“ชัยยศ” มอง SET รีบาวด์! แนะลงทุน GULF-ADVANC รับปัจจัยบวกเฉพาะตัว

“ชัยยศ จิวางกูร” มอง SET มีโอกาสรีบาวด์ หลัง “บอนด์ยีลด์” สหรัฐทรงตัวที่ระดับ 4.2-4.3% พร้อมแนะลงทุน GULF รับข่าวจับมือ “Google” รุกธุรกิจคลาวด์ พ่วงแนะซื้อ ADVANC รับปันผลครึ่งปี ลุ้นงบไตรมาส 2/67 แตะ 8.6 พันล้านบาท


นายชัยยศ จิวางกูร ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด มหาชน หรือ KSS เปิดเผยในรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด” วันนี้ (26 มิ.ย. 67) ว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยมีโอกาสรีบาวด์ แต่มองว่าอัพไซด์คงไม่ได้สูงมากนัก เนื่องจากภาครัฐ และหน่วยงานต่างๆ ได้ประกาศมาตรการกระตุ้นตลาดทุนไทยออกมาแล้ว ทั้งในเรื่องของการปรับเกณฑ์ TESG และมาตรการ Uptick เป็นต้น

อย่างไรก็ตามแนะนำให้ระมัดระวังหากดัชนีดีดตัวขึ้นไปบริเวณแนวต้านที่ระดับ 1,330 จุด เนื่องจากอาจมีจังหวะของการย่อตัวลงได้ สำหรับปัจจัยที่จะส่งผลให้ดัชนีมีโอกาสปรับตัวขึ้นนั้น มาจากการที่บอนด์ยีลด์สหรัฐเริ่มทรงตัวที่ระดับ 4.2-4.3% ซึ่งเป็นการลดแรงกดดันจากคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังคงดอกเบี้ยในระดับสูง โดยจะช่วยให้ฟันด์โฟลว์จากนักลงทุนต่างชาติชะลอการขายได้

ส่วนการปรับเกณฑ์ TESG ใหม่ รวมทั้งการส่งสัญญาณที่จะฟื้นกองทุนรวมวายุภักษ์ ของกระทรวงการคลัง มองว่าเป็นปัจจัยบวกทั้ง 2 เรื่อง โดยคาดการณ์ว่าเม็ดเงินจาก TESG จะเข้ามาในตลาดหุ้นไทยราว 7 หมื่นล้านบาท/ปี แต่เนื่องจากปีนี้ได้ผ่านมาแล้วครึ่งปี ดังนั้นจึงคาดว่าจะมีเม็ดเข้ามาประมาณ 3.5 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้คาดหวังว่าในปี 68 จะมีเม็ดเงินเข้ามา 7 หมื่นล้าน/ปี

สำหรับกองทุนรวมวายุภักษ์ มองว่าเป็นประเด็นที่น่าสนใจ เนื่องจากมีมูลค่ากองทุนรวมประมาณ 5 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นจำนวนที่ค่อนข้างมาก โดยจะช่วยทำให้หุ้นและภาวะตลาดมีความผันผวนน้อยลง เพราะในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาหากเป็นช่วงที่เม็ดเงินจากนักลงทุนต่างชาติไหลออก จะส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทยอย่างมาก และทำให้ดัชนีมีการปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากมีเม็ดเงินจากกองทุนดังกล่าวเข้ามาเชื่อว่า การปรับตัวลงของดัชนีตลาดหุ้นไทยจะมีดาวน์ไซด์ที่จำกัด และหากเศรษฐกิจไทยมีการฟื้นตัวตามที่รัฐบาลคาดหวัง คาดว่าจะทำให้มีการอัพไซด์ในการปรับตัวขึ้นของดัชนี

ทั้งนี้ มองว่าข่าวดังกล่าว อาจทำให้มีการ Cover Short เป็นรายหลักทรัพย์ ส่วนความเชื่อมั่นของนักลงทุน ในเชิงปัจจัยพื้นฐานมองว่านักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้น เห็นได้จากการที่นักลงทุนรายย่อยมีการซื้อหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง โดยซื้อติดกันเป็นระยะเวลา 1 สัปดาห์แล้ว ขณะที่นักลงทุนต่างชาติยังไม่มีความเชื่อมั่นในตลาดหุ้นไทยมากนัก โดยมีการขายหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมองว่าหากจะทำให้นักลงทุนต่างชาติมีความเชื่อมั่นในตลาดหุ้นไทย จะต้องแก้ไขในเรื่องของ GDP และเศรษฐกิจก่อน เนื่องจากเรื่องดังกล่าวเป็นปัจจัยหลักในการสร้างความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติ

สำหรับการลงทุนแนะนำ บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF โดยรับปัจจัยบวกจากการที่บริษัทในเครือได้ลงนามสัญญาความร่วมมือธุรกิจคลาวด์ในประเทศไทยกับบริษัท กูเกิ้ล เอเชีย แปซิฟิก จำกัด หรือ Google รวมทั้งแผน PDP ใหม่ โดยแนะนำ “ซื้อ” ราคาพื้นฐานที่ 45.50 บาท

บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC โดยฝ่ายวิเคราะห์ได้ประเมินผลประกอบการในไตรมาส 2/67 ไว้ที่ประมาณ 8.6 พันล้านบาท โดยเป็นการเติบโตทั้งจากช่วงเดียวกันของปีก่อน และไตรมาสก่อนหน้า จาก ARPU ที่ดีขึ้น ประกอบกับอาจจะมีการปันผลครึ่งปี ทั้งนี้มองว่าราคาหุ้น ณ ปัจจุบันเป็นจังหวะของการทยอยเข้าลงทุน โดยแนะนำ “ซื้อ” ราคาพื้นฐานที่ 275 บาท

Back to top button