“แพทองธาร” จับมือ CEA ร่วมพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ 10 จังหวัด

ประธานคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์ฯ นับหนึ่ง ร่วมตั้งศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ ในพื้นที่ 10 จังหวัด


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ ( 27 มิ.ย.67 ) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ร่วมมือกับ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA ประกาศแผนยุทธศาสตร์เดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของไทย หนุนศักยภาพด้านความคิดสร้างสรรค์และทุนทางวัฒนธรรม ยกระดับโครงสร้างพื้นฐานด้านภูมิปัญญาท้องถิ่นและเอกลักษณ์ความเป็นไทยให้เกิดคุณค่าทางเศรษฐกิจและศักยภาพพร้อมแข่งขันสู่เวทีโลก ผ่านการตั้งศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ  ในพื้นที่ 10 จังหวัด ประกอบไปด้วย จ.เชียงราย, จ. นครราชสีมา, จ.ปัตตานี, จ. พิษณุโลก, จ.แพร่, จ. ภูเก็ต , จ.ศรีสะเกษ, จ.สุรินทร์, จ.อุตรดิตถ์ และ จ.อุบลราชธานี

ด้าน ดร. อรรชกา สีบุญเรือง ประธานกรรมการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์  เปิดเผยว่า สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์  ( CEA ) พร้อมขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ไทยในฐานะศูนย์กลางเชื่อมโยงความคิดสร้างสรรค์ โดยผสานทุนทางวัฒนธรรมมาต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ ผ่านการส่งเสริมและสร้างเครือข่ายความร่วมมือจากนโยบายของรัฐบาลสู่ภาครัฐ ด้วยความร่วมมือกับภาครัฐท้องถิ่น ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา และชุมชน เพื่อพัฒนานวัตกรรมบนพื้นฐานทุนทางวัฒนธรรม กระจายความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมลงสู่ชุมชน สร้างเมืองและชุมชนสร้างสรรค์ทั่วประเทศ

ทั้งนี้ ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบที่จะสร้างขึ้นในพื้นที่ 10 จังหวัด จะมีการติดตั้ง Creative Lab เพิ่มไปในศูนย์ฯด้วย ซึ่งจะกลายเป็นพื้นที่ปฏิบัติการ เพื่อยกระดับสินค้าและบริการ กระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ สร้างนวัตกรรม และพัฒนาทรัพยากรทางวัฒนธรรมในท้องถิ่นสู่ตลาดในระดับประเทศและระดับสากล

ขณะที่ น.ส.แพทองธาร ระบุว่า ความคิดสร้างสรรค์ คือ รากฐานสำคัญของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านทุนมนุษย์ ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ ที่กำลังจะจัดตั้งขึ้นในพื้นที่ 10 จังหวัดที่กล่าวมาข้างต้น จึงเป็นแหล่งบ่มเพาะความคิดสร้างสรรค์ของคนไทย

หากย้อนกลับไป เมื่อ 18ปีก่อน พรรคเพื่อไทย มีโอกาสเป็นส่วนหนึ่ง ในการผลักดันก่อตั้ง ’ ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ ในกรุงเทพมาหนคร เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากและเปิดพื้นที่ให้ผู้ประกอบการ SMEs สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มด้วยความคิดสร้างสรรค์ได้ ครั้งนี้ก็เช่นกัน เราจะวางรากฐานเศรษฐกิจสร้างสรรค์ในพื้นที่ต่างจังหวัด ซึ่งการดำเนินการตั้งศูนย์ฯ ก็สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล ด้าน 1 ครอบครัว 1 Soft Power หรือ OFOS ที่จะช่วยสร้างประโยชน์ให้กับประชาชนทั่วประเทศ

สำหรับ เศรษฐกิจสร้างสรรค์ของไทยในช่วงที่ผ่านมา  มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง แม้จะสะดุดไปบ้างจากสถานการณ์โควิด แต่ปัจจุบันก็เริ่มกลับมาเติบโตตามหนทางที่ควรจะเป็น โดยมีสัดส่วนมูลค่าเพิ่มรวมของอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ หรือ Gross Value Added (GVA) อยู่ที่ร้อยละ 6.81 ต่อจีดีพีประเทศ สร้างการจ้างงานราว 9.6 แสนคน

Back to top button