“คลัง” สั่งเก็บภาษี VAT สินค้านำเข้าราคาตั้งแต่ 1 บาท มีผล 5 ก.ค.นี้
คลัง ประกาศราชกิจจานุเบกษา สั่งเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มสินค้านำเข้าราคาตั้งแต่ 1 บาท ขึ้นไป มีผลบังคับใช้ 5 ก.ค. 67 หวังแก้ปัญหาเลี่ยงภาษี
ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้ (21 มิ.ย.67) เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาออกประกาศกระทรวงการคลังเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน เรื่อง การยกเว้นอากรศุลกากรสำหรับของที่มีมูลค่าไม่เกิน 1,500 บาท ซึ่งประกาศดังกล่าวจะมีผลใช้ในการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ที่มีราคาตั้งแต่ 1 บาท ตั้งแต่วันที่ 5 กรกฎคม 2567 เป็นต้นไป
โดยเหตุผลการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มสินค้านำเข้าตั้งแต่ 1 บาทนั้น รัฐบาลมีนโยบายแก้ไขปัญหาความไม่เป็นธรรมในการขายสินค้าให้แก่ผู้บริโภค ระหว่างผู้ขายในต่างประเทศที่ไม่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มกับผู้ขายในประเทศต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ประกอบกับประเทศไทยต้องปฏิบัติตามข้อตกลงระหว่างประเทศ ซึ่งให้กำหนดราคาขั้นต่ำของของที่นำเข้าแต่ละรายเพื่อให้คุ้มค่ากับการจัดเก็บอากรศุลกากร
ทั้งนี้ ผู้นำเข้าของต้องปฏิบัติตามพิธีการที่อธิบดีกรมศุลกากรประกาศกำหนด ให้บังคับใช้เมื่อพ้นกำหนด 15 วัน นับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2567 หรือ นับตั้งแต่วันที่ 5 กรกฎาคม 2567 ประกาศดังกล่าวลงนามโดย นายพิชัย ชุณหวชริ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งกรมศุลกากรจะเป็นผู้จัดเก็บภาษี VAT จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2567 หลังจากนั้น กรมสรรพากร จะดำเนินการจัดเก็บเองโดยขณะนี้อยู่ระหว่างการแก้ไขประมวลรัษฎากรเพื่อรองรับ
สำหรับการจัดเก็บ VAT นำเข้าสินค้าที่มีราคาต่ำกว่า 1,500 บาท นั้นเพื่อแก้ไขปัญหาข้อได้เปรียบจากสินค้าจีนราคาถูกที่เข้ามาทุ่มตลาดไทย และการจงใจหลีกเลี่ยงภาษีจากผู้นำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ ซึ่งที่ผ่านมา สินค้านำเข้าที่มีมูลค่าต่ำกว่า 1,500 บาท ได้รับการยกเว้นภาษี VAT เนื่องจากประมวลรัษฎากรได้เขียนผูกไว้กับกฎหมายศุลกากร ที่ให้ยกเว้นการเก็บ VAT ในสินค้านำเข้าที่กรมศุลกากรยกเว้นอากรตามประเภท 12 ภาค 4 แห่งพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร ปี 2530
ขณะที่หนึ่งในสินค้าที่ได้รับการยกเว้นอากร คือ สินค้าที่มีมูลค่าต่ำกว่า 1,500 บาท เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกทางการค้า ดังนั้น หากจะต้องจัดเก็บ VAT ในสินค้านำเข้าที่มีมูลค่าต่ำกว่า 1,500 บาท กรมฯจะต้องมีการปรับปรุงข้อกฎหมาย เพื่อให้สามารถจัดเก็บแวตสำหรับสินค้าดังกล่าวได้