EA แตกไลน์ธุรกิจใหม่! “นิวเอสเคิร์ฟ” ลุยเชื้อเพลิงอากาศยานชีวภาพ

EA แตกไลน์ธุรกิจใหม่! “นิวเอสเคิร์ฟ” จากธุรกิจแบตเตอรี่ และยานยนต์ไฟฟ้า เดินหน้าลุยเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืนจากน้ำมันพืชปรุงอาหารที่ใช้แล้ว มีกำลังการผลิต 100,000 ลิตรต่อวัน คาดว่าสามารถผลิตได้ในไตรมาส 3/67


นายสมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA เปิดเผยว่า บริษัทได้เตรียมแผนรองรับโดยการขับเคลื่อนธุรกิจไปในทิศทางที่สอดคล้องกับเมกะเทรนด์โลก ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนด้านแบตเตอรี่และยานยนต์ไฟฟ้า รวมถึงการหาโครงการลงทุนใหม่เพื่อสร้างรายได้อื่นๆ เพิ่มเติม จากการขยายการลงทุนธุรกิจโรงไฟฟ้าทั้งใน และต่างประเทศด้วย

ทั้งนี้ช่วงที่ผ่านมาก็ได้มีการขยายการลงทุนโรงไฟฟ้าขยะในจังหวัดภูเก็ตขนาด 9.9 เมกะวัตต์ คาดว่าจะสร้างเสร็จภายในปี 2569 ขณะเดียวกันยังได้มีการเซ็น PPP ตั้งศูนย์จัดการขยะบนพื้นที่เกาะล้าน โดยมีสัญญาระยะ 5 ปี ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการทำงานเชิงรุกที่มีต่อเนื่อง

ขณะเดียวกันบริษัทมียังมี Product Champions อาทิ การจับมือพันธมิตรแตกไลน์เข้าสู่ธุรกิจเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน (Sustainable Aviation Fuel : SAF), ความร่วมมือกับ CRRC Dalian ซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่ผู้นำธุรกิจรถไฟความเร็วสูงของจีน ร่วมผลิตหัวรถจักรไฟฟ้า, เป็นผู้นำด้านการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่ (Commercial EV) และสถานีชาร์จของบริษัทได้รับการจดสิทธิบัตร Ultra-fast charge ในระดับโลก มีหัวชาร์จมากกว่า 2,000 จุดครอบคลุมทุกภูมิภาคของประเทศ

นอกจากนี้บริษัทยังได้ร่วมมือกับ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT และบริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BAFS ในการตั้งโรงงานผลิต SAF หรือเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืนจากน้ำมันพืชปรุงอาหารที่ใช้แล้ว มีกำลังการผลิต 100,000 ลิตรต่อวัน คาดว่าจะเสร็จและสามารถผลิตได้ในไตรมาส 3 ปี 2567

ส่วนด้านรถโดยสารไฟฟ้าของบริษัท ไทยสมายบัส จำนวน 2,000 คัน ได้ให้บริการมีผู้โดยสารใช้บริการมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉลี่ยจำนวนผู้โดยสารขณะนี้ประมาณ 350,000 คน/วัน เชื่อว่าภายใน 1 ปีจะสามารถถึงจุดคุ้มทุนได้

ทั้งนี้ในส่วนของธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ NEX ถือเป็นผู้นำตลาดของเมืองไทยที่มีคู่ค้า พันธมิตร ทั้งภาคเอกชน ภาครัฐ ให้การยอมรับ และพร้อมที่จะมาซื้อรถยนต์ไฟฟ้าและใช้บริการของ NEX และขอยืนยันว่า EA ได้เตรียมเงินสดไว้เพียงพอสำหรับการเพิ่มทุนของ NEX ในครั้งนี้ เพื่อช่วยให้ NEX มีฐานทุนที่แข็งแรงสำหรับการขยายธุรกิจ เพื่อสร้างการเติบโตในอนาคตต่อไปได้

ส่วนธุรกิจต่างประเทศได้ขยายธุรกิจไปยัง สปป.ลาว โดยตั้งบริษัทซุปเปอร์โฮลดิ้งร่วมกับรัฐบาลลาว ซึ่งจะไปเป็นตัวแทนจัดจำหน่ายไฟฟ้าที่ผลิตจากเขื่อนของลาว ทำให้มีรายได้ในส่วนนี้เข้ามามากขึ้น โดยจะมีการลงทุนประมาณ 200 ล้านดอลลาร์ และในเฟสแรกจะเริ่มลงทุนที่ 100 ล้านเหรียญในปีหน้า ซึ่งสามารถซื้อขายไฟฟ้าผ่าน ได้ 3,000 เมกะวัตต์ จากเขื่อนทั้งหมดที่มีกำลังการผลิต 7,000 เมกะวัตต์ ผ่านบริษัทซุปเปอร์โฮลดิ้ง

“ขณะเดียวได้เข้าไปลงทุนในประเทศจีน โดยจับมือกับ CRRC Dalian ซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่ผู้นำธุรกิจรถไฟความเร็วสูงของจีน ร่วมผลิตหัวรถจักรไฟฟ้า เป็นผู้นำด้านการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่ และสถานีชาร์จของบริษัทได้รับการจดสิทธิบัตร Altra-fast Charge ในระดับโลก มีหัวชาร์จมากกว่า 2,000 จุด ครอบคลุมทุกภูมิภาคของประเทศ” สมโภชน์ กล่าวทิ้งท้าย

Back to top button