YGG ลุยเพิ่มพันธมิตร-รุกตลาดต่างประเทศ ดันใช้ AI ยกระดับผลิตงานลูกค้า

นายธนัช จุวิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อิ๊กดราซิล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ YGG เปิดเผยว่า จากแผนธุรกิจของบริษัทในปี 67 ได้รุกในทุกส่วนงานทั้ง เกม คอมพิวเตอร์กราฟฟิก และภาพยนตร์แอนิเมชั่น โดยการขยายฐานลูกค้าและหาพันธมิตรใหม่ ๆ ทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้บริษัท และนำไปสู่ความร่วมมือในการผลิตผลงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ

โดยล่าสุด YGG ได้เข้าร่วมงานในเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ 2024 (Village International Cannes Film Festival 2024) ซึ่งการแสดงผลงานของYGG ได้รับกระแสตอบรับที่ดี และยังได้พบปะแลกเปลี่ยนข้อมูล แบ่งปันความรู้ ประสบการณ์  กับพันธมิตรผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ทำให้ได้พัฒนาข้อมูลในแนวทางรูปแบบใหม่ๆ เพื่อนำมาใช้ต่อยอดทางธุรกิจ และภายในงานยังมีโอกาสได้เจรจาทางธุรกิจกับคู่ค้าและพันธมิตรจากนานาประเทศทั่วโลก

“อุตสาหกรรมเอนเตอร์เทนเม้นท์ ได้มีการพัฒนานำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI เข้ามายกระดับการผลิตผลงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งในการสร้างสรรค์และปรับปรุงคุณภาพของภาพยนตร์และแอนิเมชั่น และยังนำ AI มาใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลของผู้ชม เพื่อให้การผลิตผลงานออกมาตอบโจทย์กับความต้องการของตลาด การนำทางเทคโนโลยี AI มาประยุกต์ใช้ เป็นอีกกุญแจสำคัญที่สามารถก้าวข้ามขีดจำกัดและเข้าสู่ยุคใหม่ของการสร้างสรรค์ผลงาน” นายธนัช กล่าว

นอกจากนี้ นายธนัช ยังได้กล่าวว่า ล่าสุดได้เดินทางไปหารือกับพันธมิตรในจีน ซึ่งอุตสาหกรรมเอนเตอร์เทนเม้นท์ประเทศจีนเป็นตลาดใหญ่  กำลังได้รับความสนใจ และเป็นตลาดที่มีโอกาสการเติบโตสูงมาก โดยเฉพาะงานด้านแอนิเมชั่น ซึ่ง YGG ได้เตรียมความพร้อมการหาพันธมิตร เพื่อร่วมงานทั้งด้านบริการและการร่วมผลิตในต่อยอดทางธุรกิจและขยายเข้าสู่ตลาดจีนได้อย่างสมบูรณ์แบบ และ YGG ยังได้มีโอกาสพบบริษัทที่นำผลงานเข้าสู่ตลาดขนาดใหญ่ในจีน เช่น WANDA และ ALIBABA

“ตลาดจีนเป็นตลาดใหญ่ไม่แพ้ฝั่งอเมริกา ที่เมืองหางโจว กับหนิงโบ เป็นอีกเมืองแห่งเศรษฐกิจที่ใหญ่ไม่แพ้เขตอื่นๆ และได้รับการผลักดันงานด้านเอนเตอร์เทนเม้นท์อย่างเต็มที่ จะเป็นอีกก้าวสำคัญของ YGG และหากได้การสนับสนุนจากพันธมิตรในต่างประเทศ รวมถึงการนำเทคโนโลยี AI มาใช้พัฒนา จะเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยผลักดันบริษัทให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด” นายธนัช กล่าว

นายธนัช ยังได้กล่าวถึง ความคืบหน้าในกระบวนการจัดจำหน่าย ของภาพยนตร์ Home Sweet Home Rebirth  โดยอยู่ระหว่างเจรากับผู้ซื้อรายใหญ่จากอเมริกา ที่สนใจภาพยนตร์มาตั้งแต่เริ่มเขียนบท คาดว่าจะสามารถสรุปข้อตกลงได้ในเร็วๆ นี้

โดยบริษัทมั่นใจถึงกระแสการตอบรับของภาพยนตร์  Home Sweet Home Rebirth  เพราะจากภาพรวมของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ที่ดัดแปลงมาจากเกม ในปัจจุบันมีแนวโน้มที่กำลังมาแรงและได้รับความนิยมอย่างมาก จากข้อมูลล่าสุด ภาพยนตร์ที่ดัดแปลงมาจากเกมทำรายได้ Box Office อย่างมหาศาล เช่น ภาพยนตร์ Five Night At Freddy’s ที่ทำรายได้กว่า 290 ล้านเหรียญสหรัฐ ภาพยนตร์ Sonic the Hedgehog ทำรายได้กว่า 320 ล้านเหรียญสหรัฐ และภาพยนตร์ Detective Pikachu ทำรายได้กว่า 430 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเป็นการยืนยันถึงความสนใจและการตอบรับที่ดีจากผู้ชม

“ภาพยนตร์ที่ดัดแปลงมาจากเกมมีฐานแฟนคลับที่แข็งแกร่งและมั่นคง สามารถช่วยกระตุ้นยอด ขายตั๋วและการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ  การที่ Home Sweet Home Rebirth ได้รับความสนใจตั้งแต่ขั้นตอนการเขียนบทจนถึงปัจจุบัน ทำให้เรามั่นใจว่าภาพยนตร์นี้จะสามารถสร้างรายได้และประสบความสำเร็จใน Box Office ได้อย่างแน่นอน” นายธนัช กล่าว