคซับซ้อน ซึ่งเข้ามาสนับสนุนรายได้ในไตรมาส 1/2567 ของบริษัทฯ

สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงเหลือของบริษัทฯ มีปัจจัยสนับสนุนต่างๆ ดังนี้ 1) โครงการส่งเสริมสุขภาพจากสำนักงานประกันสังคม ที่ได้มีการปรับเพิ่มโปรแกรมต่างๆ ซึ่งบริษัทฯ ได้มีการตอบรับโครงการดังกล่าว โดยในต้นเดือนพ.ค. ที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้จัดตั้งบริษัทร่วมทุนร่วมกับบริษัท เดนทัล แฟคทอรี จำกัด โดยใช้ชื่อว่า บริษัท บางกอก เชน เดนทัล จำกัด โดยบริษัทฯ ถือหุ้นอยู่ 60% ซึ่งการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนดังกล่าวจะสามารถช่วยเพิ่มศักยภาพการให้บริการทันตกรรมเชิงรุกกับผู้ประกันตน ผ่านความร่วมมือของบริษัทที่มีฐานผู้ป่วยประกันสังคมมากกว่า 1 ล้านราย รวมทั้งกลุ่มเดนทัล แฟคทอรี ซึ่งเป็นกลุ่มเครือข่ายทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านทันตกรรมทั่วไป และทันตกรรมเฉพาะทาง

โดยคาดว่าจะเริ่มให้บริการตั้งแต่ไตรมาส 3/2567 เป็นต้นไป ใน 5 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, นนทบุรี, ปทุมธานี, ระยอง และนครราชสีมา นอกจากนี้จะมีการขยายเครือข่ายการให้บริการเพิ่มเติมในอนาคต ทั้งนี้นอกจากการให้บริการผู้ป่วยในโครงการประกันสังคมแล้ว บริษัทฯ ยังให้บริการผู้ป่วยในโครงการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.), ประกันกลุ่ม และประกันสุขภาพเอกชน ซึ่งรองรับผู้ป่วยได้หลายกลุ่ม

อีกทั้งบริษัทฯ ยังมีโครงการรักษามะเร็ง โดยในช่วงที่ผ่านมาสำนักงานประกันสังคมได้มีการประกาศเพิ่มสิทธิประโยชน์สำหรับการรักษาผู้ประกันตนในโรคมะเร็ง ให้เข้าถึงการรักษาได้อย่างสะดวกและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ผ่านทางโรงพยาบาลรัฐและโรงพยาบาลเอกชน ซึ่งบริษัทฯ กำลังจะเปิดดำเนินการศูนย์มะเร็งรังสีรักษาในช่วงไตรมาส 3/2567 นอกจากนี้โรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอล ซึ่งเป็นโรงพยาบาลในเครือของบริษัทฯ ได้ทำการเปิดศูนย์ใหม่ “New Frontier Cancer Center” เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ผ่านเทคโนโลยีการบูรณาการรักษา อาทิ การรักษาแบบดั้งเดิม (การใช้รังสีรักษา) และการรักษาทางเลือกอื่นๆ

นอกจากนี้สำนักงานประกันสังคมยังได้มีการอนุมัติเบิกค่าใช้จ่าย ในการรักษาผู้ป่วยที่เป็นโรคหยุดหายใจขณะหลับ ซึ่งครอบคลุมค่ารักษา 6,000-7,000 บาท นอกเหนือจากนั้นหากผู้ป่วยจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ในการช่วยหายใจขณะหลับ ก็สามารถเบิกประกันสังคมได้อีกรายละ 20,000 บาท ซึ่งในปัจจุบันบริษัทฯ ได้มีการจัดตั้ง Sleep Lab ทั้งหมด 7 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอล, โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล รัตนาธิเบศร์, โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ บางแคร์, โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ สระบุรี, โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ประชาชื่น, โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ฉะเชิงเทรา และโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ รามคำแหง โดยที่ผ่านมามีผู้ป่วยเข้ารับการตรวจ Sleep Lab Test แล้ว 100 เคส และยังรอคิวตรวจอีกมากกว่า 300 เคส

ทั้งนี้ยังมีการปรับเพิ่มรายการตรวจสุขภาพให้มีความถี่เพิ่มมากขึ้น เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 2567 เป็นต้นไป เพื่อให้สอดคล้องกับปัจจัยด้านอายุ และความสำเร็จในการตรวจ เช่น การปรับให้ผู้ประกันตนที่มีอายุตั้งแต่ 35 ปีขึ้นไปได้รับการตรวจเลือด หรือไขมัน เป็นประจำทุกปี

