“จักรพงษ์” ขอผู้ถือหุ้นกู้เลือก JKN ทำแผนฟื้นฟู มั่นใจได้เงินคืน 100% ภายใน 5 ปี
“จักรพงษ์” ย้ำผู้ถือหุ้นกู้โหวตเลือก JKN บริหารแผนได้เงินคืน 100% พร้อมดอกเบี้ยภายใน 5 ปี คาดเริ่มจ่ายก้อนแรกภายในไตรมาส 2/68 ชูแผนดึงที่ปรึกษาการเงินระดับแนวหน้า พร้อมทีมตรวจสอบ BIG 4 ระดับโลก เพื่อความความโปร่งใส
ผู้สื่อข่าวรายงานวันนี้ (10 มิ.ย. 67) บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จํากัด (มหาชน) หรือ JKN ได้จัดประชุมผู้ถือหุ้นกู้ JKN ครั้งที่ 3 ผ่านระบบออนไลน์ เพื่อชี้แจงแนวทางการขอเป็นผู้จัดทำแผนฟื้นฟูกิจการ โดยนายจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการ ผู้มีอำนาจรายงานสารสนเทศ หรือ JKN เปิดเผยว่า การทำแผนฟื้นฟูกิจการหากผู้ถือหุ้นเลือก JKN เป็นผู้แผน บริษัทยืนยันว่า ผู้ถือหุ้นกู้จะได้รับการชำระหนี้เต็มจำนวน 100% เนื่องจากส่วนตัวมีความมั่นใจจากประสบการณ์ทำธุรกิจตลอด 25 ปีที่ผ่านมา และเป็นผู้ก่อตั้งบริษัท จึงมีความเข้าใจในธุรกิจของบริษัท ขณะที่อีกฝั่งจะหากเข้ามาทำแผน ก็จะเน้นขายธุรกิจทิ้งอย่างเดียว แน่นอนเงินที่เจ้าหนี้จะได้รับอาจเป็นเงินไม่กี่ร้อยล้าน แม้ผู้ถือหุ้นกู้จะได้เงินคืนแต่ไม่ครบตามจำนวนอย่างแน่นอน
“ดังนั้นถ้าเลือกอีกฝั่งซึ่งไม่ใช่ JKN และไม่ได้ทำธุรกิจร่วมกับเรามาตลอด 25 ปี ก็อาจจะไม่ทราบและเข้าใจธุรกิจ และจากประสบการณ์ของอีกฝั่งที่เข้ามาส่วนใหญ่มาขายกิจการทิ้ง เพราะมันง่ายดีสำหรับการคืนหนี้ แต่การคืนไม่ได้เงินครบ 100% แน่นอน ฉะนั้นธุรกิจนี้เป็นธุรกิจจำเพาะและเป็นธุรกิจยูนิคเป็นธุรกิจกลุ่มคนเดียวที่สามารถทำงานได้คือตัว JKN ฉะนั้นถ้าเลือกท่านได้เงินคืนครบถ้าเลือกอีกฝั่งท่านได้เงินไม่ครบ
คำถามจะไว้ใจได้ยังไงเราทำงานภายใต้กระบวนการยุติธรรม และมีการ รายงานตลอดเวลา และมีทีมที่ปรึกษาทางการเงินระดับโลกข้ามาช่วยทำงาน และทุกเดือนมาเจอกัน 2-3 วัน เพื่อมารายงาน ให้ทุกท่านทราบและครั้งเราต้องการสร้างความยั่งยืน ไม่ใช่แค่มาคืนเงินทุกท่าน อย่าเข้าใจผิดให้ใครมาทำก็ได้ เรามีธรรมภบาลเอาผู้ถือหุ้น แต่อีกฝั่งเอาแค่ตัวเขาเอาตัวรอด เอาส่วนที่เขาจะได้ไปก่อน เขาตอบท่านหรือยังคืนเงินท่านได้ 100%” นายจักรพงษ์กล่าวเพิ่มเติม
