CFARM ปิดจ๊อบขาย IPO เกลี้ยง 149 ล้านหุ้น จ่อเทรด mai 6 มิ.ย.นี้
CFARM ปลื้มปิดจองหุ้นไอพีโอหมดเกลี้ยง 149 ล้านหุ้น ลุยก่อสร้างฟาร์ม-ปรับปรุงโรงเรือนหวังเพิ่มกำลังผลิต เดินหน้าเข้าเทรดตลาดหลักทรัพย์ฯ mai วันที่ 6 มิ.ย.67
นางสาวออมสิน ศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จํากัด (มหาชน) หรือ BYD ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนร่วมของ บริษัท ชูวิทย์ฟาร์ม (2019) จำกัด (มหาชน) หรือ CFARM เปิดเผยว่า หลังจากเปิดขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 149 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 1.35 บาท ระหว่างวันที่ 27 – 29 พฤษภาคม 2567
โดยได้รับความสนใจจากนักลงทุนซื้อหุ้นจำนวนมาก ภายหลังนำเสนอข้อมูล (Roadshow) ให้นักลงทุน เนื่องจากมั่นใจในพื้นฐานของบริษัทฯ ที่มีศักยภาพการเติบโตสูง จาก CFARM ที่ประกอบธุรกิจฟาร์มปศุสัตว์ ประเภทฟาร์มเลี้ยงไก่เนื้อให้กับคู่สัญญาในรูปแบบเกษตรพันธสัญญาแบบประกันราคา โดยบริษัทจะเป็นผู้ลงทุนก่อสร้างและปรับปรุงโรงเรือน รวมทั้งอุปกรณ์การเลี้ยงตามมาตรฐานของกรมปศุสัตว์ เพื่อให้ได้ไก่เนื้อเป็นไปตามที่คู่สัญญากำหนด จึงทำให้มีความเสี่ยงต่ำ
ขณะที่ นายธีรศักดิ์ ทวีปิยมาภรณ์ กรรมการผู้จัดการฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ UOB ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนร่วมกล่าวว่า CFARM ได้รับความสนใจจากนักลงทุนในการเข้าซื้อขายในตลาด mai เนื่องจากราคาเสนอขายมีความเหมาะสมเมื่อพิจารณาถึงศักยภาพการดำเนินงานของบริษัท ฐานะการเงินแข็งแกร่ง และสภาพคล่องทางการเงินที่ดี
ทั้งนี้ การกำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทที่เสนอขายในครั้งนี้พิจารณาจากอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (Price to Earnings Ratio : P/E) ซึ่งมีส่วนลดจากบริษัทที่ประกอบธุรกิจที่ใกล้เคียงกับการประกอบธุรกิจของบริษัท โดยมีราคาหุ้นที่เสนอขายหุ้นละ 1.35 บาท ในขณะที่มูลค่าที่ตราไว้ต่อหุ้น (Par Value) 1 บาท ซึ่ง CFARM เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) หมวดธุรกิจเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร (AGRO) โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “CFARM”
ด้าน นายชูรัตน์ จึงธนสมบูรณ์ กรรมการผู้จัดการ CFARM กล่าวว่า การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai ครั้งนี้ นับเป็นก้าวสำคัญในการขยายธุรกิจ เพื่อเพิ่มโอกาสการเติบโตในอนาคตและการระดมทุนในครั้งนี้ยังเปิดโอกาสให้นักลงทุนและประชาชนทั่วไปได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการต่อยอดความสำเร็จของ CFARM
โดยภายหลังจากการระดมทุนบริษัทมีแผนลงทุน ดังนี้ 1.เพื่อก่อสร้างฟาร์ม ปรับปรุงโรงเรือน อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจฟาร์มปศุสัตว์ โดยภายในปี 69 โดยบริษัทมีแผนเพิ่มจำนวนโรงเรือนในการเลี้ยง ปรับปรุงระบบงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนการผลิต รวมทั้งมีแผนลงทุนระบบพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อลดต้นทุนการผลิตพร้อมสร้างมูลค่าเพิ่มอย่างยั่งยืน 2.เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ และ 3.คืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินบางส่วน
นอกจากนี้ นายสมศักดิ์ ศิริชัยนฤมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ APM ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน CFARM กล่าวเสริมว่า หลังจาก CFARM เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai เชื่อว่าจะทำให้บริษัทฯ มีความพร้อมในการยกระดับอุตสาหกรรมไก่เนื้อที่ในปัจจุบันมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดและความต้องการบริโภคเนื้อไก่มีแนวโน้มเติบโตตามกิจกรรมทางเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งประกอบกับ CFARM มีการบริหารจัดการฟาร์มที่ได้มาตรฐาน รวมถึงมีการควบคุมเฝ้าระวังโรคระบาดได้ดีจะทำให้ CFARM มีความแข็งแกร่ง และสร้างโอกาสในการเติบโตในอนาคตต่อไป