TEGH มั่นใจครึ่งหลังปี 67 โตเด่น กฎหมาย EUDR ดันยอดขายพุ่ง

TEGH ประเมินผลงานครึ่งปีหลังโตต่อเนื่องจากยอดขายยางแท่งมีแนวโน้มสดใสตามภาพรวมเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว และอุตสาหกรรมยางล้อและรถยนต์ยังเติบโตดี ชี้กฎหมาย EUDR ส่งผลบวกต่อยอดขาย และราคายางแท่ง คาดหนุนผลงานโดยรวมปีนี้โตแรง


นางสาวสินีนุช โกกนุทาภรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TEGH เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 67 มีทิศทางที่ดีต่อเนื่องทั้งสามสายธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจผลิตและจำหน่ายยางธรรมชาติที่มีสัญญาณสดใสตลอดทั้งปี

โดยยอดขายยางแท่งมีคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่องจากไตรมาส 1/67 จากปัจจัยสนับสนุนด้านภาพรวมเศรษฐกิจฟื้นตัว และการเติบโตของอุตสาหกรรมยางล้อและรถยนต์ ทั้งยังมีสัญญาณที่ดีจากความต้องการยางแท่งมาตรฐาน EUDR ซึ่งจะส่งผลเชิงบวกต่อผลประกอบการในครึ่งปีหลัง ทั้งในด้านของยอดขายและราคาขายยางแท่งอีกด้วย

ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นขยายฐานลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทั้งในยุโรป อินเดีย และจีน โดยได้รับปัจจัยบวกจากการบังคับใช้กฎหมาย EUDR ซึ่งเป็นกฎหมายห้ามนำเข้าสินค้าที่ใช้วัตถุดิบที่มาจากการตัดไม้ทำลายป่า ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้มีการทำสัญญาซื้อขายยางแท่งเกรด EUDR แล้วทั้งในโซนยุโรปและเอเชีย และเริ่มส่งมอบสินค้าไปแล้วในไตรมาส 2/67 และจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งจะสนับสนุนให้ผลการดำเนินงานในอนาคตเติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

สำหรับธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำมันปาล์มดิบ มีแนวโน้มไปในทิศทางที่ดีขึ้น โดยหม้อต้มไอน้ำ (Boiler) ลูกใหม่ได้ติดตั้งแล้ว อยู่ระหว่างทดสอบระบบ และบริษัทฯ มีแผนที่จะติดตั้งหม้อนึ่งปาล์ม (Sterilizer) เพิ่มเติม ซึ่งจะทำให้กำลังการผลิตน้ำมันปาล์มดิบเพิ่มขึ้นอีก 50% ภายในปี 68

ส่วนธุรกิจด้านพลังงานทดแทนและบริหารจัดการกากอินทรีย์ หลังจากที่เดินระบบและเริ่มรับรู้รายได้จากโครงการขยายกำลังการผลิตก๊าซชีวภาพเฟสที่ 1 ในไตรมาส 4/66 แล้ว คาดจะเริ่มรับรู้รายได้จากการขายก๊าซชีวภาพให้กับลูกค้าภายนอกเครือได้ในไตรมาส 4/67 และจะสามารถเริ่มโครงการขยายกำลังการผลิตก๊าซชีวภาพเฟสที่ 2 ได้ภายในปีนี้

อนึ่ง ภาพรวมผลการดำเนินงานไตรมาส 1/67 (สิ้นสุด 31 มี.ค.67) บริษัทฯ มีรายได้รวม 3,708.65 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 63.43 ล้านบาท โดยมีรายได้จากการจำหน่ายสินค้ายางแท่งแตะระดับ 3,158.05 ล้านบาท และมีโอกาสที่ยอดขายยางแท่งในปี 67 จะสามารถทำสถิติสูงสุดใหม่ (All Time High) ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยคาดว่าปริมาณขายยางแท่งจะเพิ่มขึ้น 20% จากปีก่อนที่มียอดขาย 197,000 ตัน

Back to top button