สำหรับกลยุทธ์ในการบริหารรายรับบริษัทวางไว้ด้วยกลยุทธ์ 3C ประกอบด้วย CONTENT,COMMERCE และ CONTEST จากประสบการณ์ดำเนินธุรกิจมา 25 ปี อีกทั้งมีเงินลงทุนขนาดใหญ่ของพันธมิตรทางธุรกิจจาก บริษัท เลกาซี่ โฮลดิ้ง กรุ๊ป (เม็กซิโก) จำกัด โดย คุณราล โรชา ลงทุนตรงมาที่บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด(มหาชน) ประเทศไทยจำนวน 50 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 1,750 ล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการตามขั้นตอนและกระบวนการทางกฎหมายที่คู่สัญญาตกลงระหว่างกัน โดยย้ำพร้อมใส่เงินหากบริษัทได้เป็นผู้บริหารแผนเนื่องจากมีความไว้ใจในทีมงานบริษัท JKN
นอกจากนี้ยังมีพันธมิตรเสริมทัพที่แข็งแกร่งพร้อมผู้นำที่ยืนหยัด โดยมี CONNECTION ยักษ์ใหญ่ระดับโลก LHG ถือเป็นพันมิตรกลยุทธ์ระดับโลกที่สำคัญสามารกนำประสบการณ์และความเชี่ยวชาญมาร่วมกันขันเคลื่อนธุรกิจในการต่อยอดแบรนด์ MISS UNIVERSE ไปสู่ผลิตภัณฑ์และบริการระดับพรีเมียมได้เป็นอย่างดี
โดย LHG มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการดำเนินธุรกิจหลากหลายอุตสาหกรรม และเครือข่ายทางธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีมากกว่า 40 บริษัท ใน 5 ภูมิภาคทั่วโลก ครอบคลุมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจอุตสาหกรรม ธุรกิจพลังงาน ธุรกิจการแพทย์ นิคมอุตสาหกรรม ธุรกิจการตลาด ธุรกิจด้านการบริการ ธุรกิจการบิน ธุรกิจยานยนต์ ธุรกิจบันเทิง ที่มีบุคลากรรวมกันมากกว่า 10,000 คน เพื่อสนับสนุนและสร้างโอกาสทางธุรกิจ MUO ในกลุ่มประเทศอเมริกาเหนือและอเมริกาใต้
ด้านดร.อาทิตย์ น้อยเจริญ บริษัท ต้นหอม จำกัด ที่ปรึกษาธุรกิจ เปิดเผยว่า ในเรื่องของการทำแผนฟื้นฟูในหลักการของ JKN ทางบริษัทมีความตั้งใจที่จะคืนเงินต้นให้กับผู้ถือหุ้นกู้ทุกคน 100% โดยบริษัทต้องการที่จะเป็นผู้ทำแผนและอยากขอให้ผู้ถือหุ้นกู้ทุกคนสนับสนุนและเลือกบริษัทเป็นผู้ทำแผน โดยที่ในความโปร่งใสบริษัทจะมีการจ้างที่ปรึกษาทางการเงิน Grant Thornton PROFESSIONAL ระดับ BIG 5 ของโลก เข้ามาช่วยดูรายละเอียดในเรื่องของประมาณการในการทำธุรกิจ และจ้างINTERNAL AUDIT FIRM 1 ใน BIG 4 เข้ามาร่วมตรวจสอบถายใน เพื่อความโปร่งใสและดูแลกฎเกณฑ์ให้เป็นไปตามมาตรฐานสูงสุดของตลาดหลักทรัพย์ พร้อมกันนั้นเพื่อให้ทางบริษัทสามารถคืนหุ้นกู้ได้ 100% ทาง JKN GROUPGLOBAL ได้มีการอัดฉีดเงินลงทุน 1,750 ล้านบาท หรือประมาณ 50 ล้านเหรียญสหรัฐ ภายใน 5 ปี
เนื่องจากธุรกิจ JKN เป็นธุรกิจจำเพาะและเป็นธุรกิจที่ต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญ ดังนั้นจากประสบการณ์ตลอดระยะเวลา 25 ปี และบริษัทการทำธุรกิจ Content เป็นอันดับ 1 ของไทย ดังนั้นเพื่อรักษาผลประโยชน์และสามารถคืนเจ้าหนี้ให้ทุกคน จึงมองว่าธุรกิจนี้ต้องใช้คนที่มีความชำนาญ JKN จึงอยากให้ผู้ถือหุ้นกู้โหวตและสนับสนุนให้บริษัทเป็นผู้ทำแผน
