โบรกมองกลุ่ม “ดิจิทัล ทรานส์ฟอร์มฯ” กำไรครึ่งปีหลังฟื้นแกร่ง ชู BE8 เด่นสุด!

โบรกมองกลุ่ม “digital transformation” กำไรครึ่งหลังปี 67 ฟื้นตัวแกร่ง มองค่าใช้จ่ายด้านไอทีกลุ่มธนาคารจะช่วยหนุนความต้องการ ชู BE8 เด่นสุด! โดยยังคงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายที่ 25.70 บาท

28 มิ.ย. 2567

บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ว่า กำไรปกติรวมของกลุ่มหุ้นที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยี ได้แก่ บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ BBIK, บริษัท เบริล 8 พลัส จำกัด (มหาชน) หรือ BE8 และบริษัท ไอแอนด์ไอ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ IIG ในไตรมาส 1/2567 อยู่ที่ 76 ล้านบาท ลดลง 13% จากไตรมาสก่อนหน้า และลดลง 15% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดยกำไรปกติที่ลดลงเชิงจากไตรมาสก่อนหน้า เกิดจากปัจจัยตามฤดูกาล ส่งผลให้รายได้ลดลงในระหว่างงวด ขณะที่กำไรปกติที่ลดลงเชิงเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน เป็นผลมาจากอัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A) ต่อรายได้ที่สูงขึ้น ทำให้อัตรากำไรปกติลดลง

ทั้งนี้ คาดการณ์กำไรของกลุ่มธุรกิจที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยีในครึ่งแรกของปี 2567 จะอ่อนแอที่ 175 ล้านบาท ลดลง 3% เมื่อเทียบกับครึ่งปีก่อน แต่เพิ่มขึ้น 2% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน แต่ยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มครึ่งหลังของปี 2567

โดยประมาณการกำไรปกติรวมที่ 402 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 130% เมื่อเทียบกับครึ่งปีก่อน และ 122% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ซึ่งคาดการณ์ว่าการใช้จ่ายด้านไอทีของกลุ่มธนาคารจะช่วยหนุนความต้องการด้าน digital transformation ในช่วงปี 2567-2569 และคาดการณ์ว่ามีการใช้จ่ายด้านไอทีจะสูงถึง 7 หมื่นล้านบาทในปี 2569 หรือมีเติบโตเฉลี่ย (CAGR) ที่ 15% ระหว่างปี 2567-2569

สำหรับกลุ่มที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยีต้องเผชิญความท้าทายตั้งแต่ช่วงไตรมาส 4/2566 จากการหายไปของงานภาครัฐจากการอนุมัติงบประมาณประจำปี 2567 ของรัฐบาลชุดใหม่เกิดความล่าช้า นอกจากงานภาครัฐแล้ว ยังเห็นการชะลอตัวของการลงทุนภาคเอกชนในภาคไอที เนื่องจากลูกค้าบางรายได้ประกาศเลื่อนการประกาศผลการประมูลโครงการ ซึ่งส่งผลให้งานในมือ (Backlog) เพิ่มขึ้นค่อนข้างช้าในช่วงไตรมาส 4/2566 ไปจนถึงไตรมาส 1/2567

ดังนั้น คาดการณ์ว่ากำไรจะฟื้นตัวอย่างช้าๆ ในไตรมาส 2/2567 ขณะที่คาดการณ์ว่ากำไรจะฟื้นตัวอย่างชัดเจนในครึ่งหลังของปี 2567 โดยเลือก BE8 เป็นหุ้นเด่นของเรา เนื่องจากคาดการณ์ว่ากำไรจะได้ผ่านจุดต่ำสุดแล้วในไตรมาส 1/2567 และคาดการณ์ว่าจะฟื้นตัวในไตรมาส 2/2567 โดยยังคงแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายที่ 25.70 บาท