โบรกแนะสอย 5 หุ้นเด่น รับเงิน “ดิจิทัล วอลเล็ต”

บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ วันนี้ (8 ก.ค.67) ถึงความชัดเจนนโยบายและความคืบหน้าโครงการ Digital Wallet ซึ่งมีกำหนดระยะเวลาที่ชัดเจนมากขึ้น โดยล่าสุด รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ให้กำหนดกรอบเวลาต่างๆ ดังนี้วันที่ 10 ก.ค.67 นำเข้าสู่ประชุมคณะอนุกรรมการฯ วันที่ 15 ก.ค. 67 ประชุมบอร์ด digital wallet ชุดใหญ่

ทั้งนี้ ในวันที่ 24 ก.ค.67 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เตรียมแถลงรายละเอียดของโครงการทั้งหมด และวันที่ 30 ก.ค.67 นำเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งคาดการณ์เริ่มดำเนินการแจกเงินให้ประชาชนได้ในช่วงไตรมาส 4/67

สำหรับโครงการดังกล่าวมีวงเงินดำเนินโครงการคงเดิมประมาณ 5 แสนล้านบาท ขณะที่กลุ่มสินค้าที่นำเงินดิจิตอลไปจับจ่ายได้เบื้องต้นสินค้าที่เป็นมือถือและอิเล็กทรอนิกส์มีความเป็นไปได้สูงที่จะถูกตัดออกจากโครงการ

อย่างไรก็ตามจากนโยบายดังกล่าวฝ่ายนักวิเคราะห์มีมุมมองบวกต่อ โดยโครงการ Digital Wallet ถือเป็นปัจจัยสำคัญต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) และกำไรกลุ่มธุรกิจภายในประเทศ (Domestic) ที่ตลาดยังไม่รวมในประมาณการ

ขณะที่มองหุ้นกลุ่ม Domestic มีโอกาสได้ประโยชน์ ได้แก่ กลุ่มค้าปลีก อาทิ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL ให้ราคาเป้าหมาย 80 บาท , บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) หรือ CPAXT ให้ราคาเป้าหมาย 39 , บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BJC ให้ราคาเป้าหมาย 33 บาท รวมไปถึงกลุ่มเครื่องดื่ม บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) หรือ OSP ให้ราคาเป้าหมาย 26 และกลุ่ม ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK ให้ราคาเป้าหมาย 145 บาท

นอกเหนือจากนี้แล้ว ยังแนะนำหุ้น ที่น่าจะได้รับประโยชน์เพิ่ม คือ บริษัท ธนพิริยะ จำกัด (มหาชน) หรือ TNP

บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ICHI รวมทั้ง กลุ่มเช่าซื้อ บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC สุดท้ายคือ กลุ่มธนาคาร ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB

โดยระยะสั้นกำหนดกรอบลงทุนทางเทคนิค ดังนี้ CPALL ให้แนวรับ 55.50-55 บาท แนวต้าน 57-58 บาท, CPAXT แนวรับ 28-27.5 บาท แนวต้าน 30-30.50 บาท, BJC แนวรับ 21.20-21 บาท แนวต้าน 22.2-23 บาท, OSP แนวรับ 23.30-23 บาท แนวต้าน 24.50-25 บาท และ KBANK วางแนวรับ 127-126 บาท แนวต้าน 132.50-135 บาท