A5 ยื่นไฟลิ่งออกหุ้นกู้ 500 ล้านบาท ชูดอกเบี้ย 7% ลุยขายกองทุน-รายใหญ่ 9-11 ก.ค.67
A5 ออกหุ้นกู้ 500 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 7% จ่ายทุก 3 เดือน จำหน่ายให้แก่ผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่ 9-11 ก.ค.67 นำเงินเพื่อใช้เป็นเงินลงทุนในโครงการในอนาคต หนุนการเติบโตรายได้ตามเป้า 5,000 ล้านบาท ภายในปี 69
นายศุภโชค ปัญจทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท ไฟว์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ A5 เปิดเผยว่า บริษัทได้ยื่นแบบแสดงรายการต่อ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อออกและเสนอขายหุ้นกู้ “AFIVE” ครั้งที่ 1/2567 ครบกำหนดไถ่ถอนปี พ.ศ. 2569 ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน มีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ และผู้ออกหุ้นกู้มีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ก่อนครบกำหนดไถ่ถอน อายุ 1 ปี 9 เดือน อัตราดอกเบี้ย 7% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน ตลอดอายุหุ้นกู้ มูลค่าหุ้นกู้รวมไม่เกิน 500 ล้านบาท โดยจะจัดจำหน่ายให้แก่ผู้ลงทุนสถาบัน และผู้ลงทุนรายใหญ่
สำหรับการออกหุ้นกู้ในครั้งนี้ วัตถุประสงค์เพื่อนำไปชำระคืนหุ้นกู้ชุดเดิมที่กำลังจะครบกำหนด และเป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท ทั้งนี้ บริษัทยื่นแบบแสดงรายการต่อ ก.ล.ต. เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2567 โดยขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการขออนุมัติจาก ก.ล.ต. คาดว่าจะกำหนดวันเสนอขายในช่วงระหว่างวันที่ 9-11 กรกฎาคม 2567 จองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท และ ทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท โดยมี บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด เป็นผู้จัดการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ และผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้
นายศุภโชค กล่าวต่อว่า ท่ามกลางการแข่งขันของตลาดอสังหาฯ ที่ดุเดือด ภายใต้สภาพเศรษฐกิจที่ยังไม่ได้ฟื้นฟูกลับมาเหมือนช่วงก่อนหน้านี้ แต่บริษัทยังคงได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้า Real Demand ที่เข้ามาเยี่ยมชมโครงการที่พัฒนาอยู่อย่างต่อเนื่อง เสริมไปกับแผนพัฒนาโครงการในอนาคตของบริษัทที่เตรียมเปิดดำเนินการช่วงปี ภายในปี 2567-2568 จำนวน 5 โครงการ บนทำเลศักยภาพ กรุงเทพฯ โซนตะวันออกและตะวันตก
โดยเจาะกลุ่มลูกค้า Real Demand มูลค่ารวม 8,200 ล้านบาท แบ่งเป็นปี 2567 จะเปิดโครงการใหม่จำนวน 2 โครงการ มูลค่ารวม 3,350 ล้านบาทและ ปี 2568 เตรียมแผนพัฒนาโครงการแนวราบเพิ่มเติม จำนวน 3 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 4,850 ล้านบาท สำหรับการออกหุ้นกู้ในครั้งนี้ จะเข้ามาช่วยเสริมความแข็งแกร่งด้านการเงิน สร้างการเติบโตของรายได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ 5,000 ล้านบาทภายใน ปี 2569