FM โรดโชว์ฉลุย! ชูปันผลเด่น เร่งดันธุรกิจติด Top 5 ไทย ผู้ถือหุ้นใหญ่ย้ำ “ล็อกอัพ 100%”

FM ตั้งเป้า 3-5 ปีขึ้นท็อป 5 ผู้ผลิต-ส่งออกไก่แปรรูปในประเทศไทย ลุยนำเงินระดมทุนเพิ่มกำลังผลิต 30% กางแผนลงทุนธุรกิจใหม่เกี่ยวกับอาหารสัตว์ หวังดันรายได้-กำไรโตมั่นคง พร้อมชูเป็นหุ้นเติบโตและปันผลเด่น


นายณัฐพล ดุษฎีโหนด ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟู้ดโมเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ FM เปิดเผยว่า แผนธุรกิจในช่วง 3-5 ปีข้างหน้านี้ บริษัทตั้งเป้าหมายจะเป็นผู้ผลิตและส่งออกไก่แปรรูปปรุงสุก Top 5 ของประเทศไทย จากปัจจุบันติด TOP 10 ของประเทศ โดยมีแผนในการนำเงินที่ได้จากการระดมทุนขายไอพีโอครั้งนี้มาใช้ในการปรับปรุงประสิทธิภาพโรงชำแหละไก่ และเพิ่มกำลังการผลิตของโรงงานไก่แปรรูปปรุงสุก พร้อมตั้งเป้าหมายกำลังการผลิตไก่แปรรูปปรุงสุกจะเพิ่มขึ้นอีก 30%

สำหรับกลยุทธ์ในการรักษาลูกค้านั้น บริษัทเน้นการพัฒนาสินค้าใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าได้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าตนเองได้อีกทอดหนึ่ง นอกจากนี้ บริษัทที่เป็นลูกค้าส่วนใหญ่เป็นจัดอยู่ในประเภทพรีเมียม และจะมีการตรวจสอบมาตรฐานก่อนเข้าทำสัญญา ซึ่งสัญญาดังกล่าวจะเป็นสัญญาระยะยาว

“การเข้าจดทะเบียนใน SET นับเป็นก้าวที่สำคัญในการต่อยอดธุรกิจให้เติบโต ช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้าและพันธมิตร ตลอดจนสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ เพื่อการเติบโตอย่างมั่นคงและสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุน การที่ FM เป็นหนึ่งในธุรกิจด้านอาหารที่มีความโดดเด่นแตกต่างจากรายอื่น ด้วยการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ในการผลิต  มุ่งเน้นสินค้า CAV Product ซึ่งเป็นสินค้าที่มี Value-added และมีมาร์จิ้นสูง 

รวมถึงมีพื้นฐานทางด้านธุรกิจ และฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง ประกอบกับผลประกอบการเติบโตต่อเนื่องทุกปี โดยจาก 3 ปีที่ผ่านมาเติบโตเฉลี่ย 18% และเชื่อมั่นว่าจะรักษาการเติบโตในระดับนี้ต่อเนื่องไปในอนาคตได้ นอกจากนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าขึ้นเป็นหนึ่งในผู้นำการส่งออกไก่แปรรูป จึงมั่นใจว่าหุ้น FM จะได้รับความสนใจและการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน” นายณัฐพล กล่าว

นายสุเมธ มาสิลีรังสี ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน FM เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 67 คาดการณ์ว่าบริษัทสามารถสร้างการเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ ทั้งในส่วนของรายได้ และกำไร ส่วนแผนการเติบโตในอนาคต คาดการณ์ว่าจะเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง จากแผนการขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น 25-30% รวมถึงแผนการขยายไปธุรกิจใหม่ ซึ่งเป็นธุรกิจที่สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับบริษัท เช่นการนำโครงกระดูกไก่ และเครื่องในไก่มาเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตอาหารสัตว์เลี้ยง ซึ่ง 2 ธุรกิจนี้จะช่วยผลักดันธุรกิจให้เติบโตได้อย่างมั่นคง

