SABUY คืนอ้อมอก AJA หลังร่วมแผนเพิ่มทุน 700 ล้านหุ้น ราคาพาร์ 1 บาท

SABUY เพิ่มทุนขาย PP ราคาพาร์ พ่วงแจกวอร์แรนต์ แลกเข้าถือหุ้น “ลอคบอกซ์” พร้อมชงที่ประชุมรับทราบถูก Force Sell ขณะที่ AJA รับแผนเพิ่มทุน 700 ล้านหุ้น จ่อขึ้นผู้ถือหุ้นใหญ่ เตรียมชงที่ประชุมผู้ถือหุ้นสามัญอนุมัติ 21ส.ค.นี้


นายวิรัช มรกตกาล ประธานเจ้าหน้าที่่บริหาร บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SABUY เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2567 ได้มีมติอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทจำนวนไม่เกิน 2,547,000,000 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิมจำนวน 2,032,076,706 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่จำนวน 4,579,076,706 บาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่จำนวนไม่เกิน 2,547,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท เพื่อเสนอขายแบบเฉพาะเจาะจงให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) โดยกำหนดราคาเสนอขายไว้อย่างชัดเจน และรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทที่จัดสรรให้แก่บุดคลในวงจำกัด (Private Placement) รองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทที่จัดสรรให้แก่ ให้แก่ กรรมการ, ผู้บริหารม และพนักงาน (ESOP-Warrant) และการแก้ไขเพิ่มเดิมหนังสือบริคณห์สนธิ เพื่อให้สอดคล้องกับการ เพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ

โดยที่ประชุมคณะกรรมการได้อนุมัติให้เสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท ดังนี้ 1.จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ จำนวน 1,610,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท ให้แก่บุคคลในวงจำกัด ในราคาเสนอขายหุ้นละ 1.00 บาท ซึ่งแบ่งออกเป็น หุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 500,000,000 หุ้น ให้แก่ นางสาวเกษรา โล่ห์ทองคำ และหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 700,000,000 หุ้น ให้แก่ บริษัท เอเจ แอดวานซ์เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ AJA, หุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 360,000,000 หุ้น ให้แก่ Holding L และหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 50,000,000 หุ้น ให้แก่ นายวริศ ยงสกุล และ 2. จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ จำนวน 850,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท เพื่อรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิฯ จำนวน 850,000,000 หน่วย โดยไม่คิดมูลค่า ให้แก่บุคคลในวงจำกัดในการนี้ รายการ PP เป็นการออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่ราดาหุ้นละ 1.00 บาท และรายการ SABUY-Warrant เป็นการออกและเสนอขายหุ้นรองรับใบสำคัญแสดงสิทธิที่ราดาหุ้นละ 1.20 บาทซึ่งถือเป็นการเสนอขายหุ้นที่ออกใหม่และหุ้นรองรับใบสำคัญแสดงสิทธิต่อบุคคลในวงจำกัดโดยผู้ถือหุ้นมีมติกำหนดราคาสนอขายไว้อย่างชัดเจนในราคาที่ไม่ต่ำกว่าราคาตลาด แต่เป็นการเสนอขายที่มีผลกระทบต่อส่วนแบ่งกำไร

โดยอนุมัติให้เสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น เพื่อพิจารณาอนุมัติการออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ ครั้งที่ 3 (SABUY-W3) ครั้งที่ 4 (SABUY-W4) และครั้งที่ 5 (SABUY-W5) รวมจำนวน 850,000,000 หน่วย ซึ่งคิดเป็นหุ้นสามัญที่จัดสรรไว้เพื่อรองรับการใช้สิทธิจำนวนไม่เกิน 850,000,000 หุ้น เพื่อจัดสรรให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) และมีอัตราการใช้สิทธิ 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิฯ ต่อ 1 หุ้นสามัญ โดยใบสำคัญแสดงสิทธิฯ จะมีอายุ 2 ปีนับแต่วันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิฯและมีราคาใช้สิทธิเท่ากับ 1.20 บาทต่อหุ้น (“รายการ SABUY-Warrant”) จัดสรร ให้แก่ (1) นางสาวเกษรา โล่ห์ทองคำ หรือนิติบุคคลที่ถือหุ้นเป็นสัดส่วนใหญ่ หรือมีอำนาจควบคุม จำนวน 250,000,000 หน่วย โดยไม่คิดมูลค่า ควบคู่กันกับหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ จำนวน 500,000,000 หุ้นที่ นางสาวเกษรา จะจองซื้อและได้รับจัดสรร (“รายการ SABUY-W3”)

(2) นายวริศ ยงสกุล จำนวน จำนวน 50,000,000 หน่วย โดยไม่คิดมูลค่าควบคู่กันกับหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ จำนวน 50,000,000 หุ้นที่ นายวริศจะจองซื้อและได้รับจัดสรร (“รายการ SABUY-W4”)

