ITTHI ส่งซิก Q2 โตต่อ ลุยออกสินค้าใหม่-คว้างานรัฐเพิ่ม ตุนแบ็กล็อก 260 ล้านบาท

นายธนเสฏฐ์ อัครบุญญาพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อิทธิฤทธิ์ ไนซ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ITTHI เปิดเผยข้อมูลภาพรวมธุรกิจของบริษัทผ่านงาน Opportunity Day จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ในวันที่ 31 พ.ค.67 ว่าช่วงไตรมาส 1/2567 บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 8.88 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 120.57% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 4.03 ล้านบาท ขณะที่มีรายได้จากการขายและบริการอยู่ที่ 158 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 202.7% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมีรายได้ 52.2 ล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากรายได้จากธุรกิจจัดจำหน่ายอุปกรณ์ไฟฟ้าส่องสว่าง

ส่วนแนวโน้มผลงานไตรมาส 2/2567 ยังคงรักษาการเติบโตอย่างต่อเนื่อง มั่นใจว่าเติบโตต่อเนื่องเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยสัดส่วนกลุ่มลูกค้าภาครัฐอยู่ที่ 60-70%

ขณะที่ปัจจุบันบริษัทมีงานในมือ (Backlog) ราว 260 ล้านบาท แบ่งเป็นกลุ่มลูกค้าโครงการภาครัฐ โดยครอบคลุมไปยังทั่วประเทศไทย นอกจากนี้เตรียมรับรู้รายได้งานในมือมูลค่ารวมมากกว่า 280 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเข้าประกวดราคา โดยเป็นกลุ่มลูกค้าโครงการภาครัฐเช่นเดียวกัน และกลุ่มลูกค้างานโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์มูลค่ารวมมากกว่า 200 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่อยู่ในบริษัทจดทะเบียนตลาดหลักทรัพย์

สำหรับแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจในปี 2567 บริษัทจะสร้างอัตราการเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยเฉพาะสินค้าอุปกรณ์โคมไฟถนน โคมไฟโซลาร์เซลล์ที่ได้งานค่อนข้างเยอะ โดยขยายสินค้าไปยังกลุ่มลูกค้าโครงการภาครัฐเพิ่มเติม อย่างภาคเหนือ, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ, ภาคกลาง และภาคใต้ เพื่อให้สามารถรักษาการเติบโตเหมือนปีที่ผ่านมา

รวมถึงเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในธุรกิจอุปกรณ์ไฟส่องสว่าง โดยการจัดหาสินค้าใหม่เพิ่มเติม เพื่อมาจำหน่ายให้กับกลุ่มลูกค้าเดิม อีกทั้งมีเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนการตลาดในธุรกิจ โดยบริษัทจะพัฒนาหาสินค้าที่มีคุณภาพ มีราคาที่เหมาะสมตามความต้องการของลูกค้า ส่งผลให้มีการเติบโตมากขึ้นอย่างแข็งแกร่ง

นอกจากนี้บริษัทมีแผนกลยุทธ์การเติบโตในการขยายจำหน่ายกลุ่มสินค้านวัตกรรมเพิ่มเติม โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าโครงการภาครัฐ ครอบคลุมไปยังทั่วประเทศ โดยจะมีการลงทุนสินค้านวัตกรรมเพิ่มขึ้น ได้แก่ โคมไฟ โซลาร์เซลล์ พลังงาน รวมถึงยังมองไปยังสินค้ากลุ่มน้ำ ขยะ ที่จะทำให้บริษัทมีการรับรู้รายได้เข้ามาต่อเนื่อง และยังมีการเพิ่ม SKU ประเภทของสินค้าในการนำเสนอขาย และเสริมศักยภาพในการดูแลและบริการให้กับกลุ่มลูกค้า รวมถึงให้ความสำคัญกับมาตรฐานและคุณภาพของสินค้า