กกต.มีมติรับรอง สว. 200 คน และบัญชีสำรองอีก 99 คน

กกต.รับรองแล้ว 200 สว.ใหม่ และสำรอง 99 คน พร้อมให้รับหนังสือรับรอง 11-12 ก.ค.นี้ เพื่อนำไปรายงานตัวที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ ( 10 ก.ค.67 ) สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (สว.) มีมติรับรองคุณสมบัติสมาชิกวุฒิสภา จำนวน 200 คน และบัญชีสำรองอีก 100 คนแล้ว หลังมีการประชุมตั้งแต่ช่วงเวลา 09.00 น. และประชุมเสร็จ เวลา  14.30 น.

ล่าสุด  นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แถลงข่าวภายหลังประชุมเพื่อพิจารณาประกาศรับรองผลการเลือกสมาชิกวุฒิสภา และเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับกระบวนการเลือกสมาชิกวุฒิสภา ( สว.) โดยคณะกรรมการเลือกตั้งพิจารณาแล้วเห็นว่าการเลือก สว.เป็นไปด้วยความถูกต้องสุจริตเที่ยงธรรม จึงมีมติประกาศผลการรับรองสมาชิกสภาของแต่ละกลุ่ม ทั้ง 20 กลุ่ม ในลำดับ 1-10 ของแต่ละกลุ่มให้เป็น สว. เพื่อให้เปิดการประชุมวุฒิสภาได้ โดยให้รับหนังสือรับรองเพื่อเป็นหลักฐานในการรายงานต่อสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ระหว่างวันที่ 11-12 ก.ค.67 เวลา 08.30-16.30 น.

ส่วนลำดับที่ 1-15 ของแต่ละกลุ่ม จัดให้เป็นบัญชีสำรอง ยกเว้นกลุ่มที่ 18 ซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้งได้ให้ใบระงับชั่วคราว (ใบส้ม) แก่ผู้ที่ได้รับเลือก สว.จำนวน 1 คน ทำให้ผู้ที่ได้คะแนนเป็นลำดับที่ 11 ของกลุ่มที่ 18 ต้องเลื่อนขึ้นไปอยู่ลำดับที่ 10 เหลือบัญชีสำรองแค่ 4 คน

“ผู้ที่ได้รับเลือกเป็น สว. 200 คน และบัญชีสำรอง 100 คน ได้มีการตรวจสอบคุณสมบัติและรักษาต้องห้ามแล้ว ส่วนการใช้คุณสมบัติไปสมัครแต่ละกลุ่มด้านต่างๆ ไม่ใช่กลุ่มสาขาอาชีพ และในแต่ละกลุ่มของด้านมีคน 6 ลักษณะที่สามารถสมัครได้ โดยไม่ได้หมายถึงอาชีพอย่างเดียว มีทั้งเรื่องความรู้ ประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญ อาชีพ ลักษณะและประโยชน์ร่วมกัน รวมถึงการทำงานหรือเคยทำงานร่วมกันในด้านนั้น และมีผู้รับรอง ” นายแสวง กล่าว

เลขาธิการ กกต. สรุปในตอนท้ายว่า กกต. ได้มีมติเห็นชอบให้ประกาศผู้ได้เลือกครบทั้ง 200 คน เพื่อให้เปิดสภาได้ ส่วนสำรองจะเหลือ 99 คน

ส่วนความผิดเกี่ยวกับการดำเนินการในวันเลือก สว. นายแสวง เปิดเผยว่า มีสำนวน 3 สำนวน ได้พิจารณาเสร็จสิ้นแล้ว และมีคำร้องที่ยื่นต่อศาลฎีกา 18 คดีตามมาตรา 44 ซึ่งศาลฎีกายกคำร้องทั้งหมด และสุดท้ายกรณีเรื่องของการไม่สุจริตและเที่ยงธรรมมีอยู่ 47 เรื่อง หรือเรื่องที่สังคมเรียกว่าการจัดตั้ง การฮั้ว โดยสำนักงานรวบรวมพยานหลักฐานมาพอสมควร โดยลักษณะที่รวบรวมมา พบว่าเป็นกระบวนการที่ต้องใช้พยานหลักฐานในทางวิทยาศาสตร์มายืนยัน

ซึ่งลักษณะอาจทำเป็นกระบวนการที่ทำให้การเลือกตั้งเป็นไปไม่สุจริตและเที่ยงธรรม สำนักงาน กกต.จึงขอความร่วมมือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมสอบสวนคดีพิเศษ และ ป.ป.ง. ที่จะเป็นความร่วมมือ ตรวจสอบความเชื่อมโยงของผู้สมัคร สว. หรือผู้ที่อยู่เบื้องหลังจะได้มากน้อยแค่ไหนเพื่อเป็นข้อมูลการประกอบการพิจารณา การกระทำที่จะทำให้การเลือกไม่สุจริต

ซึ่งลักษณะอาจทำเป็นกระบวนการที่ทำให้การเลือกตั้งเป็นไปไม่สุจริตและเที่ยงธรรม กกต.ขอความร่วมมือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมสอบสวนคดีพิเศษ และ ปปง. ที่จะเป็นความร่วมมือหลังจากนี้ ตรวจสอบความเชื่อมโยงของผู้สมัคร สว.หรือผู้ที่อยู่เบื้องหลังจะได้มากน้อยแค่ไหนเพื่อเป็นข้อมูลการประกอบการพิจารณา การกระทำที่จะทำให้การเลือกไม่สุจริต

และเมื่อได้ดำเนินการมาถึงขั้นนี้ เรียกว่าการเลือกตั้งถูกต้องหรือไม่จะมีการพิจารณาจากกระบวนการในเลือกทั้ง 3 ระดับ ซึ่งทุกคำร้องและทุกคดีได้จบสิ้นไปแล้ว นั่นคือไม่มีคดีค้างที่ศาลฎีกาถือว่าการเลือกเป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย ส่วนประเด็นเรื่องความไม่ชอบ ไม่สุจริตตามกฏหมายเมื่อมีคำร้องมีการรับเรื่องเป็นคำไว้แล้ว และขณะนี้รวบรวมพยานหลักฐาน ซึ่งข้อมูล ณ วันนี้ยังพอเพียงและจะต้องไปหารวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม แต่ในชั้นนี้จึงยังไม่สามารถบอกได้ว่าการเลือกเป็นไปโดยไม่สุจริตหรือไม่เที่ยงธรรม

 

Back to top button