“มาริษ” เยือนกัมพูชา ยกระดับเศรษฐกิจสองประเทศ
มาริศ เผย บินเยือน กัมพูชา - จีน - ฟิลิปปินส์ หวังยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ มอบหมายกระทรวงต่างประเทศ รายงานผลการเจรจา 4 ก.ค.นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ ( 3 ก.ค.67 ) นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยกับ ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์ ว่า ช่วงเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา ได้เดินทางเยือนกัมพูชา ซึ่งได้มีการเข้าเยี่ยมคาราวะ สมเด็จมหาบวรธิบดี ฮุน มาแนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สมเด็จอัคคมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน ประธานวุฒิสภา มีการหารือเต็มคณะกับ นายซก เจินดาโซเพีย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศ รวมถึงพบปะกับนักธุรกิจไทยในกัมพูชาและทีมประเทศไทยในกัมพูชา
นายมาริษ ยังได้เปิดเผยถึง แผนการยกระดับทางเศรษฐกิจระหว่างสองประเทศด้วยว่า เราต้องการจะบรรลุเป้าหมายด้านการค้าให้เพิ่มขึ้นเป็น 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ จากที่ประมาณ 8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปัจจุบัน ซึ่งท่านซก เจินดา ก็เห็นด้วยกับเป้าดังกล่าว แม้ว่าเราจะต้องทำงานหนักขึ้นแต่ก็ไม่ได้ยากจนเกินไป นอกเหนือจากตัวเลขแล้วเราต้องทำให้มั่นใจว่า ตัวเลขนี้จะสะท้อนถึงความเจริญรุ่งเรืองของทั้งสองประเทศอย่างเป็นธรรมด้วย เพราะเราสามารถที่จะวิน-วินด้วยกัน ผมอยากเห็นการค้าและการลงทุนมันไปด้วยกัน เพราะเป็นยุทธศาสตร์หนึ่งที่เราได้คุยกัน ซึ่งภาคเอกชนไทยก็มีบทบาทอย่างมาก
นอกจากนี้ ยังมีการพูดถึงอำนวยความสะดวกในการข้ามแดนทั้งคนและสินค้าอย่างไร้รอยต่อ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมธุรกิจการท่องเที่ยวระหว่างกัน ไทยพร้อมร่วมกันโปรโมทให้นักท่องเที่ยวเดินทางข้ามแดนเพื่อไปท่องเที่ยวในกัมพูชาด้วย กัมพูชายังขอบคุณที่ไทยขยายเวลาให้คนกัมพูชาสามารถเข้าไทยโดยไม่ต้องขอวีซ่า 60 วัน ซึ่งจะอำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่เข้ามารักษาตัวในไทย เมื่อเรามีความร่วมมือใกล้ชิด ความสัมพันธ์จะหยั่งรากลึกมากขึ้น มันจะช่วยกระตุ้นทั้งด้านเศรษฐกิจและการรวมตัวกันของประชาชนต่อประชาชนให้ยั่งยืนมากยิ่งขึ้นด้วย
พร้อมกับยังมีการพูดถึงอำนวยความสะดวกในการข้ามแดนทั้งคนและสินค้าอย่างไร้รอยต่อ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมธุรกิจการท่องเที่ยวระหว่างกัน ไทยพร้อมร่วมกันโปรโมทให้นักท่องเที่ยวเดินทางข้ามแดนเพื่อไปท่องเที่ยวในกัมพูชาด้วย กัมพูชายังขอบคุณที่ไทยขยายเวลาให้คนกัมพูชาสามารถเข้าไทยโดยไม่ต้องขอวีซ่า 60 วัน ซึ่งจะอำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่เข้ามารักษาตัวในไทย เมื่อเรามีความร่วมมือใกล้ชิด ความสัมพันธ์จะหยั่งรากลึกมากขึ้น มันจะช่วยกระตุ้นทั้งด้านเศรษฐกิจและการรวมตัวกันของประชาชนต่อประชาชนให้ยั่งยืนมากยิ่งขึ้นด้วย
“ในเดือนกรกฎาคมนี้ จะมีการเดินทางหารือพัฒนาเศรษฐกิจระหว่างประเทศ อีกหลายประเทศ เช่น การเยือนประเทศฟิลิปปินส์ , การเยือนประเทศจีน เป็นต้น ซึ่งตนได้มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศ จัดแถลงข่าวรายงานผลการดำเนินงาน ภายในพฤหัสบดีนี้ ( 4 ก.ค.67 )” นายมาริษ กล่าวทิ้งท้าย