ส่อง 5 หุ้นกลุ่มเทคฯ mai กำไรแกร่ง พ่วงแนวโน้มแจ่มปี 67

เปิดโผ “หุ้นเทคโนโลยี” กลุ่ม mai โค้งแรกปี 67 ฟันรายได้รวม 6,994 ล้านบาท ฟาดกำไร 397 ล้านบาท ส่วนใหญ่เติบโตจากช่วงเดียวกันปีก่อน พบ BBIK กำไรมากสุด 69 ล้านบาท ขณะที่ NAT เปลี่ยนแปลงโตสูงสุดถึง 271% อุตสาหกรรมขาขึ้น งานเข้ารัว พร้อมจับตาแนวโน้มช่วงที่เหลือของปีดีต่อเนื่อง หลายบริษัทมุ่งหน้าทำสถิติใหม่


ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน (บจ.) กลุ่มเทคโนโลยี ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ณ สิ้นไตรมาส 1/2567 จำนวน 22 บริษัท มีรายได้รวม 6,994 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 6,250 ล้านบาท โดยมี 12 บริษัทที่มีรายได้เพิ่มขึ้นตั้งแต่ 1-113% และมี 10 บริษัทกำไรลดลง 4 – 51%

อย่างไรก็ตามกำไรสุทธิรวมของกลุ่มเทคฯ ไตรมาสแรกอยู่ที่ 397 ล้านบาท ลดลง 2% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรอยู่ที่ 406 ล้านบาท โดยมี 7 บจ.กำไรลดลงระดับ 20-73% ขณะที่มี 2 บจ.พลิกขาดทุน และ 1 บจ.ขาดทุนเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้พบว่ามี 11 บจ.กำไรเพิ่มขึ้นตั้งแต่ 1- 271% และ 1 บจ.ขาดทุนลดลง ซึ่งมี 6 บจ.กำไรเติบโตจากช่วงเดียวกันปีก่อนมากกว่า 50% โดยส่วนใหญ่มาจากฐานต่ำในไตรมาส 1/2566

ทั้งนี้พบว่า 5 บจ.กลุ่มเทคฯ ที่มีกำไรสุทธิสูงสุด ณ ไตรมาส 1/2567 สามารถทำได้ระดับ 41 – 69 ล้านบาท จากรายได้ระดับ 131-730 ล้านบาท ประกอบด้วย

บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ BBIK มีกำไรสูงสุดกลุ่มเทคฯ โดยอยู่ที่ 69 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 58 ล้านบาท ขณะที่มีรายได้ 372 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อนมีรายได้ 267 ล้านบาท

ส่วนบริษัท แนท แอบโซลูท เทคโนโลยีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ NAT มีกำไรเติบโตเปลี่ยนแปลงสูงสุดของกลุ่มฯ ระดับ 271% ซึ่งมีกำไรอยู่ที่ 55 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 15 ล้านบาท ขณะเดียวกันเป็นบริษัทที่รายได้เติบโตสูงสุดของกลุ่มฯ ในไตรมาสนี้อีกด้วย ทำได้ 731 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 113% จากช่วงเดียวกันปีก่อน 344 ล้านบาท

ขณะที่ บริษัท เอ็นฟอร์ซ ซีเคียว จำกัด (มหาชน) หรือ SECURE มีรายได้ 348 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 41 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันปีก่อน 38% และ 50% ตามลำดับ

บริษัท เน็ตเบย์ จำกัด (มหาชน) หรือ NETBAY มีรายได้ 131 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 47 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันปีก่อน 5% และ 1% ตามลำดับ

บริษัท ซิลิคอน คราฟท์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SICT ที่แม้จะเป็น 1 ใน 5 บริษัทกำไรสูงสุดกลุ่มเทคฯ แต่หากเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน อัตราการเติบโตจะลดลง โดยมีรายได้ 211 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 48 ล้านบาท ลดลง 4% และ 20% ตามลำดับ

