“ดาวโจนส์” ร่วงกว่า 200 จุด หลังเฟดส่งซิกลด “ดอกเบี้ย” เพียง 1 ครั้งปีนี้!

“ดาวโจนส์” ร่วงกว่า 200 จุด นักลงทุนจับตาหลังเฟดส่งสัญญาณลดดอกเบี้ย เพียง 1 ครั้งปีนี้ จากเดิมที่ส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในการประชุมเดือนมี.ค.


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ 13 มิ.ย.67) ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ณ เวลา 22:19 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 38,488.00 จุด ลบ 264.00 จุด หรือ 0.68%เนื่องจากนักลงทุนจับตาทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ

โดยคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวานนี้ ขณะที่ในรายงานคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Dot Plot) เจ้าหน้าที่เฟดส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% เพียง 1 ครั้งในปี 2567 จากเดิมที่ส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในการประชุมเดือนมี.ค.

ทั้งนี้ นักลงทุนเพิ่มน้ำหนักต่อคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ โดยปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือนก.ย. และปรับลดอีกครั้งในเดือนธ.ค. หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ที่ต่ำกว่าคาด ขณะที่ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกพุ่งสูงสุดในรอบ 10 เดือน ซึ่งบ่งชี้ถึงตลาดแรงงานที่อ่อนแอ

ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 61.1% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมเดือนก.ย. หลังจากที่ให้น้ำหนัก 59.6% เมื่อวานนี้

นอกจากนี้ นักลงทุนให้น้ำหนัก 45.2% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.75-5.00% ในการประชุมเดือนธ.ค. หลังจากที่ให้น้ำหนัก 43.2% เมื่อวานนี้

ทั้งนี้ ดัชนี CPI ทั่วไป (Headline CPI) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 3.3% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.4% จากระดับ 3.4% ในเดือนเม.ย.

ขณะที่เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี CPI ทั่วไป ไม่เปลี่ยนแปลงในเดือนพ.ค. หรือปรับตัวขึ้น 0.0% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าปรับตัวขึ้น 0.1% จากระดับ 0.3% ในเดือนเม.ย.

ส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 3.4% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.5% จากระดับ 3.6% ในเดือนเม.ย.

เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี CPI พื้นฐาน ปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนพ.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.3% จากระดับ 0.3% ในเดือนเม.ย.

นอกจากนี้ ดัชนี PPI ทั่วไป (Headline PPI) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 2.2% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 2.5% จากระดับ 2.3% ในเดือนเม.ย.

เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี PPI ทั่วไป ปรับตัวลง 0.2% ในเดือนพ.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าปรับตัวขึ้น 0.1% หลังจากปรับตัวขึ้น 0.5% ในเดือนเม.ย.

ส่วนดัชนี PPI พื้นฐาน (Core PPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 2.3% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 2.4% จากระดับ 2.5% ในเดือนเม.ย.

เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี PPI พื้นฐาน ไม่เปลี่ยนแปลงในเดือนพ.ค. หรือปรับตัวขึ้น 0.0% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าปรับตัวขึ้น 0.3% หลังจากปรับตัวขึ้น 0.5% ในเดือนเม.ย.

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก เพิ่มขึ้น 13,000 ราย สู่ระดับ 242,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 10 เดือน หรือนับตั้งแต่เดือนส.ค.2566 และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 225,000 ราย

ส่วนตัวเลขค่าเฉลี่ย 4 สัปดาห์ของจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ซึ่งถือเป็นมาตรวัดตลาดแรงงานที่ดีกว่า เนื่องจากขจัดความผันผวนรายสัปดาห์ เพิ่มขึ้น 4,750 ราย สู่ระดับ 227,000 ราย และเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2566

ขณะเดียวกัน กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่อง เพิ่มขึ้น 30,000 ราย สู่ระดับ 1.82 ล้านราย ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ต้นปี 2567 และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 1.80 ล้านราย

Back to top button