สำหรับหลักการและกรอบในการชำระหนี้หุ้นกู้คืน บริษัทต้องคืนเงินต้น 100% ให้กับผู้ถือหุ้นกู้ทุกรายพร้อมดอกเบี้ย โดยมีแนวทางการชำระ 3 ทางประกอบด้วย 1.คืนเงินต้น 50% ภายใน 4 ปี ส่วนที่เหลือทั้งหมดจ่ายคืนในปีที่ 5, 2.จ่ายดอกเบี้ยด้วยอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 1.70% ต่อปี จ่ายปีละครั้งพร้อมเงินต้น และ 3.แผนธุรกิจจะเสร็จในเดือนกันยายน 2567 และจะชำระก้อนแรกภายในไตรมาส 2 /2568
ด้านนายธีระพันธ์ เพ็ชร์สุวรรณ์ ที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมาย JKN เปิดเผยว่า การฟื้นฟูกิจการ JKN จะต้องมีผู้ทำแผน ซึ่งการทำแผนฟื้นฟูกิจการด้วยเจตนารมณ์ของกฎหมายก็อยากให้ลูกหนี้เป็นผู้ทำแผน จะเห็นว่าการเลือกผู้ทำแผนถ้าไม่มีผู้ใดเสนอผู้ทำแผนก็ให้ลูกหนี้เป็นผู้ทำแผน แต่ถ้าหากมีผู้อื่นเสนอก็ให้เจ้าหนี้โหวตด้วยเสียง 1 ใน 3 ให้ลูกหนี้เป็นผู้ทำแผนซึ่งเป็นหลักเกณฑ์สากลไปทั่วโลก
ดังนั้นคนที่จะรู้เรื่องกิจการของบริษัทดีที่สุดก็ต้องเป็นลูกหนี้ ซึ่งจะทราบดีว่าทรัพย์สินใดในบริษัทจะสามารถหารายได้และเป็นประโยชน์ที่สุด หากให้ผู้อื่นมาทำแผนอาจจะทำการขายทิ้งทรัพย์สินไป ซึ่งทรัพย์สินเหล่านั้นอาจสร้างรายได้แก่บริษัทและนำมาชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ทั้งหลายได้มากกว่าการขายทิ้ง ซึ่งการขายทิ้งในภาวะลูกหนี้มีหนี้สินจำนวนมาก แน่นอนผู้ซื้ออาจจะกดราคารับซื้อให้ถูก เงินที่ได้มาจากการขายอาจไม่เพียงพอที่จะนำไปจ่ายคืนเจ้าหนี้ได้เต็มจำนวน
ถ้าให้ลูกหนี้เป็นผู้ทำแผนเองก็จะไม่ทราบว่างานด้านในแต่ละส่วนทำอย่างไร จึงเป็นเรื่องยากที่คนนอกจะเข้ามาทำให้ได้ผลเหมือนกับคนที่ทำอยู่เดิม นอกจากนั้นหากให้คนอื่นมาทำแผนมันก็อาจจะเกิดความผิดพลาดได้มากกว่าให้ลูกหนี้ซึ่งเป็นผู้ทำแผนซึ่งจะรู้เรื่องดีกว่าในธุรกิจของ JKN
ดังนั้นการที่ JKN เสนอตัวเป็นผู้ทำแผนก็เพื่อหวังจะคืนหนี้ให้กับเจ้าหนี้ทุกราย โดยเฉพาะผู้ถือหุ้นกู้ได้เต็มจำนวน รวมทั้งดอกเบี้ย อีกทั้งทราบดีว่ากลุ่มที่เข้ามาซื้อหุ้นกู้ควรจะเป็นผู้สูงอายุ และไม่อยากให้เดือดร้อนบริษัทก็จะพยายามทำแผนและรู้ช่องทางหาเงินเพื่อนำมาชำระกับเจ้าหนี้หุ้นกู้และเจ้าหนี้อื่นๆ
นอกจากนี้ในอดีตที่ผ่านมาการให้ผู้อื่นเข้ามาทำแผนก็มีการ Take Over และยึดเอาบริษัท ซึ่งตรงนี้ทำให้ผู้ถือหุ้น และไม่ได้ซื้อหุ้นกู้ต้องเสียสิทธิ์ไปด้วย ดังนั้นการให้ลูกหนี้ทำแผนเองย่อมจะเป็นผลดีแก่ทุกฝ่าย โดยเฉพาะเจ้าหนี้ทั้งหลายและผู้ถือหุ้นกู้รวมทั้งผู้ถือหุ้นในบริษัทก็จะไม่ได้รับผลกระทบทุกคนจะได้ประโยชน์โทษถึงกันทั้งหมด
