GFC ติดโผ ESG Emerging ปีแรก! ตอกย้ำบริษัทธรรมาภิบาล
GFC ติดโผทำเนียบบริษัทวิถียั่งยืนที่น่าลงทุน ESG Emerging ปีแรก ตอกย้ำความเป็นบริษัทธรรมาภิบาล เพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุน พร้อมตั้งเป้ารายได้ปี 2567 เติบโต 20-30%
นายกรพัส อัจฉริยมานีกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจเนซีส เฟอร์ทิลีตี เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ GFC ผู้ให้บริการทางการแพทย์สำหรับผู้มีปัญหามีบุตรยากแบบครบวงจร เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้รับการคัดเลือกเป็น 1 ใน 19 ที่ติดโผทำเนียบ บริษัทวิถียั่งยืนที่น่าลงทุน ESG Emerging และเป็นหลักทรัพย์ใน Universe ของกลุ่มหลักทรัพย์ ESG100 ปี 2567 เป็นครั้งแรก
ทั้งนี้จากการประเมินของสถาบันไทยพัฒน์ ซึ่งเป็นหน่วยงาน ESG Rating ในฐานะผู้พัฒนาข้อมูลด้านความยั่งยืนของธุรกิจในประเทศไทย และเป็นผู้จัดทำข้อมูลกลุ่มหลักทรัพย์ ESG100 ซึ่งได้จัดทำรายชื่อหลักทรัพย์จดทะเบียนที่น่าลงทุนในกลุ่ม ESG Emerging ปี 2567 ด้วยการคัดเลือกจาก 920 บริษัท, กองทุน และทรัสต์เพื่อการลงทุน ซึ่งทำการประเมินโดยใช้ข้อมูลที่เกี่ยวกับ ESG จาก 6 แหล่ง จำนวนกว่า 17,037 จุดข้อมูล
โดยการที่ได้เข้ามาอยู่ในกลุ่ม ESG100 ซึ่งเป็นครั้งแรกของ GFC ถือเป็นหนึ่งทางในการยกระดับความน่าเชื่อถือขององค์กร และเพิ่มน้ำหนักความน่าสนใจลงทุนของบริษัทฯ ต่อนักลงทุนสถาบันและกองทุนชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งยังเป็นอีกทางเลือกให้ผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนในหลักทรัพย์จดทะเบียนที่มีคุณภาพและสามารถสร้างผลตอบแทนที่ไม่ด้อยกว่าการลงทุนในแบบทั่วไป
สำหรับการที่ได้รับคัดเลือกครั้งนี้ สอดรับกับความมุ่งสู่ความยั่งยืน และการสร้างโอกาสการลงทุนทางธุรกิจ ภายใต้การเป็นหนึ่งในผู้นำด้านเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ในภูมิภาคอาเซียน ที่มีความมั่นคง ยั่งยืน และยึดมั่นในหลักจริยธรรม เพราะทุกๆ ขั้นตอนของการให้บริการของบริษัทฯ มีผลต่อชีวิตคู่และชีวิตที่เกิดใหม่ เพราะ GFC คำนึกเสมอว่า “ความสุขของคุณ คือความสำเร็จของเรา ทุกขั้นตอนที่ใส่ใจ คือปัจจัยนำไปสู่ความสำเร็จ”
ทั้งนี้ทำให้บริษัทฯ ให้ความสำคัญต่อการยึดมั่นหลักธรรมาภิบาลอย่างชัดเจน เพื่อประโยชน์ ต่อลูกค้าและสังคมโดยรวม ผ่านการขับเคลื่อนนโยบายแผนธุรกิจที่จะเปิดให้บริการรักษาผู้มีบุตรยาก 2 สาขาใหม่ ได้แก่ สาขาพระราม 9 อินเตอร์เนชั่นแนล และ สาขาอุบลราชธานี เพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้บริการ ที่เข้ารับการรักษาผู้มีบุตรยากทั้งคนไทย และ ต่างประเทศ เพื่อให้ครอบคลุมการเข้ารับการรักษาทุกมิติ โดยทั้ง 2 สาขาดังกล่าว จะเปิดให้บริการภายในไตรมาส 3/2567 และสามารถรับรู้รายได้ทันทีทำให้บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้ปี 2567 เติบโต 20-30%