ด้านนายพชร อารยะการกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  BBIK มั่นใจว่าผลประกอบการปีนี้จะเดินหน้าทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยบวกจากการเบิกจ่ายงบประมาณและแผนกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ การขยายตัวของภาคการท่องเที่ยวและการส่งออก ผนวกกับความต้องการใช้เทคโนโลยีเพื่อสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันและลดต้นทุนในระยะยาวยังคงโตต่อเนื่อง ส่งผลให้การลงทุนด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมในภาคธุรกิจมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นตามลำดับ

ทั้งนี้ ณ สิ้น มี.ค.67 มีมูลค่างานในมือ (Backlog) แล้ว 960 ล้านบาท โดยเตรียมรับรู้รายได้มากกว่า 510 ล้านบาทในปีนี้ และที่เหลือจะทยอยรับรู้ในปี 68-71 สำหรับส่วนของบริษัทร่วมทุนคาดว่าจะรับรู้รายได้ทั้งหมดในปีนี้

โดยเช่นเดียวกับ นายสุธี อภิชนรัตนกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร NAT เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานปีนี้จะสามารถทำสถิติใหม่ได้ตามแผน โดยตั้งเป้ารายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 30% ซึ่งที่ผ่านมาได้ขยายกลุ่มลูกค้าเพิ่มมากขึ้น เช่น กลุ่มพลังงาน กลุ่มธนาคารและสถาบันการเงิน และกลุ่มโลจิสติกส์ รวมถึงการเสริมด้านบุคลากรทั้งด้านวิศวกรรม การขายและการบริหารจัดการโครงการ เพื่อรองรับ การเติบโตของบริษัทในอนาคต

ขณะเดียวกันบริษัทยังมุ่งเน้นการเติบโตของกลุ่มผลิตภัณฑ์ตามเทรนด์ในอนาคต ได้แก่ Cyber security, Al & Generative Al, Software Development, Data Analytic เป็นต้น รวมถึงในอนาคตบริษัทยังมีแผนในการลงทุนธุรกิจเกี่ยวกับพลังงาน

ณ วันที่ 31 มี.ค.67 มีงานโครงการและบริการที่ได้รับคำสั่งซื้อจากลูกค้าแล้วแต่ยังไม่ได้ส่งมอบแก่ลูกค้า (Backlog) จำนวน 479.54 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ปีนี้ 80-90% พร้อมกันนี้มีการเจรจากับลูกค้าเพื่อเพิ่มเติม Backlog ต่อเนื่อง โดยจะปิดดีลเพิ่มทุก 3-4 เดือน

ขณะที่นายนักรบ เนียมนามธรรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SECURE กล่าวว่าแนวโน้มรายได้ปีนี้เติบโต 15-20% หนุนโดย อุตสาหกรรมไอทีที่เติบโตต่อเนื่อง ขณะที่การเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐจะช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายได้เป็นอย่างดีตั้งแต่กลางปีนี้ไปจนถึงครึ่งปีหลัง ขณะที่มองว่าการลงทุนระบบซีเคียวริตี้ยังคงจะเกิดขึ้นต่อเนื่อง ตามเทรนด์เทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งบริษัทยังให้ความสำคัญกับงานบริการหรือเซอร์วิส โดยบริษัทเดินหน้าพัฒนาแพลตฟอร์มระบบซีเคียวริตี้ เพื่อให้บริการลูกค้า ซึ่งลูกค้าไม่จำเป็นต้องซื้อสิ่งของ หรืออุปกรณ์ เพียงสมัครบริการ เท่ากับลูกค้าจะได้ทั้งบริการและได้สินค้าไปในตัว

นอกจากนี้จะโฟกัสการบริการสู่สาธารณูปโภคมากขึ้น เพราะเป็นตลาดใหม่ และดีมานด์สูง รวมถึงการขยายตลาดเข้าสู่กลุ่มเครื่องจักรในโรงงานต่าง ๆ ปัจจุบันมีกระแสเรื่องการโจมตีสู่กลุ่มนี้เพิ่มขึ้น คาดดีมานด์จะดีดตัวสูงขึ้นเช่นเดียวกัน ส่วนลูกค้ากลุ่มเอ็นเตอร์ไพรส์ยังมีการใช้บริการอย่างสม่ำเสมอและไม่ติดปัญหาอะไร

Back to top button