KKPS ชี้ PTTEP กำไรไตรมาส 2 แตะ 2.17 หมื่นล้าน รับยอดขายพุ่ง!

KKPS ชี้ PTTEP กำไรไตรมาส 2/67 แตะ 2.17 หมื่นล้านบาท รับปริมาณขายพุ่ง 507,500 บาร์เรลต่อวัน จาากแหล่งเอราวัณ-ยาดานาหนุน ลุ้นดันกำไรปีนี้ทะลุ 8.37 หมื่นล้านบาท แนะซื้อเป้า 195.40 บาท  


บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) หรือ KKPS ระบุในบทวิเคราะห์ ว่าปัจจัยที่ดันบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน)  หรือ PTTEP ให้อยู่เหนือหุ้นอื่นๆในกลุ่มพลังงานก็คือกำไรของบริษัทที่อยู่ในระดับสูง และกำไรจากการดำเนินงานหลักหลังหักภาษี (Core NPAT) ที่มีเสถียรภาพ

โดยฝ่ายวิเคราะห์ชี้ให้เห็นว่าตั้งแต่ไตรมาส 1/65-ไตรมาส 1/67 Core NPAT เฉลี่ยอยู่ที่ 2.12 หมื่นล้านบาท/ไตรมาส และเคยขึ้นไปสูงสุดอยู่ที่ 2.63 หมื่นล้านบาทในไตรมาส 4/65 และต่ำสุดที่ 1.88 หมื่นล้านบาท ในไตรมาส 2/65 ซึ่ง KKPS คาดว่าแนวโน้มจะยังดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่า Core NPAT ในไตรมาส 2/67 จะอยู่ที่ 2.17 หมื่นล้านบาท

KKPS คาดว่า PTTEP จะบันทึกด้อยค่าจากแหล่ง Oliver ในออสเตรเลียรอบสุดท้ายอยู่ที่ 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยคาดว่าจะมีรายได้จากอัตราแลกเปลี่ยน (FX) ราว 30 ล้านดอลลาร์ มาช่วยชดเชยการด้อยค่านี้

ทั้งนี้ ฝ่ายวิเคราะห์ชี้ว่าการผลิตที่สูงขึ้นจากแหล่งเอราวัณ ในแอลจีเรีย และโครงการยาดานา จะช่วยผลักดันปริมาณยอดขายในไตรมาส 2/67 ขึ้น 7.3% เทียบไตรมาสก่อนหน้า แตะ 507,500 บาร์เรลต่อวัน อย่างไรก็ดียังมีปัจจัยลบจากการปิดซ่อมบำรุงของโรงผลิตในมาเลเซีย ซึ่งอาจจะส่งผลต่อปริมาณการผลิตของ PTTEP ราว 3% จากที่เคยคาดไว้ว่าจะอยู่ที่ราว 509,000 บาร์เรลต่อวัน แต่ราคาก๊าซที่สูงขึ้นในครึ่งปีหลังจะช่วยชดเชยในส่วนนี้ได้

นอกจากนั้นแล้ว ฝ่ายวิเคราะห์ยังระบุว่า PTTEP มีการเตรียมมาตรการแก้ไขไว้แล้วหากธนาคาร MEB ซึ่ง PTT ใช้ในการทำชำระเงินสำหรับการนำเข้าก๊าซ ถูกคว่ำบาตร

KKPS คาดว่า PTTEP จะรายงานกำไรสุทธิในปีนี้ที่ 8.37 หมื่นล้านบาท ซึ่งสูงกว่าปีก่อนหน้าที่ 7.67 หมื่นล้านบาท พร้อมทั้งคงคำแนะนำ ซื้อ เนื่องจากมีมูลค่าที่น่าลงทุน และมีอัตราปันผลตอบแทนที่สูง โดยให้ราคาเป้าหมายไว้ที่ 195.40 บาท

ขณะเดียวกัน CLSA คาดว่าจะเห็นการเติบโตของกำไรสุทธิใน PTTEP ในไตรมาส 2/67 เช่นกัน โดยจะอยู่ที่ 2.12 หมื่นล้านบาท (โต 13% เทียบไตรมาสก่อหน้า, โต 1% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน) โดยระบุถึงการที่ UN กล่าวโทษธนาคารพาณิชย์ในไทยว่าให้การช่วยเหลือรัฐบาลพม่า โดยคาดว่าจะไม่มีผลต่อการดำเนินงาน และธุรกรรมทั่วไปของธุรกิจ

อย่างไรก็ดี ฝ่ายวิเคราะห์คาดว่ายอดขายจะชะลอตัวลงในไตรมาส 3/67 จากการปิดซ่อมบำรุงในแหล่งบงกช เอราวัณ อาทิตย์ และ MTJDA นอกจากนั้นยังคาดว่าราคาก๊าซจะคงที่อยู่ที่ 5.9 เหรียญ/MMbtu เนื่องจากการปรับราคาของโครงการส่วนใหญ่มักจะเกิดขึ้นในเดือนตุลาคม

ฝ่ายวิเคราะห์ปรับลดราคาเป้าหมายจาก 170 บาท ลงเหลือ 165 บาท จากคาดการณ์ราคาน้ำมันที่ต่ำในปี 2568 อยู่ที่ 78 ดอลลาร์/บาร์เรล เมื่อเทียบกับของปีนี้ที่คาดว่าจะอยู่ที่ 80 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยมีอัตราปันผลตอบแทนอยู่ที่ 5.3% อย่างไรก็ดี ฝ่ายวิเคราะห์ยังระบุว่าความสามารถในการทำกำไรของบริษัทยังคงแข็งแกร่งในปีนี้ และปี 2568 จากยอดขายที่เติบโต และราคาน้ำมัน และก๊าซที่ยังอยู่ในระดับสูง

Back to top button