นายกฯ แย้มข่าวดี ก.ค.นี้ เคาะงบรถไฟเชื่อม 3 สนามบิน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ ( 23 มิ.ย.67 ) ภายหลัง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.ชลบุรี และ จ.ระยอง โดยในการลงพื้นที่ในครั้งนี้  นายกรัฐมนตรี ได้ตรวจท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา ระยอง-พัทยา และได้พูดคุยหารือเกี่ยวกับการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ รองรับการลงทุนในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) โดยมี นายสุริยะ  จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คมนาคม , นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง และ นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคมร่วมติดตามการลงพื้นที่ดังกล่าวด้วย

ทั้งนี้ภายหลังการลงพื้นที่ ล่าสุด ( 24 มิ.ย. 67 ) นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลมีโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน แต่ยังคงมีความล่าช้าในการดำเนินการ โครงการนี้ควรจะเริ่มก่อสร้าง ปี พ.ศ.2564 แต่เกิดปัญหาโควิด-19 รวมถึงมีปัญหาเรื่องผู้รับเหมาและเรื่องอื่นๆอีกมากมาย ทำให้ไม่เป็นไปตามที่คาดหวังไว้

อย่างไรก็ตาม เรื่องของรถไฟเชื่อม 3 สนามบินเป็นเรื่องที่สำคัญ ซึ่งประมาณสิ้นเดือนกรกฎาคมน่าจะมีข้อสรุปและเป็นข่าวดี ในฐานะรัฐบาลอยากให้ไปต่อ เพราะถือเป็นจิ๊กซอว์การลงทุนข้ามชาติต่อยอดบริษัทที่จะมาลงทุนในEEC ทำธุรกิจการค้า หรือ ธุรกรรมการลงทุนต่าง ๆ ในภูมิภาคนี้ ถ้าหากขาดไปตัวหนึ่งก็คงลำบาก ซึ่งเราไม่ต้องไปลงรายละเอียดว่าเชื่อม 3 สนามบินต้องไปลิงก์กับสนามบินที่กรุงเทพอย่างไร ย้ำว่าอย่าให้เกิดปัญหาไม่เช่นนั้นหากติดกระดุมเม็ดแรกผิดตั้งแต่ต้นก็จะเกิดปัญหาตามมาเป็นมหากาพย์

สำหรับโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง สุวรรณภูมิ อู่ตะเภา) เป็นหนึ่งในเมกะโปรเจกต์ด้านการปลุกการลงทุนพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) มูลค่า 224,544 ล้านบาท ที่ผ่านมา 7 ปียังไม่มีความคืบหน้า จึงเกิดเป็นคำถามที่ว่า “ โครงการนี้จะเดินหน้าต่อไปอย่างไร ? ” แต่ในปี พ.ศ.2567 นี้ คาดว่า โครงการดังกล่าวจะมีความคืบหน้าจากเดิม ภายหลังที่  นายกรัฐมนตรี และ รมว.คมนาคม ยืนยันกับสื่อมวลชนว่า ได้สั่งให้ทุกหน่วยงานเร่งรัดแล้ว ซึ่งแนวโน้มตนเชื่อว่าก่อนสิ้นเดือน ก.ค.นี้ จะมีข้อสรุป และสามารถก่อสร้างโครงการต่อได้ในปี พ.ศ.2568