โดยภายหลังจากการเข้าตลาดหุ้นไทย กลุ่มดุษฎีโหนด จะถือหุ้นรวมกัน 52% และสมัครใจในการล็อกอัพหุ้น 100% จึงอยากให้นักลงทุน รวมถึงผู้ที่สนใจในการลงทุนกับบริษัทมั่นใจได้ว่ากลุ่มครอบครัวที่มีประสบการในการบริหารธุรกิจมากว่า 47 ปี จะยังอยู่บริหารงานเพื่อสร้างเป้าหมายและการเติบโตได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว

“มองว่า FM เป็นทั้งหุ้นเติบโต และหุ้นปันผล เนื่องจากบริษัทมีการเติบโตมาอย่างต่อเนื่องทั้งในช่วงตอนเกิดสถานการณ์โควิด และในช่วงไตรมาส 1/67 ที่ผ่านมาบริษัทสามารถเติบโตได้ยิ่งกว่าเดิม นอกจากนี้บริษัทยังมีความสามารถในการบริหารสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจได้ดีจากตัวเลขที่ผ่านมา จึงมองว่ามีศักยภาพพอในการจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นได้” นายสุเมธ กล่าว

สำหรับโครงการในอนาคต ปัจจุบันมีการพูดคุยกับกลุ่มผู้ผลิตอาหารระดับโลก โดยแผนธุรกิจที่จะขยายในอนาคต ในส่วนของ FM ตั้งเป้าหมาย 3 ปี เพิ่มสัดส่วนของยอดขายสินค้าไก่แปรรูปปรุงสุกเป็น 60% ของรายได้รวมของกลุ่ม รวมถึงเพิ่มสัดส่วนรายได้จากการส่งออกเป็น 65% จากรายได้ของกลุ่มบริษัท

นางดาริน กาญจนะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออพท์เอเชีย แคปิตอล จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน เปิดเผยว่า FM เป็นบริษัทที่มีจุดเด่นด้านกระบวนการผลิตที่มีมาตรฐานในระดับสากล เป็นที่ยอมรับจากกลุ่มลูกค้า พรีเมี่ยมโดยเฉพาะผู้จัดจำหน่ายอาหาร รวมถึงร้านอาหารบริการด่วน (QSR) รายใหญ่ที่มีสาขาทั่วโลก และกลุ่มลูกค้าในประเทศที่มีกำลังซื้อสูง เช่น ประเทศญี่ปุ่น กลุ่มประเทศในสหภาพยุโรป และประเทศเกาหลีใต้ เป็นต้น มีทีมผู้บริหารที่มีความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม มีประสบการณ์ในธุรกิจยาวนานกว่า 40 ปี รวมถึงมีความมุ่งมั่นในการสร้างมูลค่าเพิ่มจากทุกชิ้นส่วนของไก่ เพื่อตอกย้ำนโยบาย Zero Waste และ Value Added เพื่อเพิ่มมาร์จิ้นอย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ FM มีแผนจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนครั้งแรก (IPO) จำนวน 376.96 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 2 บาท คิดเป็น 38.16% ของจำนวนหุ้นที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมด โดย FM จะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนดังกล่าวไปใช้ ไปใช้ในการขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นประมาณ 25-30% ลงทุนในธุรกิจเพื่อเพิ่มมูลค่าจากทุกชิ้นส่วนของไก่ สำหรับรองรับการเติบโตในอนาคต และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจและชำระคืนเงินกู้ยืม

สำหรับผลการดำเนินงาน 3 ปีย้อนหลัง (64-66) กลุ่มบริษัทฯ มีรายได้รวม 4,166.42 ล้านบาท 5,825.72 ล้านบาท และ 5,782.16 ล้านบาท ตามลำดับ และมีกำไรสุทธิ 183.72 ล้านบาท 840.67 ล้านบาท และ 254.69 ล้านบาท ตามลำดับ

ส่วนไตรมาส 1 ปี 67 บริษัทฯ มีรายได้รวม 1,749.21 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.65 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 1,417.39  ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิของบริษัทฯ อยู่ที่ 124.59 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 70.53% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าที่มีกำไรสุทธิ 73.06 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นจุดเด่นที่ทำให้นักลงทุนสนใจและให้การตอบรับที่ดี

Back to top button