เปิดโผ 13 หุ้น ราคาครึ่งปีแรก ทะยานกว่า 50%

ภาพรวมตลาดหุ้นไทยช่วงครึ่งแรกปี 2567 ที่ผ่านมา SET Index แกว่งตัวในลักษณะไซด์เวย์ดาวน์ลงมาปิดที่ระดับ 1,300.96 จุด (ณ วันที่ 28 มิ.ย. 2567) จากปิดสิ้นสุดวันที่ 28 ธ.ค. 2566 อยู่ที่ 1,415.85 จุด พบว่าปรับตัวลง 114.89 จุด หรือลงไป 8.11% ด้วยแรงกดดันจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังตรึงดอกเบี้ยในระดับสูง และในประเทศจากประเด็นการเมืองค่อยกดดันเป็นระยะๆ รวมทั้งนักลงทุนต่างชาติเทขายสุทธิออกมาอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ จากความไม่แน่นอนของสถานการณ์ภาคเศรษฐกิจและการเมืองไทยนั้น ส่งผลให้ดัชนีแกว่งตัวผันผวน โดยทำจุดสูงสุด 1,434.59 จุด และทำจุดต่ำสุด 1,296.59 จุด พร้อมด้วยมูลค่าการซื้อขายเบาบาง ซึ่งเฉลี่ยต่อวันประมาณ 43,466.44 ล้านบาท  ขณะที่มูลค่าสูงสุด 74,843.96 ล้านบาท ส่วนมูลค่าต่ำสุด 25,076.63 ล้านบาท

ส่วนการซื้อขายแยกตามกลุ่มผู้ลงทุนในช่วงครึ่งแรกปี 2567 กับพบว่า นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิมากถึง 117,031.49 ล้านบาท ตามด้วยโบรกเกอร์ขายสุทธิจำนวน 789 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนรายย่อยซื้อสุทธิต่อเนื่อง 113,804.81 ล้านบาท และกองทุนซื้อสุทธิจำนวน 4,015.68 ล้านบาท ตามลำดับ

ขณะที่ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้นกลุ่มบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ที่สามารถปรับตัวขึ้นชนะดัชนีได้อย่างแข็งแกร่งช่วงครึ่งปีแรก โดยราคาหุ้นปรับตัวขึ้นกว่า 50% ได้แก่ CCET, WPH, PORT, TRUE, TPOLY, COCOCO, SRICHA, NSL, GREEN, PRM, BBGI, STGT และ JCK

บริษัท แคล-คอมพ์ อีเล็คโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ CCET  โดยราคาปิด ณ วันที่ 28 ธ.ค. 2566 ที่ระดับ 2.08 บาท ขณะที่ราคา ปิด ณ วันที่ 28 มิ.ย. 2567 ที่ระดับ 3.92 บาท เพิ่มขึ้น 1.84  บาท หรือ 88.46% สะท้อนจากปัจจัยบวกของผลการดำเนินงานไตรมาสแรกเติบโตอย่างแข็งแกร่งทั้งไตรมาสก่อนหน้า และจากงวดเดียวของปีก่อน พร้อมกับมองไปไตรมาส 2/2567 คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นจากยอดขายรถยนต์ในยุโรปและจีนจะปรับดีขึ้นเมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อนและคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) จะเพิ่มขึ้นจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่า แม้ว่าราคาทองแดงจะสูงขึ้นก็ตาม