2) ผลการดำเนินงานของ 3 โรงพยาบาลแห่งใหม่ ที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยผลประกอบการโรงพยาบาลแห่งใหม่ทั้ง 3 แห่งของบริษัทในไตรมาส 1/2567 ประกอบด้วย 1.โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล อรัญประเทศ มีรายได้รวม 49.40 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.90% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยบริษัทฯ ได้ดำเนินการประชาสัมพันธ์ศูนย์การแพทย์ของโรงพยาบาลให้เป็นที่รู้จักของประชาชนทั่วไปในจังหวัดสระแก้ว และผู้ป่วยต่างชาติ อาทิ กัมพูชา โดยในช่วงไตรมาส 1/2567 ได้มีการเปิดดำเนินการศูนย์ความงามเพื่อเป็นทางเลือกให้กับประชาชนในพื้นที่

2.โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ปราจีนบุรี มีรายได้อยู่ที่ 48.70 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.20% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยโรงพยาบาลแห่งนี้ยังคงมุ่งให้บริการเชิงรุกแก่ผู้รับบริการทั่วไป รวมถึงผู้รับบริการภายใต้โครงการประกันสังคม ซึ่งได้มีการเข้าไปตรวจสุขภาพเชิงรุกในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม และขยายเครือข่ายคู่สัญญากับบริษัทประกันผ่านการสร้างความสัมพันธ์กับตัวแทน ซึ่งได้มีการให้ความรู้ และจัดแพ็คเกจต่างๆ ทั้งผู้ป่วยที่มีประกันและไม่มีประกัน เช่น การจัดแพ็คเกจตรวจสุขภาพ ฉีดวัคซีน และมีการจัดห้องพักอำนวยความสะดวกอีกด้วย

3.โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล เวียงจันทร์ มีรายได้รวมอยู่ที่ 79.80 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37.00% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยโรงพยาบาลแห่งนี้ยังมุ่งเน้นการประชาสัมพันธ์ศูนย์การแพทย์เฉพาะทางที่อยู่ในเวียงจันทร์ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลเอกชนแห่งแรกและแห่งเดียวในเวียงจันทร์ นอกจากนี้ยังมีการขยายเครือข่ายคู่สัญญาระหว่างโรงพยาบาลและบริษัทประกัน รวมถึงการประชาสัมพันธ์โรงพยาบาลให้เป็นที่รู้จักผ่านช่องทางออนไลน์ ออฟไลน์ และการจัดสัมมนาเพื่อให้ความรู้ความเข้าใจด้านสุขภาพอย่างต่อเนื่อง

3) การปรับปรุงโรงพยาบาลและการขยายโรงพยาบาลแห่งใหม่บริษัทฯ ยังคงดำเนินการตามแผนการขยายโรงพยาบาล 5 แห่ง ในอีก 5 ปี ได้แก่ 1.คลินิกมะเร็งรังสีรักษา เกษมราษฎร์ อารีย์ โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการปรับปรุงโครงสร้างในอาคาร และติดตั้งเครื่องมือทางการแพทย์ ซึ่งจะพร้อมเปิดให้บริการในไตรมาส 3/2567 โดยคลินิกแห่งนี้จะเป็นศูนย์รับส่งต่อผู้ป่วยมะเร็งจากโรงพยาบาลในเครือที่ต้องการการรักษาด้วยรังสีรักษา และจะขยายเป็นศูนย์รับส่งต่อจากโรงพยาบาลแห่งอื่นๆ ได้ในอนาคต

2.โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ สุวรรณภูมิ จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งมีจำนวนเตียงจดทะเบียนจำนวน 268 เตียง โดยปัจจุบันบริษัทฯ ได้ยื่นขอรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) แล้ว ซึ่งคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ในปีนี้ และจะเปิดให้บริการในปี 2570

3.โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ระยอง ที่บริษัทฯ ได้ทำการประกาศซื้อที่ดินในช่วงไตรมาส 1/2567 ที่ผ่านมา โดยบริษัทฯ ได้ซื้อที่ดิน 30 ไร่ มูลค่า 180 ล้านบาท โดยบริษัทฯ มีแผนการก่อสร้างโรงพยาบาลแห่งนี้ในลักษณะมิกซ์ยูส (Mixed-Use) ขนาด 200-250 เตียง โดยมีงบลงทุนราว 1,500 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการออกแบบ โดยคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างในปี 69 และเปิดให้บริการในปี 2571 โดยจะรับทั้งผู้ป่วยทั่วไป และผู้ป่วยในโครงการประกันสังคม