(3) นายชัชวาลย์ เจียรวนนท์ จำนวน 550,000,000 หน่วย โดยไม่คิดมูลค่า (“รายการSABUY-W5”)

ทั้งนี้ใบสำคัญแสดงสิทธิฯ ดังกล่าวจะไม่ได้เข้าจดทะเบียนเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (“ตลาดหลักทรัพย์ฯ” และเมื่อเปรียบเทียบราคาตลาด และราคาเสนอขายหุ้นรองรับใบสำคัญแสดงสิทธิฯ การเสนอขายใบสำคัญสดงสิทธิฯ ไม่เข้าข่ายเป็นการเสนอขายหลักทรัพย์ที่ออกใหม่ในราคาต่ำกว่าราคาตลาด โดยราคาตลาด หมายถึง ราคาซื้อขายถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของหุ้นสามัญของบริษัทฯ ในตลาดหลักทรัพย์ฯย้อนหลัง 7 วันทำการติดต่อกันก่อนวันที่คณะกรรมการบริษัทมีมติให้เสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้น กล่าวคือ ระหว่างวันที่ 10 – 28 มิถุนายน 2567 ซึ่งเท่ากับ 0.8519 บาทต่อหุ้น

นอกจากนี้ให้เสนอต่อที่ประชุมเพื่อพิจารณาอนุมัติลดทุนจำนวนไม่เกิน 76,233,985 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิมจำนวน 2,108,310,691 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่จำนวน 2,032,076,706 บาท โดยการตัดหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 76,233,985 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท เนื่องจากเป็นหุ้นที่จัดสรรไว้เพื่อรองรับการแปลงสภาพของ SABUY-W1 ,SABUY-WA และ SABUY-WB ที่หมดอายุการใช้สิทธิ และ SABUY-WC ที่ยกเลิกและไม่ได้มีการจัดสรร

ขณะเดียวกันให้เสนอต่อที่ประชุมเพื่อพิจารณาการเข้าซื้อหุ้นสามัญบริษัท ลอคบอกซ์ กรุ๊ป จำกัด (“LOCKBOX”) จำนวนไม่เกิน 30,000 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 80.0 ของทุนจดทะเบียน  และการเข้าลงทุนในหุ้นสามัญในบริษัท ลอคบอกซ์ เวนเจอร์ จำกัด(“LOCKVENT”) จำนวนไม่เกิน 50,000 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 80.0 ของทุนจดทะเบียนโดยชำระเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ  โดยบริษัทฯ จะชำระค่าตอบแทนจำนวนไม่เกิน 360,000,000 บาทด้วยหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ จำนวน ไม่เกิน 360,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาทในราคาเสนอขายหุ้นละ 1 บาท ให้แก่บริษัทจํากัด (“Holding L”) ซึ่งจะจัดตั้งขึ้นภายใต้กฎหมายไทยโดยให้เป็นไปตามเงื่อนไขของกระบวนการทำ EBT ตามประมวลรัษฎากรโดยผู้ถือหุ้นของ Holding L เป็นผู้ถือหุ้นเดิมของ LOCKBOX และ LOCKVENT เนื่องจากเป็นการเข้าทำรายการกับผู้ที่จะได้รับการเสนอให้เป็นกรรมการหรือผู้บริหารหรือผู้มีอำนาจควบคุมรวมทั้งผู้เกี่ยวข้องและญาติสนิทของบุคคลดังกล่าว ซึ่งได้แก่ นายอิทธิชัย พูลวรลักษณ์ ซึ่งจะเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน Holding L และได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้บริหารของบริษัทฯภายหลังจากการเพิ่มทุนแล้วเสร็จ

นอกจากนี้ให้เสนอต่อที่ประชุมเพื่อพิจารณารับทราบการถูกบังคับขาย (Force Sell) หุ้น SBNEXT จำนวน 34,858,700 หุ้น และ AS จำนวน49,774,264 หุ้น รวมมูลค่า 296,295,166 บาท เพื่อเป็นการลดภาระหนี้ของบริษัทฯ เนื่องจากบริษัทฯ ได้มีการนำหุ้น SBNEXT และ AS ไปวางเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันในบัญชีเงินกู้ยืมเพื่อซื้อขายหลักทรัพย์ (Margin Loan)กับบริษัทหลักทรัพย์

ทั้งนี้ที่ประชุมคณะกรรมมีมติอนุมัติให้เรียกประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นในรูปแบบการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (E-EGM) เพียงรูปแบบเดียวเท่านั้น โดยกำหนดวันประชุมในวันที่ 21 สิงหาคม 2567 และพิจารณากำหนดให้วันที่ 19 กรกฎาคม 2567 เป็นวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิเข้าร่วมประชุมและออกเสียงลงคะแนนการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น

Back to top button