“ดาวโจนส์” บวก 16 จุด สวน S&P500-Nasdaq ปิดลบ เซ่น “หุ้นเอ็นวิเดีย” ร่วงถ่วงกลุ่มเทคฯ
ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวก 16 จุด สวนทางกับดัชนี S&P500 และ Nasdaq หลังหุ้นเอ็นวิเดียร่วง 2 วันติดถ่วงกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวลง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ (21 มิ.ย.) แต่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดลดลง โดยถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้นเอ็นวิเดีย (Nvidia) เป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน ซึ่งถ่วงหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวลง
ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 39,150.33 จุด เพิ่มขึ้น 15.57 จุด หรือ +0.04%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,464.62 จุด ลดลง 8.55 จุด หรือ -0.16% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 17,689.36 จุด ลดลง 32.23 จุด หรือ -0.18%
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีลดลง 0.84% โดยเป็นกลุ่มที่ปรับตัวลงมากที่สุดในบรรดาหุ้น 11 กลุ่มของดัชนี S&P500 ขณะที่หุ้นกลุ่มบริการด้านการสื่อสารปรับตัวขึ้น
หุ้นขนาดใหญ่ อาทิ ไมโครซอฟท์, อัลฟาเบท และอะเมซอน ปรับตัวขึ้นราว 0.92-1.89% ขณะที่หุ้นแอปเปิ้ล ลดลง 1.04%
หุ้นอินวิเดียร่วงลง 3.22% และหุ้นเซมิคอนดักเตอร์ตัวอื่น ๆ อาทิ ควอลคอมม์, บรอดคอม และไมครอน เทคโนโลยี ปรับตัวลง 1.36-4.38%
สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยในวันศุกร์ (21 มิ.ย.) ว่า ยอดขายบ้านมือสองลดลง 0.7% สู่ระดับ 4.11 ล้านยูนิตในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 30 ปี และเมื่อเทียบรายปี ยอดขายบ้านร่วงลง 2.8% ในเดือนพ.ค.
ด้านเอสแอนด์พี โกลบอลเปิดเผยในวันศุกร์ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 54.6 ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 26 เดือน จากระดับ 54.5 ในเดือนพ.ค.
ดัชนี PMI ได้รับแรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของคำสั่งซื้อใหม่และการจ้างงาน ขณะที่ภาคธุรกิจมีความเชื่อมั่นมากขึ้น และดัชนี PMI ยังคงอยู่เหนือระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงการขยายตัวของภาคธุรกิจสหรัฐ
ข้อมูล FedWatch ของ LSEG บ่งชี้ว่า ตลาดการเงินยังคงปรับตัวรับโอกาส 58% ที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในเดือนก.ย. และยังคงคาดว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 2 ครั้งในปีนี้