MCOT จับมือ Charge24 ลุยขยาย “สถานีชาร์จรถอีวี”
MCOT จับมือ Charge24 ลงนามบันทึกข้อตกลงพัฒนาเทคโนโลยีด้าน “EV Charging Platform” และ “อุปกรณ์อัดประจุไฟฟ้า” ต่อยอดการลงทุนในธุรกิจพลังงานสะอาด พร้อมเดินหน้าขยายเครือข่าย “สถานีชาร์จรถยนต์อีวี” ทั่วประเทศ
บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) หรือ
บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) หรือ MCOT เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือพัฒนาธุรกิจและเทคโนโลยีด้าน EV Charging Platform และอุปกรณ์อัดประจุไฟฟ้ากับ บริษัท ชาร์จทเวนตี้โฟร์ จำกัด (Charge24) โดยได้รับเกียรติจาก นายผาติยุทธ ใจสว่าง รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการใหญ่ MCOT และนางสาวนดาวัลย์ หอมสุวรรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Charge24 เป็นผู้ลงนาม
นายผาติยุทธ กล่าวว่า อสมท ประกาศวิสัยทัศน์ด้านความยั่งยืน สู่การเป็นองค์กรคุณภาพในธุรกิจสื่อที่จะใช้ศักยภาพขององค์กรในฐานะสื่อสารมวลชน ขับเคลื่อนธุรกิจเพื่อความยั่งยืน ตั้งเป้าหมายสำคัญใน 3 ด้าน คือ Environment, Social และ Governance โดยเริ่มดำเนินงานตามแผนขับเคลื่อนธุรกิจเพื่อความยั่งยืนในเป้าหมายแรก คือ การลดผลกระทบเชิงลบด้านสิ่งแวดล้อมจากการดำเนินธุรกิจ ด้วยการศึกษารูปแบบการลงทุนในธุรกิจใหม่ พร้อมกับการนำนวัตกรรมมาเสริมในกระบวนการทำงานเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยการติดตั้ง Solar Rooftop ใน 32 สถานีเครื่องส่งออกอากาศโทรทัศน์ ของ อสมท
นอกจากนี้ อสมท ยังเห็นถึงโอกาสทางธุรกิจจากแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย จากข้อมูลกรมการขนส่งทางบก และสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย โดยยอดการเติบโตของธุรกิจดังกล่าว ในปี 2566 เพิ่มขึ้นจาก ปี 2565 กว่า 78% ดังนั้นความต้องการพื้นฐานอย่าง EV Charger จึงมีความสำคัญ ซึ่งไม่ใช่แค่การเพิ่มจำนวนจุดให้บริการ แต่ต้องมีการสร้างระบบบริหารจัดการ EV Charging Platform ที่มีประสิทธิภาพด้วย
ดังนั้นความร่วมมือกับ ชาร์จทเวนตี้โฟร์ ผู้นำด้านการให้บริการสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการพัฒนาระบบเทคโนโลยีด้าน EV Charging Platform จึงเป็นอีกก้าวสำคัญในการพัฒนาธุรกิจร่วมกัน โดยอสมท มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจธุรกิจให้บริการสิ่งอำนวยความสะดวก และโครงข่ายกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ภาคพื้นดิน ในระบบดิจิทัล รวมทั้งพร้อมสนับสนุนสื่อเพื่อสร้างการรับรู้และส่งเสริมการให้บริการ EV Charging Solution ที่ทั้ง 2 องค์กรพัฒนาธุรกิจร่วมกัน
โดยมีเป้าหมายในการพัฒนา EV Charging Platform และอุปกรณ์อัดประจุไฟฟ้า เพื่อต่อยอดการลงทุนในกลุ่มธุรกิจพลังงานสะอาดร่วมกันในอนาคต ตลอดจนพัฒนาทักษะด้านเทคโนโลยี EV Charger ให้กับบุคลากรด้านวิศวกรรมของ อสมท เพื่อการบริการแก่ลูกค้าที่ใช้บริการบน Platform