ขณะเดียวกันในส่วนของโรงงานแห่งใหม่ในมหาชัยและ จ.เพชรบุรี คาดจะเริ่มดำเนินการได้ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2567 เน้นผลิตสินค้ามาร์จิ้นสูงรับออเดอร์ต่างประเทศ และบริษัทฯ ได้เปิดตัวความต้องการใหม่ๆมากขึ้น สำหรับประเภทผลิตภัณฑ์ เช่น Laser Printer, SSD, EV Charger, AI Server และ Wearable Device และอื่นๆ ดังนั้นบริษัทฯ จึงเชื่อว่าแนวโน้มธุรกิจช่วงครึ่งปีหลังมีทิศทางสดใส รับอานิสงส์โรงงานตั้งอยู่ในพื้นที่ Free Trade Zone อีกทั้งยังได้รับสิทธิประโยชน์ยกเว้นภาษี BOI ขณะที่ปัจจุบันฐานทุนแกร่ง หลังระดมทุนลดภาระดอกเบี้ยไปได้มาก สนับสนุนผลงานปี 67 เติบโตก้าวกระโดด

บริษัท โรงพยาบาลวัฒนแพทย์ ตรัง จำกัด (มหาชน) หรือ WPH โดยราคาปิด ณ วันที่ 28 ธ.ค. 2566 ที่ระดับ 6.85 บาท ขณะที่ราคา ปิด ณ วันที่ 28 มิ.ย. 2567 ที่ระดับ 12.30 บาท เพิ่มขึ้น 5.45  บาท หรือ 79.56% สะท้อนจากผลการดำเนินงานไตรมาสแรกเติบโตก้าวกระโดด ประกอบกับ นายเชน เหล่าสุนทร รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยว่า ภาพรวมการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งหลังของปี 67 ธุรกิจมีแนวโน้มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากปัจจัยสนับสนุนด้านจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมาก ขณะที่ทำเลที่ตั้งโรงพยาบาลอยู่ในแหล่งท่องเที่ยวหลัก ทำให้มีจำนวนผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นในทุกช่องทาง รวมถึงบริษัทฯ ได้เพิ่มศักยภาพด้านการแพทย์เฉพาะทาง และเพิ่มจำนวนห้อง ICU พร้อมตั้งเป้าปี 2567 รายได้รวมเติบโตกว่า 25%

บริษัท สหไทย เทอร์มินอล จำกัด (มหาชน) หรือ PORT  โดยราคาปิด ณ วันที่ 28 ธ.ค. 2566 ที่ระดับ 1.06 บาท ขณะที่ราคา ปิด ณ วันที่ 28 มิ.ย. 2567 ที่ระดับ 1.85 บาท เพิ่มขึ้น 0.79 บาท หรือ 74.53% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นตามสัญญาณเทคนิคอยู่ในช่วงขาขึ้น นอกจากนี้ในช่วงไตรมาสแรกผลการดำเนินงานออกมาเติบโตแข็งแกร่งช่วยหนุน

บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE โดยราคาปิด ณ วันที่ 28 ธ.ค. 2566 ที่ระดับ 5.05 บาท ขณะที่ราคา ปิด ณ วันที่ 28 มิ.ย. 2567 ที่ระดับ 8.75 บาท เพิ่มขึ้น 3.70 บาท หรือ 73.27% ซึ่งเก็งกำไรตามสัญญาณเทคนิคที่เป็นขาขึ้น หลังรับอานิสงส์จากรายได้รวมของปี 2566 ประกอบกับไตรมาสแรกเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง สะท้อนด้วยโบรกเกอร์มีการอัพราคาเป้าหมายใหม่ขึ้นช่วยหนุนอีกด้วย

 บริษัท ไทยโพลีคอนส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TPOLY โดยราคาปิด ณ วันที่ 28 ธ.ค. 2566 ที่ระดับ 0.62 บาท ขณะที่ราคา ปิด ณ วันที่ 28 มิ.ย. 2567 ที่ระดับ 1.07 บาท เพิ่มขึ้น 0.45 บาท หรือ 72.58% สะท้อนจากบริษัทฯคว้างานใหม่เข้ามาอย่างต่อเนื่องช่วยหนุนแบ็กล็อกหนุนรายได้เติบโตขึ้น

ส่วนรายละเอียดความเคลื่อนไหวของตัวอื่นๆ ดูจากตารางประกอบ