จึงขอแนะนำให้เลือก JKN เป็นผู้ทำการแต่เพียงผู้เดียว ส่วนที่ปรึกษาทางการเงินและหรือทางบัญชีอื่นๆทางบริษัทก็สามารถไปจ้างมาได้เพื่อเอามาเป็นที่ปรึกษาการเงินและให้ดูแลทางบัญชี เพื่อรับรองให้กับเจ้าหนี้ทุกคนได้เห็นการดำเนินการอย่างโปร่งใส ตามมาตรฐานบัญชี ก็สามารถจ้างคนนอกที่เป็นคนกลางมาดูแลผลประโยชน์ของทุกฝ่ายได้
สำหรับ JKN ได้ยื่นคําร้องขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลางภายใต้พระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 (และที่แก้ไขเพิ่มเติม) (“พ.ร.บ. ล้มละลาย”) โดยเสนอให้บริษัทเป็นผู้ทําแผน ซึ่งศาลล้มละลายกลางได้มีคําสั่งเมื่อวันที่ 23 เมษายน 2567 ให้ฟื้นฟูกิจการของบริษัท (ลูกหนี้) และตั้งให้ผู้บริหารของบริษัท (ลูกหนี้) เป็นผู้บริหารชั่วคราว โดยให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เรียกประชุมเจ้าหนี้เพื่อพิจารณาเลือกว่าบุคคลใดสมควรเป็นผู้ทําแผน
ทั้งนี้บริษัทขอเรียนให้ทราบว่า ขณะนี้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ได้กำหนดนัดประชุมเจ้าหนี้เพื่อพิจารณาเลือกผู้ทําแผนตามความในมาตรา 90/17 แห่ง พ.ร.บ. ล้มละลาย ณ ห้องเทวกรรมรังรักษ์ ชั้นที่ 2 สโมสรมหารบก เลขที่ 195 ถนนวิภาวดี-รังสิต แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร ในวันจันทร์ที่ 24 มิถุนายน 2567 เวลา 10:00 น. โดยมีวาระการประชุม ดังนี้
1.เรื่องที่แจ้งให้ที่ประชุมเจ้าหนี้ทราบ 2. การเสนอชื่อผู้ทําแผน 3. การคัดค้านการออกเสียงของเจ้าหนี้ 4. การลงมติเลือกผู้ทําแผน และ 5. เรื่องอื่นๆ (ถ้ามี)
โดยเจ้าหนี้ที่ประสงค์จะเข้าร่วมประชุม จะต้องเป็นเจ้าหนี้ที่อาจขอรับชําระหนี้ในการฟื้นฟูกิจการได้และเป็นหนี้ที่เกิดขึ้นก่อนวันที่ศาลมีคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการ (วันที่ 23 เมษายน 2567) โดยเจ้าหนี้จะต้องยื่นคําขอแสดงความประสงค์จะเข้าประชุมเจ้าหนี้เพื่อพิจารณาเลือกผู้ทําแผนพร้อมหลักฐานแห่งความเป็นเจ้าหนี้ ตามวิธีการและเงื่อนไขที่กำหนดทางเว็บไซด์กรมบังคับคดี reorg-service.led.go.th หรือ QR Code ท้ายประกาศนี้ หรือตามแบบพิมพ์ ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ภายในวันศุกร์ที่ 21 มิถุนายน 2567 เวลา 16:30 น. จึงจะมีสิทธิออกเสียงในที่ประชุมเจ้าหนี้ได้ ทั้งนี้ ในวันที่ประชุมเจ้าหนี้อาจมอบฉันทะเป็นหนังสือให้ผู้อื่นออกเสียงแทนได้