ขณะที่การปรับปรุงโรงพยาบาลแห่งเดิม มีการดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปีที่ผ่านมา โดยในปีนี้โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ บางแคร์ มีการปรับปรุงพื้นที่ให้บริการผู้ป่วยใน รวมถึงการรีโนเวทภายนอกเรียบร้อยแล้ว โดยดำเนินการเสร็จสิ้นในช่วงเดือนเม.ย. ที่ผ่านมา อีกทั้งยังมีการรีโนเวทภายในเพิ่มเติม เช่น ห้องผ่าตัด ห้องแลป ศูนย์ไตเทียม และมีการปรับปรุงพื้นที่ OPD

สำหรับโรงพยาบาลบาลการุญเวช ปทุมธานี บริษัทฯ มีการปรับปรุงตึกทั้ง 3 ตึก โดยเป็นการปรับปรุงทั้ง OPD และ IPD เพื่อเพิ่มพื้นที่ให้บริการ รวมทั้งเพิ่มศูนย์การแพทย์เฉพาะทาง ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปีนี้ ส่วนโรงเกษมราษฎร์ แม่สาย มีการก่อสร้างอาคารแห่งใหม่จำนวน 3 ชั้น บริเวณด้านหน้าโรงพยาบาล

โดยมีงบประมาณอยู่ที่ 100-120 ล้านบาท เพื่อรองรับความต้องการของผู้ป่วยทั้งชาวไทย และชาวเมียนมาร์ ซึ่งอาคารแห่งใหม่มีพื้นที่ให้บริการผู้ป่วยทั่วไป ผู้ป่วยแผนกฉุกเฉิน ศูนย์กุมารเวช ศูนย์ทันตกรรม และห้องพักผู้ป่วยใน ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตการก่อสร้างเรียบร้อยแล้ว และคาดว่าจะใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างประมาณ 1 ปี

สำหรับเงินลงทุนในปีนี้บริษัทฯ คาดการณ์ว่าจะใช้เงินลงทุนราว 1,000 ล้านบาท โดยมีการปรับปรุงทั้งภายในและภายนอกโรงพยาบาล ซึ่งแหล่งเงินทุนส่วนหนึ่งมาจากกระแสเงินสดที่หมุนเวียนในบริษัทฯ และส่วนหนึ่งมาจากเงินกู้ธนาคารระยะสั้น

ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานช่วงที่เหลือของปีนี้ บริษัทฯ คาดว่าผลการดำเนินงานจะดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในช่วงไตรมาส 3-ไตรมาส 4 เนื่องจากเป็นช่วงที่เข้าสู่ฤดูฝน และเป็นช่วงที่มีการเบิกจ่ายเงินจากสำนักงานประกันสังคม โดยจะทำให้รายได้ของบริษัทฯ เติบโตได้ดีมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้โดยทั่วไปจำนวนผู้ประกันตนของบริษัทในเครือ จะปรับเพิ่มขึ้นประมาณ 1-2% ในทุกปี โดยในปีนี้บริษัทฯ ได้รับโควตาจำนวนผู้ประกันตนเพิ่มมากขึ้นจาก 1,542,000 ราย เป็น 1,857,000 ราย

โดยบริษัทฯ คาดว่าหลังจากบริษัทฯ ดำเนินการรีโนเวทโรงพยาบาลในเครือแล้วเสร็จตั้งแต่ต้นปีหน้าเป็นต้นไป จะเห็นจำนวนผู้ประกันตนเพิ่มมากขึ้น 1-2% ต่อปี นอกจากนั้นยังมีปัจจัยต่างๆ ที่จะเข้ามาสนับสนุนผลการดำเนินงานของบริษัทฯ อาทิ การเปิดศูนย์คลินิกมะเร็งรังสีรักษาในช่วงไตรมาส 3/2567 และโครงการอื่นๆ เป็นต้น

ในส่วนของกิจกรรมด้าน ESGบริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจพร้อมกับการคำนึงถึงประเด็นด้าน ESG อย่างสม่ำเสมอ โดยมีการจัดกิจกรรมต่อเนื่องในทุกด้าน อาทิ ด้านสิ่งแวดล้อม โดยบริษัทฯ ได้ดำเนินการติดตั้งโซลาร์เซลล์ และโซลาร์รูฟท็อป ในโรงพยาบาลอย่างต่อเนื่อง โดยมีแผนที่จะติดตั้งอีก 5 โรงพยาบาล สำหรับด้านสังคม บริษัทฯ มีการจัดกิจกรรมกับผู้ป่วย และพนักงาน เช่น การจัดกิจกิจกรรมให้ความรู้ด้านคุณแม่คุณภาพ การมอบทุนการศึกษาให้กับบุตรของพนักงาน ส่วนด้านเทคโนโลยี บริษัทฯ ได้นำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาให้บริการผู้ป่วย อาทิ การตรวจคัดกรองมะเร็งด้วยหุ่นยนต์ เป็นต้น

Company Snapshot

Back to top button