“กรภัทร” ลุ้น SET รีบาวด์ต่อ! ชู 4 หุ้นเด่น FTSE เพิ่มน้ำหนักลงทุนมีผลพรุ่งนี้

“กรภัทร วรเชษฐ์” มอง SET รีบาวด์ต่อ! ลุ้นการเมืองชัดเจน-มาตรการคุมเข้ม Short Selling หนุน ให้แนวต้าน 1,315 จุด ส่วนแนวรับ 1,290-1295 จุด ชู SAWAD-BGRIM-CPF-MINT  หุ้นเด่น FTSE เพิ่มน้ำหนักลงทุนหุ้น มีผลราคาปิดพรุ่งนี้


นายกรภัทร วรเชษฐ์ หัวหน้าสายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) หรือ KSS กล่าวในรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด” วันนี้ (20 มิ.ย.67) ว่าทิศทางตลาดหุ้นไทยวันนี้ยังแกว่งตัวผันผวน แต่มีภาพเชิงบวกจากต่างประเทศในส่วนของตัวเลขเงินเฟ้อที่อยู่อาศัยของสหรัฐมีทิศทางจะปรับตัวลงต่อเนื่อง ซึ่งตรงนี้จะเป็นจุดที่ทำให้ “เฟด” พิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้นได้ในระยะถัดไป

ขณะที่ปัจจัยในประเทศวันพรุ่งนี้จะมีผลเริ่มบังคับใช้มาตรการจำกัดหุ้นที่ทำ Short Selling โดยกำหนดให้หลักทรัพย์ที่ไม่ได้อยู่ใน SET100 ต้องมี Market Cap จำนวน 7,500 ล้านบาทขึ้นไป และกำหนดให้มี T/O Ratio 12 เดือนที่ระดับ 2% ซึ่งมีหุ้น Short Selling คงค้างอยู่หลายตัวแต่อาจจะต้องหลุดจากเกณฑ์นี้เพราะว่าห้ามช็อตเพิ่มประมาณเกือบ 30 ตัว ตรงนี้ก็จะทำให้ตลาดในกลุ่มหุ้นขนาดกลางและเล็กมีความผันผวนลดลง

ส่วนหุ้น Big cap ที่ต่างชาติมีการช็อตเพิ่มช่วงนี้น่าจะเบาบางลง เพราะเริ่มตั้งแต่ 1 ก.ค.67 การ Short Selling ที่จะทำให้ตลาดเวียงลงจะยากขึ้น โดยจะมีการนำเอามาตรการ Uptick มาใช้ตรงนี้ก็จะเป็นจุดที่ทำให้ตลาดมีความผันผวนน้อยลงเช่นกัน

ขณะที่ปัจจัยอื่นๆ ในประเทศพรุ่งนี้จะมีการ Rebalance FTSE และหุ้นไทยถูกเพิ่มน้ำหนักในรายไตรมาสคิดเป็นเม็ดเงินราว 55 ล้านเหรียญฯ ดังนั้นทิศทางตลาดหุ้นไทยเริ่มมีเทคนิคอลรีบาวด์วันนี้มีโอกาสรีบาวต่อเนื่อง แต่ต้องจับตาแรงซื้อเพราะต้องสู้กับต่างชาติ ซึ่งมีแหล่งที่ขายสวนทิศทางหุ้นไทยที่ดีดตัวขึ้นมา และเมื่อไปดูหุ้นไทย 30 ตัวแรกจะพบว่านักลงทุนต่างชาติมี Short Selling คงค้างเพิ่มขึ้น แต่ในขณะที่แรงซื้อในประเทศที่ค่อนข้างแข็งแรงก็อาจจะมีการ Cover Short กลับได้เช่นกันซึ่งอาจทำให้มีการรีบาวด์ ดังนั้นให้แนวต้านดัชนีที่ 1,315 จุด ส่วนแนวรับ 1,290-1295 จุด

ด้านหุ้น Big cap ที่ต่างชาติมีการช็อตเพิ่มช่วงนี้น่าจะทำเบาบางลง เพราะเริ่มตั้งแต่ 1 ก.ค. การ Short Selling ที่จะทำให้ตลาดเวี่ยงลงจะยากขึ้น เพราะจะมีการนำเอามาตรการ Uptick มาใช้ตรงนี้ก็จะเป็นจุดที่ทำให้ตลาดมีความผันผวนน้อยลงเช่นกัน นอกจากนี้หากการเมืองมีบทสรุปและเดินหน้าไปได้ ก็น่าจะทำให้คาดหวังเรื่องเศรษฐกิจในช่วงปลายปีเร่งตัวขึ้นมีความเป็นไปได้มากขึ้นจากการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณ และงบปี 68 ที่กำลังจะมีผล

ส่วนกรณีกลุ่มหุ้นที่มีบัญชีมาร์จิ้นจำนวนมากและถูกฟอร์ตเซลวานนี้ แน่นอนว่าพอตลาดลงมามากนักลงทุนจะเกิดความกังวล ตรงนี้ก็ต้องไปสำรวจว่าหุ้นที่มีสัดส่วนมาร์จิ้นเยอะตัวไหนบ้างเพื่อเฝ้าระวัง แต่อย่างไรก็ตามไม่ได้มีหุ้นที่จะถูกฟอร์ตเซลทุกตัวที่ต้องปรับลง ดังนั้นต้องไปศึกษาโครงสร้างธุรกิจมีการเติบโตหรือไม่ ถ้าหากสักส่วนมาร์จิ้นมากในช่วงธุรกิจซบเซาก็ต้องระมัดระวัง

สำหรับกลุ่มหุ้นที่แนะนำวันนี้ เน้นกลุ่ม FTSE เพิ่มน้ำหนักหุ้นไทยคิดเป็นเม็ดเงินราว 55 ล้านเหรียญฯโดยหลักๆ ได้แก่ บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAWAD, บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM, บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF , บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT มีผลราคาปิดวันที่ 21 มิ.ย.67

ด้านหุ้น Topic เด่นที่กำไรมีทิศทางดีขึ้นและราคาย่อลงมาแนะนำ CPALL,MINT และ TRUE โดยบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL แนะนำราคาพื้นฐาน 80 บาท ส่วนเก็งกำไรราคา 57-59 บาท และแนวรับ 54.25 บาท

นอกจากนี้ MINT ราคาพื้นฐาน 42.00 บาท ส่วนเก็งกำไรราคา 32.25 บาท แนวรับ 28 บาท และบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE แนะนำราคาพื้นฐาน 10.30 บาท ส่วนเก็งกำไร 9 บาท และแนวรับ 8.25 บาท

Back to top button