นางสาวนดาวัลย์ หอมสุวรรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Charge24 กล่าวว่า Charge24 ผู้นำด้านการให้บริการสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าและแพลตฟอร์มการชาร์จที่มีประสิทธิภาพ มุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อรองรับการใช้งานของผู้ใช้ในยุคพลังงานสะอาด โดยปัจจุบัน Charge24 มีสถานีชาร์จในปริมณฑลจำนวน 4 แห่ง ที่เปิดตัวไปเมื่อช่วงกลางเดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมา และภายในปี 2567 มีแผนขยายสถานีชาร์จเพิ่มเติม ทั้งที่ลงทุนเองและร่วมกับพันธมิตรกว่า 100 แห่ง ซึ่งสถานีใหม่เหล่านี้จะตั้งอยู่ในสถานีบริการน้ำมันและพื้นที่ที่มีศักยภาพ โดยการทยอยเปิดสถานีใหม่ในเฟสแรกจะเริ่มจากภาคตะวันออก ภาคใต้ และกรุงเทพฯ
ทั้งนี้ จุดเด่นของ Charge24 มี Kiosk และแอปพลิเคชันที่ใช้งานง่าย ช่วยให้ผู้ใช้สามารถทำธุรกรรมและชำระเงินได้อย่างง่ายและรวดเร็ว ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้งานมีประสบการณ์ที่ดีในการใช้บริการสถานีชาร์จ ของ Charge24 โดยออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถชำระเงินและเริ่มการชาร์จได้ทันที โดยไม่ต้องสมัครสมาชิกหรือดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน รวมถึงให้ความสำคัญกับความปลอดภัย ในการติดตั้งสถานีชาร์จตามมาตรฐานและข้อกำหนดทางวิศวกรรม ของวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย (วสท.) เพื่อให้แน่ใจว่าในทุกสถานีชาร์จนั้นมีความปลอดภัยสูงสุดสำหรับผู้ใช้งาน
“ความร่วมมือระหว่าง Charge24 และ อสมท ครั้งนี้จึงเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของสถานีชาร์จ โดย อสมท ซึ่งเป็นองค์กรสื่อชั้นนำ และมีทีมวิศวกรที่มีความเชี่ยวชาญอยู่ในพื้นที่ศูนย์ปฏิบัติการทางวิศวกรรม กว่า 40 แห่งทั่วประเทศ จะช่วยสนับสนุนการการบริหารจัดการสถานีชาร์จได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพิ่มความมั่นใจในการขยายเครือข่ายสถานีชาร์จในทุกภูมิภาค” นางสาวนดาวัลย์ กล่าว
เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือพัฒนาธุรกิจและเทคโนโลยีด้าน EV Charging Platform และอุปกรณ์อัดประจุไฟฟ้ากับ บริษัท ชาร์จทเวนตี้โฟร์ จำกัด (Charge24) โดยได้รับเกียรติจาก นายผาติยุทธ ใจสว่าง รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการใหญ่ MCOT และนางสาวนดาวัลย์ หอมสุวรรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Charge24 เป็นผู้ลงนาม
นายผาติยุทธ กล่าวว่า อสมท ประกาศวิสัยทัศน์ด้านความยั่งยืน สู่การเป็นองค์กรคุณภาพในธุรกิจสื่อที่จะใช้ศักยภาพขององค์กรในฐานะสื่อสารมวลชน ขับเคลื่อนธุรกิจเพื่อความยั่งยืน ตั้งเป้าหมายสำคัญใน 3 ด้าน คือ Environment, Social และ Governance โดยเริ่มดำเนินงานตามแผนขับเคลื่อนธุรกิจเพื่อความยั่งยืนในเป้าหมายแรก คือ การลดผลกระทบเชิงลบด้านสิ่งแวดล้อมจากการดำเนินธุรกิจ ด้วยการศึกษารูปแบบการลงทุนในธุรกิจใหม่ พร้อมกับการนำนวัตกรรมมาเสริมในกระบวนการทำงานเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยการติดตั้ง Solar Rooftop ใน 32 สถานีเครื่องส่งออกอากาศโทรทัศน์ ของ อสมท
