SET สัปดาห์นี้ “ไซด์เวย์” จับตาตัวเลขศก.จีน-สหรัฐ-การเมือง ชู AOT-HANA-TU หุ้นเด่น

 “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” รวบรวมกลยุทธ์ลงทุนในสัปดาห์นี้ (17-21 มิ.ย.67) จากบทวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) หรือ KSS โดยประเมินตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ “แกว่งตัว” โดยมีแนวต้าน 1,320-1,330 จุด และแนวรับ 1,296-1,284 จุด

อย่างไรก็ตามแม้ SET สะท้อนความกังวลการเมืองไม่ชัดเจนจนอยู่ในโซนลงทุนที่มี Current ERP ราว 3.5% สูงกว่าค่าเฉลี่ย (3.09%) แต่ความชัดเจนที่ยังไม่น่าจะเกิดขึ้นในสัปดาห์นี้ โดยหุ้นนำตลาด 1.) กลุ่มได้จิตวิทยาบอนด์ยีลด์สหรัฐผ่านพีครอบนี้หนุน อาทิ เช่าซื้อ,ชิ้นส่วน High Growth หนี้สูง 2) กลุ่มอิงภาคผลิตโลกที่คาดเห็นพัฒนาการในส่วนดังกล่าวต่อเนื่องอาทิ ชิ้นส่วนอีเล็กฯ,อาหาร

ส่วนหุ้นเด่นสัปดาห์นี้แนะนำ AOT, HANA, TU  โดย AOT แนะนำราคาเป้าหมาย 70.50 บาท เป็นผู้ให้บริการสนามบินน้อยราย ทนทานต่อความผันผวน และ HANA แนะนำเก็งกำไรคาดรายงานภาคผลิตโลกสัปดาห์หน้ายังมีโมเมนตัมเชิงบวก ส่วนTU แนะนำราคาเป้าหมาย 17.00 บาท คาดรายงานภาคผลิตโลกสัปดาห์หน้ายังมีโมเมนตัมเชิงบวก

ด้านปัจจัยในสหรัฐวันที่ 18 มิ.ย. ติดตามยอดค้าปลีกเดือน พ.ค. คาด +0.3% เทียบเดือนก่อนหน้า และติดตามผลผลิตอุตสาหกรรมคาด +0.4% เทียบเดือนก่อนหน้า และวันที่ 21 มิ.ย. ติดตาม PMI ผลิตเดือน มิ.ย. (เบื้องต้น) คาด 51 จุด

ส่วนปัจจัยในจีนวันที่ 17 มิ .ย. ติดตาม  1.) ยอดค้าปลีกคาด +3% , 2.) ผลผลิตอุตสาหกรรมคาด +6.3 เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน นอกจากนี้ติดตามราคาบ้านใหม่เดือนพ.ค. ไม่มีคาดการณ์

ขณะที่ปัจจัยในยุโรปวันที่ 18 มิ.ย. ติดตามเงินฟ้อ CPI เดือยพ.ค. ส่วนวันที่ 21 มิ.ย. ติดตาม PMI ภาคผลิตเดือนพ.ค.คาด 47.3 จุด เท่าเดือนก่อน และ PMI ภาคบริการ ตลาดคาด 53.6 จุด

ส่วนปัยจัยในประเทศคาดการประกาศผล Rebalance ดัชนี SET50-SET 100 จะชัดเจนในช่วงต้นสัปดาห์หน้า โดยหุ้นที่คาดว่าจะเข้า SET50 คือ BJC, BCP, TIDLOR, ITC และ FTSE Rebalance: 21 มิ.ย. การ Rebalance จะมีผลคาดเม็ดเงินเข้าไทย +50 ล้านเหรียญฯ หุ้นที่ถูกเพิ่มน้ำหนัก SAWAD BGRIM, CPF ,MINT โดย FTSE Large Capไม่มีหุ้นเข้า-ออก

นอกจากนี้วันที่ 18 มิ.ย. ติดตามการเมือง (คดียุบพรรคก้าวไกล, คุณสมบัตินายกฯ) และติดตาม Fund Flow โดยสัปดาห์ที่แล้วเงินทุนไหลเข้า (หุ้น+พันธบัตร) โดยภูมิภาค Asia (exJ) ไหลเข้า 2360 ล้านเหรียญฯ ส่วนไทยเงินไหลออก 347.3 ล้านเหรียญฯ โดยขายหุ้น -255.5 ล้านเหรียญฯ และขายพันธบัตร -91.8 ล้านเหรียญฯ