“สหรัฐฯ” คว่ำบาตร “3 ชาวจีน-3 บ.ไทย” ใช้บ็อตเน็ต 911 S5 ฉ้อโกงไซเบอร์
“กระทรวงการคลังสหรัฐ” คว่ำบาตร 3 ชาวจีน และ 3 บริษัทในไทย หลังใช้บ็อตเน็ต 911 S5 ก่ออาชญากรรมไซเบอร์ ทำให้รัฐบาลสหรัฐสูญเงินหลายพันล้านดอลลาร์ ก่อนผุดซื้ออสังหาหาริมทรัพย์หรูในไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (28 พ.ค. 67) กระทรวงการคลังสหรัฐอเมริกา ออกแถลงการณ์ระบุว่า สำนักงานควบคุมทรัพย์สินต่างประเทศ (OFAC) หน่วยงานภายใต้กระทรวงการคลังสหรัฐ ได้ดำเนินมาตรการคว่ำบาตรบุคคล 3 ราย ซึ่งทั้งหมดถือสัญชาติจีน อันประกอบด้วย หวัง หยุนเหอ, หลิว จิงผิง และเจิ้ง ยานนี จากการดำเนินกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการใช้อุปกรณ์ที่ติดมัลแวร์ หรือบ็อตเน็ต (Botnet) ที่เป็นอันตราย ซึ่งเกี่ยวข้องกับการให้บริการพร็อกซีที่อยู่อาศัย (เครื่องมือสำหรับปกปิดที่อยู่ IP) ที่เรียกว่า 911 S5 ในการก่ออาชญากรรมทางไซเบอร์ ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับรัฐบาลสหรัฐเป็นมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
นอกจากนี้ OFAC ยังได้คว่ำบาตรนิติบุคคล 3 แห่ง อันได้แก่ บริษัท สไปซี โคด คัมพานี จำกัด, บริษัททิวลิป บิซ พัทยา กรุ๊ป คัมพานี จำกัด และบริษัท ลิลี สวีทส์ คัมพานี ซึ่งทั้งหมดตั้งอยู่ในประเทศไทย โดยมีหวัง หยุนเหอ เป็นเจ้าของหรือควบคุมการดำเนินงานของบริษัททั้ง 3 แห่งดังกล่าว
ขณะที่นายไบรอัน อี.เนลสัน รองปลัดกระทรวงการคลังสหรัฐ กล่าวว่า บุคคลเหล่านี้ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีบ็อตเน็ตที่เป็นอันตรายในการโจมตีอุปกรณ์ส่วนบุคคล ทำให้อาชญากรทางไซเบอร์ได้รับความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจ และยังใช้เทคโนโลยีบ็อตเน็ตนี้ไปในการคุกคามพลเมืองสหรัฐด้วยการขู่วางระเบิด ซึ่งกระทรวงการคลังสหรัฐ ที่ได้ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับเพื่อนร่วมงานในการบังคับใช้กฎหมายและพันธมิตรระหว่างประเทศ จะดำเนินการต่อไปเพื่อขัดขวางอาชญากรทางไซเบอร์และผู้กระทำผิดกฎหมายอื่นๆ ที่พยายามจะลอบขโมยจากผู้เสียภาษีสหรัฐฯ
ทั้งนี้ บ็อตเน็ต 911 S5 เป็นบริการที่เป็นอันตรายซึ่งเจาะระบบคอมพิวเตอร์ของเหยื่อและอนุญาตให้อาชญากรไซเบอร์อาศัยการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตผ่านคอมพิวเตอร์ที่ถูกบุกรุกได้ เมื่ออาชญากรทางไซเบอร์ปลอมแปลงเส้นทางดิจิทัลผ่านบ็อตเน็ต 911 S5 การก่ออาชญากรรมทางไซเบอร์เหล่านั้นดูเหมือนจะย้อนกลับไปที่คอมพิวเตอร์ของเหยื่อแทนที่จะเป็นของตัวเอง
โดยบ็อตเน็ต 911 S5 ได้บุกรุก IP ประมาณ 19 ล้าน IP และอำนวยความสะดวกในการส่งแอพพลิเคชั่นฉ้อโกงนับหมื่นที่เกี่ยวข้องกับโครงการ Coronaid Aid, Relief และโครงการต่างๆ ภายใต้รัฐบัญญัติความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับรัฐบาลสหรัฐเป็นมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์
นอกจากนี้ การบริการของ 911 S5 ยังทำให้ผู้ใช้งานสามารถกระทำการฉ้อโกงทางไซเบอร์ในวงกว้าง โดยการใช้คอมพิวเตอร์ของเหยื่อที่ถูกบุกรุกซึ่งเชื่อมโยงกับ IP ที่อยู่อาศัย ซึ่ง IP ที่ถูก 911 S5 บุกรุกยังมีความเชื่อมโยงกับการเหตุขู่วางระเบิดต่อเนื่องที่เกิดขึ้นทั่วสหรัฐในเดือนกรกฎาคมปี 2565 ด้วย
กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ระบุเพิ่มว่า หวัง หยุนเหอ เป็นผู้ดูแลระบบหลักของการบริการ 911 S5 ส่วน หลิว จิงผิง เป็นผู้สมคบคิดกับหวัง หยุนเหอ ในการฟอกเงินจากกระบวนการที่ผิดกฎหมายที่เกิดจากการใช้ 911 S5 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสกุลเงินเสมือน ด้าน นายเจิ้ง ยานนี ทำหน้าที่เป็นทนายที่ได้รับมอบอำนาจจากหวัง หยุนเหอ และบริษัท สไปซี โคด ของนายหวัง
นอกจากนี้ นายเจิ้งยังมีส่วนร่วมในการทำธุรกรรมทางธุรกิจมากมาย การชำระเงินและการซื้ออสังหาริมทรัพย์ในนามของนายหวัง หยุนเหอ ที่รวมถึงการซื้อคอนโดมิเนียมหรูริมหาดในไทย
ขณะที่บริษัท สไปซี โคด ถูกนายหวังใช้ในการซื้ออสังหาริมทรัพย์ ส่วนบริษัททิวลิป บิซ พัทยา กรุ๊ป และบริษัท ลิลี สวีทส์ คัมพานี เป็นอีก 2 บริษัทในไทยที่นายหวังเข้าซื้อเอาไว้เพื่อใช้ในดำเนินงานหรือควบคุมดำเนินการไม่ว่าในทางตรงหรือทางอ้อม
ทั้งนี้ หลังจากการกระทำที่เกี่ยวข้องกับการก่ออาชญากรรมทางไซเบอร์ดังกล่าว ส่งผลให้ทางการสหรัฐดำเนินการอายัดทรัพย์สินและผลประโยชน์ในทรัพย์สินของบุคคลและบริษัทที่ถูกระบุนี้ทั้งหมดที่มีอยู่ในสหรัฐอเมริกาหรืออยู่ในความครอบครองหรือควบคุมของบุคคลในสหรัฐและให้มีการรายงานต่อ OFAC ต่อไป