นอกจากนี้ อสมท ยังเห็นถึงโอกาสทางธุรกิจจากแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย จากข้อมูลกรมการขนส่งทางบก และสมาคมยานยนต์ไฟฟ้าไทย โดยยอดการเติบโตของธุรกิจดังกล่าว ในปี 2566 เพิ่มขึ้นจาก ปี 2565 กว่า 78% ดังนั้นความต้องการพื้นฐานอย่าง EV Charger จึงมีความสำคัญ ซึ่งไม่ใช่แค่การเพิ่มจำนวนจุดให้บริการ แต่ต้องมีการสร้างระบบบริหารจัดการ EV Charging Platform ที่มีประสิทธิภาพด้วย
ดังนั้นความร่วมมือกับ ชาร์จทเวนตี้โฟร์ ผู้นำด้านการให้บริการสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการพัฒนาระบบเทคโนโลยีด้าน EV Charging Platform จึงเป็นอีกก้าวสำคัญในการพัฒนาธุรกิจร่วมกัน โดยอสมท มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจธุรกิจให้บริการสิ่งอำนวยความสะดวก และโครงข่ายกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ภาคพื้นดิน ในระบบดิจิทัล รวมทั้งพร้อมสนับสนุนสื่อเพื่อสร้างการรับรู้และส่งเสริมการให้บริการ EV Charging Solution ที่ทั้ง 2 องค์กรพัฒนาธุรกิจร่วมกัน
โดยมีเป้าหมายในการพัฒนา EV Charging Platform และอุปกรณ์อัดประจุไฟฟ้า เพื่อต่อยอดการลงทุนในกลุ่มธุรกิจพลังงานสะอาดร่วมกันในอนาคต ตลอดจนพัฒนาทักษะด้านเทคโนโลยี EV Charger ให้กับบุคลากรด้านวิศวกรรมของ อสมท เพื่อการบริการแก่ลูกค้าที่ใช้บริการบน Platform
นางสาวนดาวัลย์ หอมสุวรรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Charge24 กล่าวว่า Charge24 ผู้นำด้านการให้บริการสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าและแพลตฟอร์มการชาร์จที่มีประสิทธิภาพ มุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อรองรับการใช้งานของผู้ใช้ในยุคพลังงานสะอาด โดยปัจจุบัน Charge24 มีสถานีชาร์จในปริมณฑลจำนวน 4 แห่ง ที่เปิดตัวไปเมื่อช่วงกลางเดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมา และภายในปี 2567 มีแผนขยายสถานีชาร์จเพิ่มเติม ทั้งที่ลงทุนเองและร่วมกับพันธมิตรกว่า 100 แห่ง ซึ่งสถานีใหม่เหล่านี้จะตั้งอยู่ในสถานีบริการน้ำมันและพื้นที่ที่มีศักยภาพ โดยการทยอยเปิดสถานีใหม่ในเฟสแรกจะเริ่มจากภาคตะวันออก ภาคใต้ และกรุงเทพฯ
ทั้งนี้ จุดเด่นของ Charge24 มี Kiosk และแอปพลิเคชันที่ใช้งานง่าย ช่วยให้ผู้ใช้สามารถทำธุรกรรมและชำระเงินได้อย่างง่ายและรวดเร็ว ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้งานมีประสบการณ์ที่ดีในการใช้บริการสถานีชาร์จ ของ Charge24 โดยออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถชำระเงินและเริ่มการชาร์จได้ทันที โดยไม่ต้องสมัครสมาชิกหรือดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน รวมถึงให้ความสำคัญกับความปลอดภัย ในการติดตั้งสถานีชาร์จตามมาตรฐานและข้อกำหนดทางวิศวกรรม ของวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย (วสท.) เพื่อให้แน่ใจว่าในทุกสถานีชาร์จนั้นมีความปลอดภัยสูงสุดสำหรับผู้ใช้งาน
“ความร่วมมือระหว่าง Charge24 และ อสมท ครั้งนี้จึงเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของสถานีชาร์จ โดย อสมท ซึ่งเป็นองค์กรสื่อชั้นนำ และมีทีมวิศวกรที่มีความเชี่ยวชาญอยู่ในพื้นที่ศูนย์ปฏิบัติการทางวิศวกรรม กว่า 40 แห่งทั่วประเทศ จะช่วยสนับสนุนการการบริหารจัดการสถานีชาร์จได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพิ่มความมั่นใจในการขยายเครือข่ายสถานีชาร์จในทุกภูมิภาค” นางสาวนดาวัลย์ กล่าว